สำรวจบูธ iFLYTEK ใน Techsauce Global Summit 2025 กับ 6 โซลูชัน AI ที่จะเปลี่ยนโลกการทำงาน

จบไปแล้วกับงาน Techsauce Global Summit 2025 งานที่ได้รวมสุดยอดเทคโนโลยีและไอเดียจากทั่วโลกมาไว้ในประเทศไทย และหนึ่งในบูธที่คนแวะไม่ขาดสายคือ iFLYTEK แบรนด์เทคโนโลยีจากจีนที่ขนทัพนวัตกรรม AI มาเปิดตัวในไทยแบบจัดเต็ม ตั้งแต่โซลูชันด้านภาษาที่ล้ำสมัย ไปจนถึงเทคโนโลยีมนุษย์เสมือนที่โต้ตอบได้ราวกับคนจริง

บทความนี้ Techsauce จึงอยากพาทุกคนไปชมบูธของ iFLYTEK กับการเปิดตัว 6 เทคโนโลยีสุดล้ำที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในงานนี้กัน !

บันทึกการเดินบูธ พาเจาะลึกโซลูชันเด่นของ iFLYTEK ใน Techsauce Global Summit 2025

โซนแรก: MaaS + Document Q&A + AI HUB: The On-Prem All-in-One LLM Solution

ถ้าถามว่าทุกวันนี้องค์กรต้องการ AI แบบไหน คำตอบสั้นๆ คือ AI ที่ปรับให้เข้ากับงานตัวเองได้ ปลอดภัย และเชื่อมกับข้อมูลที่มีอยู่แล้ว ซึ่งโซลูชันนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นั้นโดยตรง

โซลูชันนี้คือ นี่คือ All-in-One Server Appliance ที่รวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ AI ไว้ในเครื่องเดียว ติดตั้งในองค์กรแบบ On-Premises หมายความว่าข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บและประมวลผลภายใน ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล

ความสามารถหลักๆ คือ 

  1. MaaS (Model-as-a-Service) : เลือกใช้โมเดล LLM ที่เหมาะกับงาน หรือฝึก (Fine-tune) โมเดลให้ตอบโจทย์อุตสาหกรรมเฉพาะ
  2. Document Q&A : อัปโหลดเอกสารปริมาณมาก แล้วตั้งคำถาม AI จะค้น วิเคราะห์ และสรุปคำตอบให้ทันที พร้อมอ้างอิงหน้าที่เกี่ยวข้อง
  3. AI HUB : รวมเครื่องมือ AI ที่ปรับแต่งได้ เช่น Meeting Summary, Content Generation, และ Custom Agent สำหรับงานเฉพาะ

ภายในบูธได้มีการสาธิต โดยอัปโหลดรายงาน 200 หน้า แล้วถาม AI ว่า “โครงการนี้มีความเสี่ยงอะไรบ้าง?” ไม่ถึง 10 วินาที AI ก็สรุปความเสี่ยงหลักเป็นข้อๆ พร้อมบอกเลขหน้าที่อ้างอิง ซึ่งสำหรับผู้บริหาร นี่คือการประหยัดเวลาหลายชั่วโมงในการอ่านและวิเคราะห์เอกสาร การมี on-premises LLM Solution แบบนี้ ทำให้การจัดการความรู้ขององค์กร เร็วขึ้น, แม่นยำขึ้น และปลอดภัยขึ้น ซึ่งจะกลายเป็นจุดได้เปรียบในตลาดที่ข้อมูลคือทรัพยากรสำคัญ

โซนที่ 2: ASR Annotation Platform: The Engine Behind Accurate Speech AI

ถัดมาไม่ไกลจะเจอกับหน้าจอที่แสดงไฟล์เสียงพร้อมข้อความถอดคำพูดแบบเรียลไทม์ นี่คือ ASR Annotation Platform ซึ่งแพลตฟอร์มนี้เป็น เครื่องมือเบื้องหลังที่ทำให้โมเดล Speech Recognition ของ iFLYTEK แม่นยำขนาดแยกสำเนียงได้

สิ่งที่แพลตฟอร์มนี้ทำได้ อาทิ

  • รองรับการถอดเสียง (Speech-to-Text) ในกว่า 35 ภาษา รวมถึงภาษาที่ใช้กันน้อยในตลาด เช่น รัสเซีย, เกาหลี, ญี่ปุ่น
  • มีระบบ Annotation ที่ให้ผู้ใช้เพิ่มแท็กได้ เช่น ชื่อบุคคล, คำสำคัญ, หรืออารมณ์ผู้พูด
  • สามารถทำ Text-to-Speech และ Translation ได้ในระบบเดียว
  • ใช้สร้าง Data Pipeline คุณภาพสูงสำหรับเทรนโมเดลเสียงให้แม่นยำขึ้นเรื่อยๆ

ทำไม ASR Annotation Platform ถึงสำคัญ ?

เพราะในโลกธุรกิจ การสื่อสารด้วยเสียงกำลังกลายเป็นช่องทางหลัก ไม่ว่าจะเป็น Call Center, การประชุมออนไลน์, หรือแม้แต่ Chatbot ที่ตอบด้วยเสียง ความแม่นยำของการฟังและถอดความจึงเป็นหัวใจสำคัญ

ASR Annotation Platform ช่วยสร้าง Data Pipeline คุณภาพสูง ที่เป็นเชื้อเพลิงให้โมเดล Speech AI ฉลาดและแม่นยำมากขึ้นทุกวัน

โซนที่ 3: OceanDoc สร้างสไลด์ระดับ TED Talk ด้วย AI ในคลิกเดียว 

หลังจากไปรู้จักกับโซลูชัน LLM และ Speech AI แล้ว อีกมุมหนึ่งที่ดึงดูดทั้งคนทำงานสายครีเอทีฟ, นักการตลาด และครูอาจารย์ นั่นก็คือโซน OceanDoc แพลตฟอร์ม AI ที่ทำให้การสร้างสไลด์นำเสนอระดับมืออาชีพเกิดขึ้นได้ในไม่กี่นาที

หัวใจของ OceanDoc คือการใช้ AI ทำงานแทนคุณในทุกขั้นตอน อาทิ

  • One-Click AI Generation: พิมพ์หัวข้อหรือเนื้อหาแบบย่อ แล้วปล่อยให้ AI สร้างสไลด์ที่ครบทั้งเลย์เอาท์, ภาพประกอบ, และบันทึกสำหรับผู้พูด (Speaker Notes) พร้อมใช้ทันที เหมือนมีดีไซเนอร์ส่วนตัวที่ทำงานแบบเรียลไทม์
  • Premium AI Image Creation: ไม่ต้องหาภาพประกอบเอง AI จะสร้างภาพที่เกี่ยวข้องและมีสไตล์ตรงกับเนื้อหา เลือกได้จากหลายกราฟิกเอนจินและโทนภาพ
  • Smart Layout Switching: เปลี่ยนสไตล์สไลด์ได้ทันที เช่น Minimal, Infographic หรือ Corporate เพียงคลิกเดียว
  • Diverse Professionally Designed Templates: มีเทมเพลตคุณภาพสูงสำหรับธุรกิจ, การศึกษา, การตลาด และอื่นๆ ช่วยประหยัดเวลาจัดวางโครงสร้าง

จุดเด่นของ OceanDoc คือไม่ต้องมีสกิลออกแบบก็ทำสไลด์ที่ดูเป็นมืออาชีพได้ และยังช่วยลดเวลาการเตรียมงานลงได้ถึง 80% เหมาะกับทั้งนักลงทุนที่ต้องพรีเซนต์, ครูที่ต้องสอน, หรือทีมมาร์เก็ตติ้งที่ต้องทำเดคขายไอเดียอย่างเร่งด่วน

โซนที่ 4: AI Translation Screen สะพานเชื่อมภาษาสำหรับโลกที่ไร้พรมแดน

หนึ่งในจุดเด่นของบูธ คือ หน้าจอใสขนาดใหญ่ที่มีข้อความโต้ตอบกันสองภาษาแสดงพร้อมกัน ซึ่งสิ่งนี้คือ AI Translation Screen ของ iFLYTEK เทคโนโลยีนี้ผสาน Large Model Translation เข้ากับระบบตรวจจับภาษาอัตโนมัติ (Auto Language Detection) และการตัดเสียงรบกวนหลายรูปแบบ (Multimodal Noise Reduction) เพื่อให้การแปลภาษาเป็นไปอย่างราบรื่นแม้ในพื้นที่ที่เสียงดัง เช่น สนามบินหรือจุดบริการสาธารณะ

จุดเด่นของ AI Translation Screen

  • รองรับกว่า 16 ภาษา: เช่น จีน, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, เกาหลี, อาหรับ, ไทย, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, สเปน, โปรตุเกส, รัสเซีย, ฮินดี, เวียดนาม, มาเลย์, และอินโดนีเซีย
  • Multilingual Dialogue on Dual-Sided Screens: แสดงบทสนทนาแบบสองภาษาแยกฝั่ง ระหว่างลูกค้าและเจ้าหน้าที่
  • Transparent Display: มองเห็นสีหน้าท่าทางของกันและกันผ่านจอ เพิ่มความเป็นธรรมชาติของการสื่อสาร
  • Virtual Customer Service Agent: รองรับการใช้งานร่วมกับดิจิทัลฮิวแมน ทำให้สามารถให้บริการแม้ไม่มีเจ้าหน้าที่จริงอยู่หน้างาน

ทาง iFLYTEK  ก็ได้อธิบายภาพการใช้งานในหลากหลายสถานที่ เช่น เคาน์เตอร์บริการรถไฟใต้ดิน (Metro Service Center), เคาน์เตอร์สนามบิน (Airport Service Desk), จุดบริการนักท่องเที่ยว (Tourist Information), หรือแม้แต่ในเคาน์เตอร์ต้อนรับโรงแรม (Hotel Reception Desk)

ทั้งหมดนี้ทำให้เห็นว่า AI Translation Screen ไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์แปลภาษา แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ บริการสาธารณะและการต้อนรับแบบไร้พรมแดน

โซนที่ 5: AI Avatar เมื่อ “มนุษย์เสมือน” กลายเป็นเพื่อนคู่คิดและผู้ช่วยงานจริง

ในโซนนี้ได้นำเสนอ iFLYTEK AI Avatar หรือโซลูชัน “มนุษย์เสมือน” ที่สามารถโต้ตอบ พูดคุย และให้บริการได้เหมือนคนจริง 

ซึ่งหัวใจของเทคโนโลยีนี้ คือการผสานความสามารถสำคัญของ AI ได้แก่ การพูด การฟัง และการเข้าใจภาษา เข้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ไม่ว่าจะเป็น Speech Synthesis, Speech Recognition, Semantic Comprehension, Multilingual Translation และการใช้ Spark Large Language Model ในการตอบสนองอย่างชาญฉลาด

โดยมีความสามารถเด่น คือ

  1. Out-of-the-Box Deployment: มีเทมเพลตสนทนาพร้อมใช้ ปรับแต่งได้ง่ายแบบ Low-code จึงเปิดใช้งานได้ภายใน 24 ชั่วโมง ลดเวลาการพัฒนาได้ถึง 80%
  2. Omnichannel Integration: ฝัง AI Avatar ลงใน Touchpoint ได้หลากหลาย เช่น คีออสก์, เว็บไซต์, แอปพลิเคชัน, หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์หุ่นยนต์
  3. Flexible Deployment Options: เลือกได้ทั้ง Public Cloud สำหรับงานทั่วไป หรือ Private Cloud เพื่อความปลอดภัยสูงในงานด้านการเงินและหน่วยงานรัฐ

โดยในบูธจะมีจอ LED แสดง AI Avatar ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนตัว Avatar หลากหลายบุคลิก ทั้งผู้ช่วยต้อนรับในโรงแรม, เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลนักท่องเที่ยว, ครูสอนออนไลน์ และผู้ช่วยในศูนย์บริการลูกค้า 

โดยแต่ละตัวสามารถปรับเสียง พูดคุยแบบโต้ตอบ และมีการแสดงออกทางสีหน้าที่ลื่นไหลแบบ Real-time โดยโซลูชันนี้ไม่เพียงเป็นหน้าตาให้กับบริการ แต่ยังสามารถทำงานเป็นช่องทางสื่อสารหลักในโลกที่ลูกค้าและผู้ใช้งานคุ้นชินกับการโต้ตอบแบบดิจิทัลมากขึ้นทุกวัน

โซนสุดท้าย: Mia: AI เพื่อนคู่ใจและเกมบทบาทสมมติที่โต้ตอบได้เหมือนจริง

อีกหนึ่งโซนที่เรียกรอยยิ้มจากผู้เข้าชมได้มากที่สุดก็คือ Mia แพลตฟอร์ม AI ที่ผสานความเป็นเกม, เพื่อนคุย, และเครื่องมือสร้างสรรค์เนื้อหาเข้าไว้ด้วยกัน

หัวใจของ Mia คือการให้ผู้ใช้เลือกคาแรกเตอร์ หรือสถานการณ์ที่ต้องการโต้ตอบ ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มหล่อคารมดี, สาวน้อยในหมู่บ้านชนบท, ศาสตราจารย์โรงเรียนเวทมนตร์, นักผจญภัยในโลกแฟนตาซี หรือแมวขนฟูน่ารัก AI จะสวมบทบาทนั้นอย่างเต็มที่ ทั้งในโทนภาษา, อารมณ์, และเนื้อเรื่องที่ต่อเนื่องกัน

ประสบการณ์ที่ผู้เข้าชมได้ลองในงาน

  • สามารถเลือกคาแรกเตอร์แล้วเริ่มบทสนทนาได้ทันที ผ่านหน้าจอที่ออกแบบให้ใช้งานง่าย
  • AI สามารถเล่าเรื่อง, ตอบโต้ตามบทสนทนา, หรือแม้กระทั่งสร้างสถานการณ์ใหม่ในแบบเรียลไทม์
  • ใช้ได้ทั้งเพื่อความบันเทิง, การฝึกภาษา, หรือเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนและสร้างคอนเทนต์

ทำไมโซนนี้ถึงได้รับความสนใจ ?

เพราะ Mia แสดงให้เห็นว่า AI ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่เครื่องมือทำงาน แต่สามารถเป็นเพื่อนคู่คิดและเพื่อนเล่น ที่สร้างความผูกพันทางอารมณ์กับผู้ใช้ได้จริง และยังเปิดโอกาสให้ธุรกิจด้านเกม, การศึกษา, หรือแพลตฟอร์มโซเชียล นำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ได้อย่างหลากหลาย

ปิดท้ายจากการเดินสำรวจบูธ iFLYTEK ในงาน Techsauce Global Summit 2025 จะเห็นได้ชัดว่าบริษัทนี้ไม่ได้มาเพียงเพื่อโชว์นวัตกรรม แต่ตั้งใจนำเสนอเทคโนโลยี AI ที่พร้อมใช้งานจริงในทุกด้าน ตั้งแต่การจัดการข้อมูลภายในองค์กร, การประมวลผลเสียง, การสร้างคอนเทนต์, ไปจนถึงการสื่อสารข้ามภาษาและการโต้ตอบกับผู้ใช้ผ่านมนุษย์เสมือนและเกมบทบาทสมมติ

ทั้ง 6 โซลูชัน อาทิ MaaS + Document Q&A + AI HUB, ASR Annotation Platform, OceanDoc, AI Translation Screen, AI Avatar, และ Mia ไม่เพียงสะท้อนศักยภาพด้านวิศวกรรมและการออกแบบระบบ AI ของ iFLYTEK แต่ยังแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ว่าอนาคตของเทคโนโลยีคือการเชื่อมต่อทุกประสบการณ์เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ

ข้อมูลจากงาน Techsauce Global Summit 2025

บทความนี้เป็น Advertorial

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

รู้จัก ‘Space-Based Solar Power’ นวัตกรรมจาก ‘Overview Energy’ ส่งพลังงานแสงอาทิตย์จากนอกโลก เพื่อช่วยให้กลางคืนผลิตไฟได้

Overview Energy ระดมทุน 20 ล้านเหรียญ พัฒนาเทคโนโลยียิงเลเซอร์ส่งพลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศลงสู่แผงโซลาร์บนโลกโดยตรง ช่วยผลิตไฟฟ้าได้ 24 ชม. ไม่ต้องสร้างสถานีรับใหม่ เตรียมเปิดใช้จร...

Responsive image

AI กำลังไต่ระดับสู่ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา แม้ไม่เคยเรียนรู้สิ่งเหล่านั้นมาก่อน มีโอกาสเก่งเทียบนักภาษาศาสตร์

ค้นพบความสามารถใหม่ของ AI ที่สามารถวิเคราะห์ภาษามนุษย์ได้เหมือนนักภาษาศาสตร์จริง ๆ จากการสร้างผังประโยค แก้ความกำกวม และเข้าใจโครงสร้างภาษาอย่างลึกซึ้ง...

Responsive image

จีนเชื่อม ‘ศูนย์คอมพิวเตอร์’ 40 แห่ง ให้เป็น Supercomputer เครื่องเดียว

จีนเปิดเครือข่าย AI ระดับชาติ เชื่อมศูนย์คอมพิวเตอร์ทั่วประเทศเป็น ‘สมองยักษ์’ ยาวรอบโลก 1.5 รอบ เร็วแรงส่งข้อมูล 72 เทราไบต์เสร็จใน 2 ชั่วโมง จากเดิมที่ส่งผ่านเน็ตธรรมดาใช้เวลา 2 ...