Willow ชิปควอนตัมจาก Google แรงทะลุจักรวาล ประมวลผลเรื่องยากได้ในเวลา 5 นาที เร็วกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ล้านล้านเท่า | Techsauce

Willow ชิปควอนตัมจาก Google แรงทะลุจักรวาล ประมวลผลเรื่องยากได้ในเวลา 5 นาที เร็วกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ล้านล้านเท่า

Willow คือชื่อชิปควอนตัมใหม่ที่ Google พัฒนาสำเร็จ โดยแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่สำคัญในเทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวติ้ง ชิปตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป้าหมายในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้เร็วกว่าเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยสามารถประมวลผลได้ในเวลาเพียง 5 นาที ขณะที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกอย่าง Frontier ต้องใช้เวลาถึง 10,000,000,000,000,000,000,000,000 ปี ซึ่งมากกว่าอายุของจักรวาลนี้เสียอีก

Willow คืออะไร ทำไมถึงแรงกว่าชิปทั่วไป ?

ชิป Willow เป็นชิปประมวลผลที่มาพร้อมกับความสามารถด้านการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล โดยใช้หลักการ ‘คิวบิต’ (Quantum bit) แทน ‘บิต’ (Bit) ที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ทั่วไป 

บิตธรรมดาแทนค่าได้แค่ 0 หรือ 1 แต่คิวบิตแทนได้ทั้ง 0, 1, หรือทั้งสองอย่างพร้อมกัน ความสามารถนี้ทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์คำนวณได้เร็วกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปแบบเทียบไม่ติด

แต่ Willow พิเศษกว่านั้น เพราะมันทำงานโดยใช้สิ่งที่เรียกว่า Superconducting Transmon qubits อธิบายให้เห็นภาพคือ วงจรไฟฟ้าจิ๋วๆ ที่มีคุณสมบัติพิเศษแบบควอนตัม วงจรพวกนี้เราสร้างขึ้นมาเลียนแบบอะตอม และควบคุมให้มันอยู่ในสถานะควอนตัม ซึ่งสถานะนี้เปราะบางมาก ถูกรบกวนง่าย ดังนั้นเพื่อให้มันทำงานได้อย่างถูกต้อง จะต้องทำให้มันเย็นมากๆ ใกล้ศูนย์องศาสัมบูรณ์ (-273.15 องศาเซลเซียส) การทำแบบนี้จะช่วยลดการสั่นสะเทือนของอะตอม รวมถึงสิ่งรบกวนอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการคำนวณ

หนึ่งในความท้าทายใหญ่ของควอนตัมคอมพิวเตอร์คือยิ่งเพิ่มคิวบิต ข้อผิดพลาดก็จะยิ่งมากขึ้นตาม แต่ Willow สร้างความก้าวหน้าครั้งสำคัญด้วยการลดอัตราความผิดพลาดลงอย่างมหาศาล แม้จะเพิ่มจำนวนคิวบิตก็ตาม นี่เป็นความสำเร็จที่นักวิทยาศาสตร์พยายามมาตลอด 30 ปี

ชิป Willow เอาไปทำอะไร ?

Google มองว่า Willow เป็นก้าวสำคัญในการสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่ใช้งานได้จริงสำหรับการใช้งานในด้านต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น

การค้นพบยา: จำลองปฏิกิริยาโมเลกุลเพื่อพัฒนายาใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

พลังงานฟิวชัน: ออกแบบและจำลองระบบฟิวชันเพื่อพัฒนาแหล่งพลังงานสะอาดแห่งอนาคต

วัสดุศาสตร์: ออกแบบวัสดุใหม่ๆ ที่มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น แบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น วัสดุที่แข็งแรงและเบากว่า

ปัญญาประดิษฐ์: พัฒนาอัลกอริทึม AI ที่ซับซ้อนและทรงพลังยิ่งขึ้น

การเข้ารหัส: พัฒนาเทคนิคการเข้ารหัสที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น และอาจสามารถถอดรหัสแบบเดิมได้

อ้างอิง : economictimes, BBC, Google

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

จับตา 18 อุตสาหกรรม พลิกโฉมเศรษฐกิจโลก สร้างรายได้กว่า 48 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2040

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจดุเดือดกว่าเดิม มีอุตสาหกรรมบางกลุ่มที่กำลังมาแรง และเติบโตแบบก้าวกระโดด เราเรียกอุตสาหกรรมเหล่านี้ว่า 'Arenas' ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยโอกาส แต่ก็ต้...

Responsive image

Gemini 2.0 คืออะไร ใช้ทำอะไรบ้าง ? สรุปของใหม่กับ AI ที่เก่งที่สุดของ Google

หลังจาก Google เปิดตัว Gemini 1.0 ซึ่งเป็น AI แบบ Multimodal และพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนมีผู้ใช้มากถึง 2 พันล้านคนทั่วโลก ล่าสุดได้มีการอัปเกรดเวอร์ชันใหม่ในชื่อ Gemini 2.0 ซึ่งเป็น...

Responsive image

พลังงานจากหลุมดำ พุ่งชนวัตถุลึกลับในกาแล็กซี เกิดรอยปริศนารูปตัว V

NASA พบร่องรอยแปลกประหลาดจากการพุ่งชนของลำแสงพลังงานสูงที่มาจากหลุมดำขนาดมหึมาในกาแล็กซี Centaurus A (Cen A) ซึ่งอยู่ห่างจากโลก 12 ล้านปีแสง การค้นพบนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการ...