Hungry Hub แอปรวมดีลร้านอาหารแบบบุฟเฟ่ต์และเซตเมนู ประกาศได้รับเงินระดมทุนจำนวน 450,000 ดอลลาร์สหรัฐ จาก Expara (Thailand) และ 500 Startups
Hungry Hub ทำกำไรจากเงินลงทุนของตัวเองมาเป็นระยะเวลา 8 เดือน มีผู้ใช้บริการกว่า 430,000 คนในปัจจุบัน ทำเงินให้ร้านอาหารในระบบกว่า 6 ล้านดอลลาร์ต่อปี จากการจองแพคเกจเฉลี่ยราคา 80 ดอลลาร์ต่อหนึ่งครั้ง
ในแอปมี 4 แพคเกจหลักๆ คือ:
Surasit Sachdev CEO และผู้ก่อตั้ง Hungry Hub กล่าวว่า "เป้าหมายของ Hungry Hub คือการช่วยให้ลูกค้าได้ทราบราคาที่จะต้องจ่ายก่อนจะเข้าไปทานอาหารที่ร้าน และช่วยให้ร้านอาหารได้เพิ่มยอดขายจากโปรโมชั่นที่เหมาะสม จากการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มองหาการจองร้านอาหารแบบกรุ๊ปใหญ่ สำหรับการจัดงานเลี้ยงหรือสำหรับกินเลี้ยงบริษัท ซึ่งสามารถควบคุม budget สถานที่ อาหาร และบรรยากาศได้เอง"
Anix Lynch จาก Expara กล่าวว่า "การสร้างความผูกพันกับลูกค้าในวงการอาหารควรเป็นมากกว่าแค่การทำ marketing ตอนนี้ลูกค้ามีความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีตัวเลือกเยอะ ซึ่ง Hungry Hub ช่วยให้ร้านอาหารสามารถเพิ่มยอดขายและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ โดยการที่เปลี่ยนร้านอาหาร a la carte ให้กลายเป็นบุฟเฟ่ต์นั้น เป็นการเข้าถึงตลาดแบบที่ยังไม่เคยมีมาก่อน เห็นได้จากการที่มีลูกค้ากว่า 430,000 คนใช้บริการนี้แล้ว ซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีความต้องการในตลาดนี้ค่อนข้างสูง"
คุณหมู ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ Managing Partner ของ 500 TukTuks เสริมว่า "เราชอบวิธีการนำเสนอของ Hungry Hub ที่แปลกใหม่ต่ออุตสาหกรรมอาหาร มันเห็นได้ชัดจากยอดขายและคุณภาพของร้านอาหารที่อยู่ในแอป ว่าทั้งลูกค้าและเจ้าของร้านมองว่า Hungry Hub คือตลาดที่น่าสนใจ ขณะที่คู่แข่งต่างโฟกัสไปที่การลดราคา Hungry Hub กลับช่วยให้ร้านอาหารสามารถเพิ่มยอดขาย พร้อมกับช่วยให้ร้านอาหารสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่เป็นกลุ่มใหญ่ ตรงกับ target และมีกำลังจ่าย ในการลงทุนครั้งนี้ เรามั่นใจว่า Hungry Hub จะกลายเป็นผู้นำในตลาดประเทศไทยและขยายสู่ต่างประเทศในอนาคตอันใกล้"
ปัจจุบัน Hungry Hub ให้บริการในกรุงเทพและเชียงใหม่ พร้อมเตรียมขยายไปสู่หัวเมืองต่างจังหวัดอีกหลายแห่งในประเทศไทย และขยายไปต่างประเทศในภูมิภาคช่วงปี 2020
ร้านอาหารชื่อดังที่ร่วมพาร์ทเนอร์ ได้แก่ Audrey Café, Copper International Buffet, Arno's, Maisen, Outback Steakhouse, Banyan Tree Hotel, Hilton Sukhumvit และ Sofitel So นอกจากนี้ Hungry Hub ยังร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่าง food blogger และ Klook เพื่อกระจายการขายแพคเกจทานอาหารให้กับนักท่องเที่ยว
การลงทุนรอบ Seed ครั้งนี้จะช่วยให้ Hungry Hub ขยายการครอบคลุมสู่ร้านอาหารอีก 1,000 ร้าน ภายใน 18 เดือนที่จะถึงนี้ และยังมีแผนระดมทุนระดับ Series A ให้ได้ภายในหนึ่งปี เพื่อที่จะขยายไปสู่ต่างประเทศให้ได้
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด