หมดยุคถ่าย Fancam ด้วยกล้องหลายตัวแล้ว! เทคโนโลยีใหม่ของ KBS จับหน้าศิลปินพร้อมกันนับสิบด้วย AI จากกล้อง 8K เพียงตัวเดียว
VVERTIGO คือเทคโนโลยีตรวจจับบุคคลด้วย AI ยุคสมัยใหม่ของ Fancam เอกสิทธ์เฉพาะจาก KBS ที่ช่วยให้การผลิต Fancam เป็นเรื่องง่าย รวดเร็วและมีความละเอียดสูง
หนึ่งในตลาดที่ได้รับความนิยมสูงในวงการ K-pop ก็คือ Fancam คำนี้เกิดมาจากคำว่า fan ที่หมายถึงแฟนคลับ รวมกับ camera มีความหมายรวมว่าวิดีโอของศิลปินที่แฟนคลับเป็นคนถ่ายเอง ซึ่งมักจะถ่ายเป็นวงที่ชื่นชอบหรือศิลปินที่ชื่นชอบเพียงคนเดียว เนื่องจากในยุคก่อนการรับชมการแสดงของศิลปินต้องชมผ่านทีวีเท่านั้น และแน่นอนว่าไม่ได้ตอบโจทย์แฟนคลับที่ต้องการโฟกัสแค่ศิลปินคนโปรดที่ตัวเองชื่นชอบ
พอถึงยุคที่มีอินเทอร์เน็ตค่อย ๆ ได้รับความนิยม Fancam จึงเข้ามามีบทบาทกับวงการ K-Pop มากขึ้น สามารถเปลี่ยนชีวิตวงที่กำลังจะเจ๊ง ให้เป็นไวรัลได้ภายในข้ามคืนได้ และมียอดรับชมสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ บางคลิปมียอดเข้าชมมากกว่า 20 ล้านครั้ง
ในขณะที่การชมผ่านทีวีค่อย ๆ ลดความนิยมลง เนื่องจากแฟนคลับไม่สามารถดูการแสดงของศิลปินที่ชื่นชอบที่สุดได้ผ่านการรับชมผ่านทีวิีแบบเดิม ๆ ดังนั้นช่องฟรีทีวีใหญ่ ๆ จึงไม่สามารถครองเรตติ้งสูงได้ตามเดิม สู่เรตติ้งเฉลี่ยเพียง 1% เท่านั้น ซึ่งนี่เป็นแรงกระตุ้นให้สามช่องฟรีทีวียักษ์ใหญ่อย่าง KBS SBS MBC ที่มีรายการเพลงของตัวเองจึงเข้ามาสนใจตลาดนี้นั่นเอง
การจะผลิต Fancam ในรายการเพลงส่วนใหญ่จะเซตกล้องแบบ Multi-Camera หรือการใช้กล้องหลายตัวในการโฟกัสแต่ละคน ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกแต่อาจจะเพิ่มต้นทุนการใช้กล้องจำนวนมาก ในฐานะที่ KBS เป็นช่องฟรีทีวีที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนสาธารณะ จึงได้มีการพัฒนาแนวทางที่จะช่วยลดต้นทุนการผลิต ด้วย VVERTIGO โซลูชันที่ผสมผสานเทคโนโลยีการตรวจจับบุคคลด้วย AI เข้ากับกล้องวิดีโอ 8K เพื่อผลิต Fancam ได้ด้วยกล้องเพียงตัวเดียว
VVERTIGO ถูกพัฒนาครั้งแรกในปี 2018 และใช้ครั้งแรกในรายการเพลงชื่อ Music Bank ของทาง KBS ในปี 2019 โซลูชันนี้สามารถสร้าง Fancam ที่ปกติจะต้องได้จากกล้องหลายตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับว่ามีตากล้องคอยแพลนกล้องตามศิลปินจริง ๆ
การใช้ AI เข้ามาช่วยทำให้ KBS สามารถผลิต Fancam แยกโฟกัสศิลปินได้พร้อมกันหลายคนได้อย่างรวดเร็วและมีความคมชัดสูง แม้จะใช้กล้อง 8K เพียงหนึ่งตัวในการถ่าย
อียุนแจ รองผู้อำนวยการ KBS กล่าวว่า เทคโนโลยีนี้ช่วยลดจำนวนกล้องในการผลิต Fancam ลงได้ถึง 70%
เทคโนโลยีนี้ได้รับการยกย่องในด้านประสิทธิภาพ ทั้งประหยัดต้นทุนการผลิต ลดเวลาในการเตรียมงาน การตัดต่อ และลดภาระงานที่ต้องทำซํ้า ๆ เพิ่มโอกาสให้ทีมงานได้ใช้เวลาสร้างสรรค์งานในส่วนอื่น ๆ
จากความสำเร็จของ VVERTIGO ในรายการเพลง จึงพัฒนาประสิทธิภาพเพิ่มเติม โดยนำไปใช้ในหลากหลายรายการของทาง KBS ได้แก่ คอนเสิร์ตส่งท้ายปี รายการทอล์คโชว์ รายการกีฬา และกิจกรรมอื่น ๆ
และภายในปี 2023 VVERTIGO ได้เตรียมเสนอโซลูชันใหม่ที่มีชื่อว่า VVERTIGO Live หรือ โซลูชันติดตามศิลปินด้วย AI แบบเรียลไทม์ ที่จะให้ผู้ชมได้เลือกเปลี่ยนกล้องไปชมศิลปินที่ชื่นชอบได้อย่างอิสระขณะรับชมแบบสด ๆ อีกด้วย
ปัจจุบัน VVERTIGO ได้รับการยอมรับในวงการ K-pop ในการใช้ AI ในการผลิต Fancam ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งอาจจะสร้างแรงบันดาลใจสำหรับบริษัทและสถานีทีวีอื่น ๆ ในการพัฒนาเทคโนโลยีในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อการผลิตและสร้างสรรค์เนื้อหาในอนาคต เพราะการนำเสนอเนื้อหาคุณภาพสูงที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีล่าสุดแก่ผู้ชมถือเป็นภารกิจสำคัญของทีวีสาธารณะ อียุนแจกล่าว
อ้างอิง: publicmediaalliance, vvertigo
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด