สิทธิและเสรีภาพในการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้คนในแต่ละประเทศแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทั้งยังมีแนวโน้มว่า ภาครัฐจะจำกัดสิทธิของพลเมืองดิจิทัลมากขึ้น เข้มงวดกับการให้พลเมืองเข้าถึงข้อมูล เซ็นเซอร์ข่าวสาร หรือแม้แต่ป้องกันการเข้าใช้อินเทอร์เน็ต
อิสระด้านการใช้อินเทอร์เน็ตกำลังลดลงทั่วโลก แต่สำหรับนักกิจกรรมใช้ความได้เปรียบด้าน residential proxies กับการเข้ารหัส VPNs เป็นกระบอกเสียงในการพูดเรื่องต่อต้านคอร์รัปชัน และเพื่อสร้างสังคมที่มีความเป็นธรรมมากขึ้น
การใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างอิสระหรือการถูกควบคุมการใช้งานเน็ตอย่างเข้มงวด เกี่ยวพันกับการเมือง การบริหารประเทศ และผู้นำ จนแยกกันไม่ออก แต่ในขณะที่บางประเทศคุมเข้มเรื่องเน็ต สั่งแบนการใช้โซเชียลมีเดีย บางประเทศกลับให้อิสระในการใช้งานอินเทอร์เน็ตขั้นสูงสุด
หากจะดูว่าประเทศไหนมีอิสระในการใช้อินเทอร์เน็ตน้อยที่สุดและมากที่สุดในโลก เว็บไซต์ Proxyrack ทำวิจัยและเก็บอัตราส่วนของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในแต่ละประเทศเอาไว้ (ต่อประชากร 100,000 คน) รวม 20 ประเทศ ตลอดจนกฎหมายเซ็นเซอร์ที่พลเมืองในแต่ละประเทศต้องปฏิบัติตาม และอิสระในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ทำได้ โดยแยกตามหัวข้อได้ดังนี้
อันดับ 1 สหราชอาณาจักร 0/10 ไม่มีการควบคุมการใช้โซเชียลมีเดียแต่อย่างใด
อันดับ 2 ญี่ปุ่น 0.40/10 มีอัตราการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตที่ต่ำมาก
อันดับ 3 เยอรมนี 0.66/10 มีเสรีภาพในการใช้อินเทอร์เน็ตสูง
อันดับ 1 จีน 9.21/10 คุมเข้มมากที่สุดเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ต, รัฐบาลจีนแบนการใช้โซเชียลมีเดียฝั่งตะวันตก, เข้มงวดอย่างมากกับสื่อที่พูดเรื่องการเมืองบนโลกออนไลน์
อันดับ 2 อิหร่าน 8.16/10 แบนการใช้โซเชียลมีเดียฝั่งตะวันตก, คุมเข้มการเข้าถึงสื่อการเมือง, พลเมืองมีเสรีภาพในการใช้อินเทอร์เน็ตน้อยมาก
อันดับ 3 อียิปต์ 6.84/10 มีอัตราส่วนของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตน้อยกว่าหลายประเทศ, มีเสรีภาพในการใช้อินเทอร์เน็ตน้อย นอกจากนี้ยังเป็นที่เลื่องลือว่า รัฐบาลอียิปต์จับสื่อมวลชนกับนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยขนบนโลกออนไลน์บ่อยครั้ง
บราซิล ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา 2/11
ไนจีเรีย 3/11
เม็กซิโก 4/11
อ้างอิง
Internet Freedom Around The World : The countries with the most and least internet restrictions
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด