รัฐบาลมาเลเซียต้องการดึง Microsoft และ Google เพื่อเข้ามาสนับสนุนให้มาเลเซียเป็น ศูนย์กลางของข้อมูล (Data Hub) ตามคำร้องขอของ Zafrul Abdul Aziz รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์มาเลเซีย
รัฐบาลมาเซียต้องการเชิญชวน 2 บริษัท Big Tech จากสหรัฐอเมริกาอย่าง Microsoft และ Google เพื่อร่วมมือกันสนับสนุนและพัฒนาประเทศไปสู่ประเทศศูนย์กลางของข้อมูล (Data Center Hub)
เรากำลังเชิญชวนผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และ กำลังพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางของข้อมูล (Data Center Hub) อย่างค่อยเป็นค่อยไป
Zafrul Abdul Aziz กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Haslinda Amin ในรายการ Bloomberg Television เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
หากถามถึงความสำเร็จของมาเลเซียในการดึงดูดบริษัทเข้ามาร่วมลงทุนในปีนี้รวมถึงการดึงดูดบริษัทต่างๆ เช่น Tesla Inc. และ Amazon Web Services
Tesla มีแผนที่จะนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าเข้าไปในภูมิภาคอาเซียน และสร้างเครือข่ายสถานี Supercharger ของตัวเอง ขณะที่ AWS หรือ Amazon Web Services ต้องการสร้างและพัฒนาฌครงสร้างพื้นฐานระบบ Cloud โดยลงทุนไปมากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ และจะทำให้สำเร็จภายในปี 2037
จากข้อมูลของหน่วยงานพัฒนการลงทุนของมาเลเซีย (Malaysian Investment Development Authority) มาเลเซียได้รับเงินลงทุนจากการดึงดูดบริษัทต่างๆเข้ามาในช่วงไตรมาสแรก ของปีซึ่งมีการอนุมัติแล้วและมีเงินสะพัดกว่า 71,400 ล้านริงกิต เพิ่มขึ้น 67% จากปีก่อนหน้า
สำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) คิดเป็น 52% ของสัดส่วนรายได้ทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นทำให้ประเทศได้รับเงินลงทุนถึง 23,000 ล้านริงกิต หรือประมาณ 172 ล้านบาท
เราเห็นการปรับเปลี่ยน Supply chain ใหม่ๆหลายครั้ง ซึ่งดูที่ความยืดหยุ่นและความปลอดภัยที่กำลังจะ มาถึงภูมิภาคนี้
Zafrul Abdul Aziz กล่าว
มาเลเซียยังมีบทบาทในการทดสอบและบรรจุผลิตภัณฑ์ชิปประมวลผลคิดเป็น 13% ของความต้องการ ในตลาดโลก Zafrul Abdul Aziz ยังประมานการไว้ประมาณร้อยละ 25 ของความต้องการในการทดสอบ และการประกอบชิปของสหรัฐอเมริกา และบริษัทในภาคส่วนนี้ได้ให้บริการกับ Tesla ซึ่งมีมูลค่าถึง 200 ล้านริงกิต
เศรษฐกิจของมาเลเซียพึ่งพาการค้าขายเป็นอย่างมากนั่นจึงเป็นความเสี่ยงที่อาจสร้างผลกระทบจากการหยุดชะงักของการค้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเกี่ยวข้องกับจีนซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศตั้งแต่ปี 2009 ความตึงเครียด ทางการค้าเกิดจากความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะจำกัดการเข้าถึง เทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ ที่สำคัญและการควบคุมการส่งออกของจีน
การส่งออกของมาเลเซียลดลงมากที่สุดในรอบเกือบสามปีในเดือนเมษายน เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนที่กำลังลดลงเช่นกัน
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของมาเลเซียขยายตัวเร็วกว่าที่คาดไว้ที่ 5.6% ในไตรมาสแรก จากปีที่แล้ว และรัฐบาลได้คาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจในปี 2023 ไว้ที่ 4.5% ลดลงเล็กน้อยจากปีที่แล้ว
หากดูในดัชนีหุ้นมาตราฐานแล้วภาพรวมก็ไม่ได้ดีมากเท่าไหร่สำหรับในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจาก ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อนตัวลงและความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ปัจจัยเหล่านี้กระตุ้นให้กองทุนทั่วโลกถอนเงินออกจากหุ้นหลายๆตัวในประเทศ ค่าเงินริงกิตก็อ่อนค่าลง 4.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้นจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลงเช่นกัน
ที่มา : Bloomberg
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด