LINE มีแผนเตรียมให้บริการด้านประกันภัยและการเทรด Cryptocurrency | Techsauce

LINE มีแผนเตรียมให้บริการด้านประกันภัยและการเทรด Cryptocurrency

Bloomberg รายงานว่า LINE ผู้ให้บริการ Instant Messaging ชื่อดัง เตรียมขยายบริการด้านการเงินโดยเน้นที่ด้านการประกันภัยและเทรด Cryptocurrency โดยได้ใบอนุญาตให้สามารถซื้อ-ขาย Cryptocurrency ในประเทศญี่ปุ่นได้

LINE ได้ตั้ง Holding Company (บริษัทที่สร้างรายได้จากการถือหุ้นในบริษัทอื่นเป็นหลัก) ด้านการเงิน และวางแผนที่จะเปิดตัวบริการด้านการเงินในเอเชียเป็นที่แรก อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลเรื่องนี้อยู่ ซึ่งแหล่งข่าวของ Bloomberg ระบุว่า LINE ได้ใบอนุญาตให้สามารถซื้อ-ขาย Cryptocurrency ในประเทศญี่ปุ่นได้แล้ว เตรียมขยายไปยังฮ่องกงและลักเซมเบิร์ก

รายงานเดือนกรกฎาคม 2016 ระบุว่า LINE ได้เริ่มโฟกัสตลาดในระดับ Global มากขึ้น หลังจากครองส่วนแบ่งทางการตลาดในไต้หวัน, ญี่ปุ่น, ไทย และอินโดนีเซีย เมื่อยอดผู้ใช้งานเริ่มลดลง Takeshi Idezawa CEO ของ LINE ก็มีแนวคิดที่ต้องการเปลี่ยนให้แอปเป็น Messaging Service ที่รองรับการด้านการติดต่อสื่อสารและความบันเทิง (โดยเน้นไปที่วิดีโอ) ได้ภายในที่เดียว ภายใน 5 ปี รวมไปถึงการนำ AI เข้ามาใช้ในบริการอีกด้วย

โดย LINE ยังเตรียมเพิ่มแผนทางการเงินเพื่อลดการพึ่งพารายได้จากการโฆษณา และเตรียมเสนอเป็นอีกหนึ่งทางในกับผู้ประกอบการที่อยู่ในประเทศที่มีผู้ใช้ Facebook Messenger และ WhatsApp เป็นหลัก สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

แหล่งข่าวยังระบุต่อว่าบริการด้านประกันภัยและการเทรด Cryptocurrency ที่เตรียมให้บริการจะเป็นแบรนด์แยกออกไปชัดเจน โดยบริการด้านประกันภัยจะเน้นไปที่การขายประกันที่ราคาไม่สูง เจาะไปที่ตลาดประเทศญี่ปุ่ณที่มีค่า Commission การประกันภัยสูง

นอกจากนี้ LINE ยังเตรียมนำเอาเทคโนโลยี Blockchain มาใช้กับประเทศที่ยังไม่ได้พัฒนาได้พัฒนา Infrastructure ด้านการเงิน ให้สามารถใช้บริการพื้นฐานด้านการเงินได้ เช่น การจ่ายบิลค่าบริการต่างๆ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

นอกจากนี้แหล่งข่าวยังเผยอีกว่า LINE ยังเตรียมหาบุคคลที่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีทางด้านการเงินและ Blockchain จากทั่วโลกอีกนับ 100 ตำแหน่งอีกด้วย

LINE เคยเปิดตัว Wallet อย่าง LINE Pay บนสมาร์ทโฟนเมื่อปี 2014 มีผู้ลงทะเบียนทั่วโลกจำนวน 40 ล้านคน ปี 2017 มียอด Transaction สูงถึง 300,000 ล้านเยน (2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็นผลมาจากผู้ใช้ในไต้หวันใช้ช่องทางนี้ในการชำระภาษีมากขึ้น

อ้างอิงข้อมูลจาก Bloomberg

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

IMD จัดอันดับ Digital Competitiveness ปีนี้ ไทยร่วงจาก 35 เป็น 37 ถ้าอยากขยับขึ้น...ต้องแก้ไขตรงไหนก่อน?

ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล ประจำปี 2567 โดย IMD World Competitiveness Center ไทยได้อันดับ 37 ขยับลงจากปีก่อน 2 อันดับ (35) แล้วจะทำอย่างไรให้ไทยได้อยู่ในอัน...

Responsive image

สู่ Siri ยุคใหม่ ! เผย Apple เตรียมเปิดตัว LLM Siri ในปี 2026 ท้าแข่ง ChatGPT โดยเฉพาะ

OpenAI ถือเป็นหนึ่งในบิ๊กเทคฯ ยักษ์ใหญ่ที่มีความก้าวกระโดดด้านการพัฒนา AI หลังจากสร้างกระแสด้วยแชทบอท ChatGPT ไปเมื่อปลายปี 2022 ซึ่งเมื่อปีที่แล้วก็เพิ่งมีดีลกับ Apple ในการนำ Cha...

Responsive image

American Airlines เปิดตัวระบบจัดการคิวอัจฉริยะ เทคโนโลยีเสียงเตือนสองระดับ ปิดเกมสายแซงคิวขึ้นเครื่อง

เคยเจอไหม? คนแซงคิวขึ้นเครื่องจนวุ่นวายที่ประตูทางขึ้น หลังจากนี้จะไม่มีอีกต่อไป เมื่อ American Airlines แก้ปัญหานี้ด้วยเทคโนโลยีเสียงเตือนอัจฉริยะ ที่จะจับทุกความพยายามแอบขึ้นเครื...