Mark Zuckerberg ตั้งเป้าให้ 50% ของพนักงาน Facebook ทำงานจากที่บ้านถาวรภายในปี 2030 | Techsauce

Mark Zuckerberg ตั้งเป้าให้ 50% ของพนักงาน Facebook ทำงานจากที่บ้านถาวรภายในปี 2030

Mark Zuckerberg CEO ของ Facebook กล่าวว่าตอนนี้บริษัทได้ให้พนักงานจำนวนมากเริ่ม work from home อย่างถาวร หลังจากที่มีบริษัท Tech หลายเจ้าที่ใช้นโยบายการทำงานแบบกระจายศูนย์ในช่วงวิกฤตไวรัส COVID-19 

"เราจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วที่สุดด้วยวิธีการทำงานจากนอกออฟฟิศ พร้อมกับแผนดำเนินการที่รอบคอบ โดยเราใช้เวลาประเมินและทดลองในช่วงนี้" 

Mark คาดว่าพนักงานของ Facebook ประมาณ 50% จะทำงานจากบ้านอย่างถาวรภายในปี 2030 ซึ่งหมายความว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงมหาศาลต่อระบบการทำงานของบุคลากรในองค์กรทั้งหมด และจะส่งผลกระทบกับธุรกิจในแถบ Bay Area ของ San Francisco 

กระบวนการแรกคือการเปิดรับสมัครงานจากสถานที่ห่างไกลในสหรัฐอเมริกาก่อน และจะขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ นอกเหนือจากแหล่งเมืองที่เป็นที่ตั้งของออฟฟิศ Facebook  

Mark กล่าวว่า "การจำกัดการจ้างงานแค่กับคนที่อาศัยอยู่ใกล้ออฟฟิศไม่ใช่สิ่งที่ดีเท่าไหร่" 

นอกจากนี้ Facebook จะเปิดให้พนักงานปัจจุบันสามารถยื่นขอให้ทำงานจากบ้านได้ถาวร โดยจะพิจารณาจากประสิทธิภาพการทำงานและคนที่พิสูจน์ว่าสามารถทำงานข้างนอกได้เป็นอย่างดี ล่าสุด Facebook ได้อนุมัติให้พนักงานจำนวนมากสามารถทำงานที่บ้านได้ไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นปีนี้แล้ว 

Facebook เองก็ออก tools ที่ช่วยเรื่องการ work from home ออกมาเยอะเช่นกัน เช่น Messenger Rooms บริการ video conference call ที่ออกมาแข่งกับ Zoom นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Portal จออัจฉริยะสำหรับ video call และ Workplace ที่มีตัวเลขผู้ใช้งานแบบจ่ายเงิน subscribe กว่า 5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 3 ล้านคนเมื่อเดือนตุลาคม 2019

"ทุกวันนี้ มีหลายคนที่เสียโอกาสในการสมัครงาน เพราะรู้สึกว่าต้องย้ายบ้านไปอยู่ใกล้ๆ ออฟฟิศ และอาจเจอปัญหาเรื่องค่าเช่าราคาสูงหรือที่พักที่มีไม่เพียงพอในหลายๆ เมือง ลองจินตนาการดูว่ามันจะดีขนาดไหนถ้าคุณสามารถอยู่ที่ไหนก็ได้และสามารถทำงานได้จากทุกที่ หาก Facebook สามารถนำเสนอสิ่งที่กำลังพัฒนาได้สำเร็จ สิ่งนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นจริงได้ภายในปี 2030" 

อ้างอิง CNBC

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Meta เปิดตัวโครงการ PARTNR วิจัยการทำงานร่วมกันระหว่างหุ่นยนต์และมนุษย์ในบ้าน

Meta เปิดตัวโครงการ PARTNR วิจัยการทำงานร่วมกันระหว่างหุ่นยนต์และมนุษย์ในบ้าน ศึกษางานบ้าน 100,000 รายการ พร้อมใช้ AI และ Mixed Reality เพื่อพัฒนาหุ่นยนต์ให้เข้าใจมนุษย์มากขึ้น...

Responsive image

BYD ลงสนามรถยนต์ไร้คนขับ เปิดตัว God’s Eye สู้กล้อง AI จาก Tesla สมรภูมิ EV นี้ใครจะเป็นผู้นำ?

Tesla เคยถูกมองว่าเป็นบริษัทนวัตกรรมที่ล้ำหน้ากว่าใครในอุตสาหกรรมรถ EV แต่ปัจจุบันสมรภูมิการแข่งขันกลับร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อผู้เล่นรายใหญ่จากจีนอย่าง BYD กำลังไล่ตามทัน...

Responsive image

ญี่ปุ่นแซงหน้าไทย ขึ้นแท่นจุดหมายปลายทาง อันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวจีน

นักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดตรุษจีน ส่งผลให้ญี่ปุ่นกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมแซงหน้าไทย ข้อมูลจาก UN Tourism ระบุว่า ในปี 2567 ญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวต่...