LINE STICKERS ก้าวสู่ปีที่ 7 เผยจำนวนสติกเกอร์สะสมโดยเฉลี่ยต่อผู้ใช้ 1 คนสูงถึง 65 ชุด โดยเป็นสติกเกอร์ที่จำหน่ายสูงถึง 20 ชุด ติดอันดับ 1 ใน 3 ประเทศที่มีการเติบโตสูงสุด และยังสามารถเพิ่มความนิยมในการใช้งานธีมไลน์ โดยขยายสัดส่วนรายได้จากของธีมตกแต่งหน้าจอจาก 30% เป็น 45% ของยอดขายสติกเกอร์ เดินหน้าตอกย้ำความสำเร็จด้วยการจับมือพันธมิตรกลุ่มผู้ผลิตคอนเทนต์ต่างๆ รวมถึงผู้ผลิตคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ ขยายรูปแบบของคอนเทนต์ให้หลากหลาย พร้อมขยายช่องทางการจำหน่ายไปบนแพลทฟอร์มของพาร์ทเนอร์ให้เข้าถึงคนไทยทั่วประเทศ ควบคู่ไปกับการสนับสนุนครีเอเตอร์ไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
คุณกณพ ศุภมานพ ผู้อำนวยการธุรกิจสติกเกอร์ LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปี 2019 นับเป็นอีกปีที่ธุรกิจ LINE STICKERS มีการเติบโตที่น่าพอใจ พบว่ามียอดการซื้อสติกเกอร์ไว้ใช้งานสูงถึง 20 เซ็ทต่อคน โดยหากรวมสติกเกอร์ที่เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีจะมียอดสูงถึง 65 ชุดต่อคน สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของ LINE STICKERS ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์การสื่อสารของคนไทย ซึ่งนอกจากจะใช้แทนคำพูดแบบไม่ต้องพิมพ์ยาวแล้ว ยังช่วยสื่อสารความรู้สึกได้เข้าใจและชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยภาพรวมพบว่า LINE STICKERS มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่ม LINE CREATORS MARKET ถือเป็นตลาดสำคัญที่ที่น่าจับตามอง โดยในครึ่งปีที่ผ่านมา ตลาดครีเอเตอร์ไทยโตเป็นอันดับหนึ่ง พร้อมมีฐานจำนวนครีเอเตอร์ใหญ่เป็นอันดับสองในภูมิภาค
สิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของสติกเกอร์ไลน์ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสารและเป็นเครื่องมือการตลาดที่ทรงประสิทธิภาพ ของทั้งแบรนด์สินค้าและบรรดาศิลปินต่างๆ ในปัจจุบันได้ดี คือ การใช้ สติกเกอร์ไลน์ในการสื่อสารและเชื่อมความสัมพันธ์กับกลุ่มแฟนคลับของศิลปินชั้นนำ โดยที่ผ่านมามีกลุ่มศิลปิน เซเลบริตี้ที่ได้ร่วมสร้างสรรค์ไลน์สติกเกอร์ในตลาดสติกเกอร์ทางการ (Official Sticker) แล้วมากกว่า 100 เซ็ท โดยล่าสุดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปีนี้ เช่น BNK48, The Toys และ คริส-สิงโต เป็นต้น
สำหรับกลยุทธ์ในปีนี้ LINE STICKER ยังคงเน้นพัฒนาและสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกสนุกกับการใช้งาน โดยในปีนี้ได้มีการเปิดตัว Custom Sticker ที่มาพร้อมลูกเล่นใหม่ๆ ที่ให้ผู้ใช้งานได้เติมคำได้เอง และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากทำให้ผู้ใช้รู้สึกสนุก และเกิดการซื้อสติกเกอร์เซ็ทใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญการขยายช่องทางจำหน่ายและการชำระเงินผ่านแพลทฟอร์มของพาร์ทเนอร์ต่างๆ โดยล่าสุดจับมือกับ AIS เปิดให้ลูกค้า AIS สามารถใช้ AIS พอยท์แลกรับไลน์สติกเกอร์ได้เลยจากแอพ my AIS นับเป็นครั้งแรกที่มีการร่วมมือกับแบรนด์ในการใช้แพลทฟอร์มของแบรนด์สร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบการใช้งานสติกเกอร์”
อีกทั้งในปีที่ผ่านมายังขยายฐานการขายต่อเนื่องเพิ่มช่องทางการซื้อผ่านทาง LINE STICKERS VERIFIED RESELLER เนื่องจากคนไทยเคยชินกับการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านตัวแทน ทาง LINE STICKERS จึงพยายามติดต่อตัวแทนและรวบรวมผู้ขายกว่า 500 รายเข้าด้วยกัน นอกจากการมีผู้แทนขายที่การันตีโดย LINE STICKERS แล้วยังมีตู้เติมเงินสดอย่าง ตู้บุญเติมและเติมสบายพลัส ซึ่งจัดว่าเป็นการพัฒนาการใช้เงินสดซื้อสติกเกอร์เป็นที่แรกในโลก
นอกจากนี้ คุณกณพ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงวิสัยทัศน์ในการเปิดโอกาส และผลักดันครีเอเตอร์ไทยว่า การสนับสนุนครีเอเตอร์ไทยถือเป็นหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ทำอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การเปิดตัว LINE CREATORS MARKET ในประเทศไทยในปี 2014 โดยมีการจัดกิจกรรมทั้งการประกวด จัดเวิร์คชอป เพิ่มขายสินค้าจากคาแรกเตอร์ต่างๆ การทำคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง อีกทั้งยังวางเป้าหมายให้ไลน์สติกเกอร์ สามารถเป็นพื้นที่แสดงผลงานและความสามารถของศิลปินอิสระเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมคาแรกเตอร์ของประเทศไทยในภาพรวม ส่งผลให้สังคมครีเอเตอร์สติกเกอร์ไทยมีความแข็งแกร่งและขยายวงกว้างมากขึ้น ไม่จำเพาะอยู่แค่ในวงการนักออกแบบเท่านั้น แต่ยังสามารถพบเห็นครีเอเตอร์มือสมัครเล่นที่สร้างสรรค์สติกเกอร์ที่มีไอเดียโดนใจจนเป็นสติกเกอร์ยอดฮิตมากมาย โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับคุณพิชัย แก้ววิชิต เจ้าของฉายา “ช่างภาพ วินมอเตอร์ไซค์” เตรียมเปิดตัวผลงานธีมที่เกิดจากผลงานภาพถ่ายที่เป็นที่กล่าวถึงและชื่นชมจากโลกออนไลน์ ซึ่งนี่จะทำให้ LINE มีความหลากหลายมากขึ้นและเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัย
ปัจจุบันพบว่ามีผู้ทำอาชีพครีเอเตอร์หรือนักออกแบบสติกเกอร์กว่า 480,000 คนในประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมามีสติกเกอร์ผลงานของคนไทยวางขายบน LINE CREATORS MARKET แล้วมากกว่า 2 ล้านเซ็ท คิดเป็น 35% ของสติกเกอร์ที่มีวางขายทั้งหมด โดยที่ผ่านมามีไลน์สติกเกอร์ฝีมือคนไทยกว่า 28 คาแรคเตอร์ที่ได้ไปประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ และสามารถสร้างมูลค่าต่อยอดนอกเหนือจากสติกเกอร์
“LINE ทำให้เกิดอาชีพใหม่คือสติกเกอร์ครีเอเตอร์ที่บางคนทำเป็นอาชีพเสริมและบางคนเป็นอาชีพหลัก ที่ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างอาชีพให้คนไทยแล้วหลายแสนคน ยังเป็นพื้นที่แห่งโอกาสในการเติบโตไปสู่ระดับนานาชาติอีกด้วย”
ปัจจุบัน สติกเกอร์ไลน์มีอยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบ ได้แก่ สปอนเซอร์สติกเกอร์ที่แจกฟรี และสติกเกอร์จัดจำหน่ายที่มี 2 รูปแบบ ได้แก่ ออฟฟิเชียลสติกเกอร์ที่เป็นสติกเกอร์คาแรคเตอร์ชั้นนำ สติกเกอร์ศิลปิน และสุดท้ายคือ LINE CREATORS MARKET ที่เป็นพื้นที่จำหน่ายสติกเกอร์ที่เปิดกว้างให้กับครีเอเตอร์ทั่วไป ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงสุด โดย สติกเกอร์ไลน์ นับเป็น 1 ใน 3 ธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ให้กับไลน์ประเทศไทย
ส่วนที่ 1 ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ใหม่ๆ และสร้างสติกเกอร์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะ Custom Stickers
ส่วนที่ 2 สร้างแคมเปญด้านการตลาดเพื่อสร้างฐานลูกค้าที่มั่นคง เช่นการสะสมคะแนน และโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อนำเสนอแก่ผู้ใช้งาน
ส่วนที่ 3 ขยายช่องทางการเข้าถึง LINE โดยจะนำ LINE STICKER เข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์มของพาร์ทเนอร์ให้มากขึ้น
ด้วยยอดผู้ใช้งาน LINE กว่า 44 ล้านคนในไทย คาดว่าประเทศไทยจะมีโอกาสเติมโตมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต เทียบกับญี่ปุ่น และไต้หวันที่มีตลาด LINE CREATORS MARKET ที่แข็งแรงด้วยความชื่นชอบของผู้ใช้งานที่มีต่อตัวศิลปินที่เข้มข้นกว่า ทำให้การต่อยอดผลิตภัณฑ์เป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้นเช่นกัน ซึ่งในจุดนี้ทาง LINE STICKER จะผลักดันศิลปินไทยต่อไป
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด