ธนาคารกรุงไทยเปลี่ยนชื่อแอปพลิเคชันใหม่จากเดิมชื่อ 'KTB netbank' เปลี่ยนใหม่เป็น 'Krungthai NEXT' ภายใต้แนวคิด "ชีวิตครบ แอปเดียวอยู่" พร้อมประกาศวิสัยทัศน์สู่ Invisble Bank ชูจุดแข็งในการเป็นผู้นำการเชื่อมเข้ากับระบบเข้ากับภาครัฐและเอกชนที่ครอบคลุม ให้ผู้ใช้ทำธุรกรรมครบวงจรบนแอปเดียว เหมือนทำธุรกรรมที่ธนาคาร โดยการปรับปรุงครั้งนี้ต้องการตอบโจทย์ 3 ปัจจัย ได้แก่
โดยธนาคารกรุงไทย ระบุว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังหลายๆ โครงการสำคัญของภาครัฐ เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, PromptPay, QR เติมบุญเพื่อบริจาคเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย
โดยจุดแรกที่แอปปรับปรุงคือ การปรับเมนูลัดอย่างการโอน เติม จ่าย และสแกน QR Code ให้อยู่ในจุดเดียวที่บนหน้าแรกของแอป รวมถึงแสดงยอดเงินในบัญชีได้จากหน้าแรก และมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง การรองรับการชำระเงินของหน่วยงานภาคเอกชนและภาครัฐ โดยรองรับการชำระค่าปรับจราจร กยศ. และบิลภาครัฐมากกว่า 1,000 รายการ
รวมถึงรองรับการบริจาคเงินผ่าน QR เติมบุญ พร้อมนำมาลดหย่อยภาษีได้ทันที และยังซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลล่วงหน้าได้อีกด้วย และยังแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสำหรับผู้ใช้บัตร Krungthai Travel Card ได้จากแอปอีกด้วย
ต่อมายังประกาศปรับเรื่องของความปลอดภัย โดยสามารถตั้งยอดเงินที่ต้องใช้ PIN หรือสแกนใบหน้า-ลายนิ้วมือ ตั้งแต่การกระบวนการธุรกรรมต่างๆ ได้ โดยยังสามารถตั้งป้องกันการทำธุรกรรมที่มียอดจำนวนสูงๆ ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังประกาศปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม 5 เท่า ซึ่งจากเดิมรองรับการทำธุรกรรมได้สูงสุดเพียง 8,000 รายการต่อวินาที ปรับเป็นรองรับการทำธุรกรรมได้สูงถึง 25,000 รายการต่อวินาที เพื่องรองรับการขยายตัวการทำธุรกรรมผ่านอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ซึ่งทางธนาคารกรุงไทยเปิดให้ดาวน์โหลดแอปดังกล่าวทั้งบน Play Store (Android) และ App Store (iOS) ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมาแล้ว
น่าจับตาว่าการปรับปรุงครั้งนี้ ทั้งของ KBank, Krungthai และของ SCB ที่กำลังจะเกิดขึ้น ต้องติดตามต่อว่าแอปใดจะมีการปรับปรุง Mobile Banking อีก แต่การทุกการปรับปรุงล้วนเป็นผลประโยชน์ต่อผู้บริโภคที่จะทำธุรกรรมการเงินได้สะดวกขึ้น เพราะหลังจากที่เกิด PromptPay และธนาคารหลายๆ แห่งต่างประกาศฟรีค่าธรรมเนียม ทำให้หลายๆ ธนาคารเกิดการปรับตัวมากขึ้นพอสมควร
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด