ในงาน CES 2022 ลาส เวกัส L'Oréal เปิดตัวนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านความงาม Coloursonic อุปกรณ์ทำสีผมพกพา โดยอุปกรณ์นี้สามารถผสมสีได้อย่างไร้ขีดจำกัดและสามารถย้อมผมได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งผลิตมาเพื่อคนที่ทำผมที่บ้าน และ Coloright ระบบสีผมที่เชื่อมต่อกับ AI ที่จะเข้ามาช่วยให้ช่างทำผมสามารถลองสีผมได้ด้วย Virtual Try-on เพื่อให้ได้สีที่แม่นยำมากขึ้น สามารถปรับแต่งสีที่ต้องการได้ด้วยอัลกอริธึ่มที่กำหนดสีออกมาได้มากกว่า 1,500 เฉด
L'Oréal เป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ด้านการทำสีผมมายาวนานที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ โดยการคิดค้นสูตรการทำสีผมแบบปลอดภัยเป็นรายแรกของโลกเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว ทำให้บริษัทมีมูลค่าถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ จนถึงวันนี้ที่บริษัทได้เปิดตัวนวัตกรรมทำสีผมที่ล้ำสมัย แสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมในอุตสาหกรรมนี้
"ประสบการณ์และความเป็นผู้นำมากกว่า 100 ปีในด้านการทำสีผม ทำให้นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล และวิศวกรด้านเทคนิคสามารถปรับเปลี่ยนประสบการณ์การทำสีผมออกมาได้เป็นอย่างดี” Barbara Lavernos รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้รับผิดชอบด้านการวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยีกล่าว “ความเป็นผู้นำของ L'Oréal ในด้าน BeautyTech ช่วยให้ก้าวข้ามขีดจำกัดของเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมประสบการณ์ความงามให้ครอบคลุม และยั่งยืนมากขึ้น”
การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ร้านทำผมหลายร้านต้องปิดชั่วคราว ส่งผลให้ธุรกิจทำผมที่บ้านเติบโตขึ้น 6% ผู้บริโภคหลายคนจึงเผชิญกับความยากลำบากในการทำสีผมเพราะสถานที่ไม่เอื้ออำนวย L'Oréal จึงได้พัฒนา Coloursonic เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภค โดยใช้เวลาในการพัฒนาและปรับปรุงมาเป็นเวลา 5 ปี ทำให้เป็นอุปกรณ์ที่สามารถผสมสีเองได้ในปริมาณที่แม่นยำ และจ่ายปริมาณน้ำยาย้อมผมในปริมาณที่เหมาะสม ผ่านหัวฉีดแบบสั่นของขนแปรงที่มีลักษณะเป็นรูปแบบซิกแซกเพื่อให้กระจายสู่ผมอย่างสม่ำเสมอ สามารถใช้ง่ายๆ 5 ขั้นตอนดังนี้
1. เลือกสีผม: สามารถเลือกสีที่ต้องการได้ถึง 40 เฉดสีบนเว็บไซต์ Coloursonic
2. ใส่ตลับสีลงในอุปกรณ์: สีและน้ำยาดีเวลลอปเปอร์จะถูกแยกออกจากกันจนกว่าจะเปิดเครื่อง ทำให้สามารถรักษาสีและคงความสดใหม่ของสีเอาไว้ได้
3. แปรงผมด้วยอุปกรณ์จากโคนจรดปลายผม: หัวฉีดแบบสั่นของ Coloursonic ผ่านการทดสอบการป้องกันการรั่วซึม ความอิ่มตัวของสี และการหยดของน้ำมาแล้ว หัวฉีดนี้จะกระจายสีย้อมผม 300 ครั้งต่อนาที ทำให้ย้อมผมได้อย่างรวดเร็ว
4. รอ 30 นาที: หลังจากนั้นให้ล้างออกและจัดแต่งทรงผมได้เลย
5. นำตลับสีออกจากอุปกรณ์และเก็บสีที่เหลือไว้: ระบบตลับสีจะทำให้สามารถเก็บสีที่เหลือไว้ใช้เพื่อเสริมเติมแต่งทีหลังได้
Guive Balooch หัวหน้าฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม Tech Incubator ของ L'Oréal กล่าวว่า "เป้าหมายของเราคือการใช้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาเก่าๆ ที่ผู้บริโภคเผชิญ Coloursonic จะเป็นแบบอย่างเพื่อแสดงให้ผู้บริโภคเห็นถึงพลังแห่งนวัตกรรม ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมไปพร้อมกับผู้บริโภค"
Coloursonic ไม่ใช่แค่นวัตกรรมที่มีความล้ำสมัยเท่านั้น แต่ยังเป็นอุปกรณ์ที่สร้างมาจากความมุ่งมั่นของ L'Oréal ด้วยการนำเสนอประสบการณ์ความงามที่มีรากฐานมาจากความยั่งยืน ผ่านฟีเจอร์ต่อไปนี้
1. Recycle การใช้พลาสติก: Coloursonic เป็นอุปกรณ์ที่สามารถนำมาใช้ซ้ำได้เพราะมีตลับสี ซึ่งใช้พลาสติกน้อยกว่าการทำสีผมแบบกล่อง
2. Reuse ถุงมือ: ปกติการย้อมสีผมแบบกล่องจะมีถุงมือแบบใช้แล้วทิ้งมาให้ทุกกล่อง แต่ Coloursonic มีถุงมือที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ถึง 10 ครั้งและมีประสิทธิภาพในการป้องกันสูง
3. Reduce บรรจุภัณฑ์การขนส่ง: Coloursonic ใช้บรรจุภัณฑ์ในการจัดส่งเป็นกระดาษรีไซเคิลที่ผ่านการรับรองแล้ว
โดย Coloursonic จะเปิดตัวเป็นครั้งแรกให้แก่ผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นปี 2023
นอกจากจะสร้างนวัตกรรมในการทำสีผมที่บ้านอย่าง Coloursonic แล้ว L'Oréal ยังให้ความสำคัญกับการทำสีผมในร้านทำผมด้วย โดยการเปิดตัว Coloright ซึ่งเป็นระบบสีที่เชื่อมต่อกับ AI สำหรับช่างทำผมที่ต้องการสร้างสีใหม่ๆ ด้วยอัลกอริธึ่มที่มีการจดสิทธิบัตรแล้ว เพื่อให้ช่างทำผมได้สีที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น
Coloright จะวิเคราะห์เส้นผมผ่านปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของสี คือ สีผม เปอร์เซ็นต์ผมหงอก ความยาว และความหนาแน่นของผม โดยเครื่องนี้จะประกอบไปด้วยสีย้อมผมพร้อมตลับครีมย้อม น้ำยาดีเวลลอปเปอร์ และสารเจือจาง ส่วนประกอบเหล่านี้จะทำให้สร้างสูตรสีเฉพาะบุคคลได้ โดยสามารถกำหนดสีออกมาได้มากกว่า 1,500 เฉด
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด