เปิดตัว 'บัญชีบริการดิจิทัล' กลไกยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลที่ภาครัฐหรือเอกชนก็เลือกใช้งานได้ | Techsauce

เปิดตัว 'บัญชีบริการดิจิทัล' กลไกยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลที่ภาครัฐหรือเอกชนก็เลือกใช้งานได้

ทำความรู้จัก 'บัญชีบริการดิจิทัล' กลไกยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลไทยมาใหม่ที่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) และ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ร่วมกันผลักดันและให้ข้อมูลผ่านงานแถลงข่าวเปิดตัวการจัดทำบัญชีบริการดิจิทัล ว่าสำคัญต่อสตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการดิจิทัลไทย และผู้ใช้สินค้าและบริการดิจิทัลอย่างไร 

บัญชีบริการดิจิทัล techhunt depaTechhunt มีลักษณะคล้าย Marketplace ที่ผู้สนใจสามารถเข้าไปหาสินค้าหรือบริการดิจิทัลได้ในที่เดียว

ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบสาระสำคัญเรื่องการจัดทำบัญชีบริการดิจิทัล เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 ภาครัฐจึงหวังเป็นมาตรการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาสินค้าและบริการดิจิทัลจากผู้ประกอบการและผู้ให้บริการดิจิทัลไทยเทียบเท่ามาตรฐานสากล พร้อมเปิดโอกาสสู่ตลาดภาครัฐ ขณะเดียวกัน หน่วยงานภาครัฐจัดซื้อจัดจ้างสินค้า/บริการดิจิทัลที่มีราคากลางที่ชัดเจน และนำไปสู่การพัฒนาบริการเพื่อประชาชน สอดรับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ เผยเตรียมพร้อมให้ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนเข้าถึงและสามารถเลือกซื้อสินค้า/บริการดิจิทัลคุณภาพ ผ่าน TECHHUNT แพลตฟอร์มที่รวบรวมสินค้าและบริการดิจิทัลจากผู้ประกอบการไทยที่มีคุณภาพ และมีข้อมูลชัดเจน ซึ่งเปิดให้ทุกคน ทุกภาคส่วน สามารถเข้าถึงและเลือกใช้ได้อย่างสมัครใจ พร้อมด้วยมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนต่าง ๆ จาก ดีป้า 

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นประธานในงานแถลงข่าวการจัดทำ ‘บัญชีบริการดิจิทัล’ พร้อมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ 'นโยบายขับเคลื่อนกลไกการเร่งการเติบโตทางธุรกิจ (Scaling up) ของผู้ประกอบการดิจิทัลไทย' โดยระบุว่า รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล โดยที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลฯ มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน กำลังคน และระบบนิเวศดิจิทัล รวมถึงหากลไกใหม่ ๆ เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดที่ส่งผลต่อการขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบเชิงเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ 

ด้วยเหตุนี้ การจัดทำบัญชีบริการดิจิทัลจึงถือเป็นมาตรการสำคัญที่กระทรวงดิจิทัลฯ โดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า มุ่งมั่นผลักดันให้เกิดขึ้น เพื่อเป็นส่วนช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยมุ่งหวังให้คนไทยได้ใช้สินค้าและบริการดิจิทัลที่ได้มาตรฐานและราคาสมเหตุสมผล 

รมว.กระทรวงดิจิทัลฯ กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ 'นโยบายขับเคลื่อนกลไกการเร่งการเติบโตทางธุรกิจของผู้ประกอบการดิจิทัลไทย' 

บัญชีบริการดิจิทัล เป็นการรวบรวมสินค้าและบริการดิจิทัลจากผู้ประกอบการและผู้ให้บริการดิจิทัลไทยที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และเป็นไปตามข้อกำหนดด้านมาตรฐานและราคา ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นตัวช่วยในการคัดกรองสินค้าและบริการดิจิทัลที่มีคุณภาพในราคาที่สมเหตุสมผล อำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่มองหาสินค้าหรือบริการดิจิทัล ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐที่ต้องการเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อพัฒนาการให้บริการแก่ประชาชน 

"นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการดิจิทัลไทยในการเข้าสู่ตลาดภาครัฐ โดยรัฐสามารถใช้กระบวนการทางพัสดุด้วยวิธีคัดเลือกหรือเฉพาะเจาะจงในการซื้อหรือเช่าซื้อสินค้าและบริการดิจิทัลจากบัญชีบริการดิจิทัล ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเป็นไปอย่างเที่ยงธรรม มีมาตรฐาน และสามารถตรวจสอบได้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ กล่าว

dSURE ดีป้า SCG พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 'การยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการดิจิทัลไทยสู่ระดับสากลด้วยมาตรฐาน dSURE' ระหว่าง ดีป้า และ SCG 

ด้าน ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวว่า ดีป้า เป็นหน่วยงานหลักในการขึ้นทะเบียนบัญชีบริการดิจิทัล โดยจะตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ประกอบการดิจิทัลไทย รวมถึงสินค้าและบริการดิจิทัลที่ขอรับการขึ้นทะเบียน ไม่ว่าจะเป็น Software, Software as a Service, Digital Content Service, Smart Devices และ Hardware and Firmware ฯลฯ ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดด้านมาตรฐานตามที่สำนักงานฯ กำหนด เช่น CMMI, ISO สำหรับ Software และ dSURE สำหรับ Smart Devices ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัย การใช้งาน และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยจะจัดเก็บข้อมูลในประเทศไทยเพื่อป้องกันการรั่วไหล ทั้งนี้ ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากบริการภาครัฐที่ได้รับการยกระดับด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่เป็นของคนไทย สอดรับกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่จะช่วยให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า 

“ดีป้าเชื่อว่า บัญชีบริการดิจิทัลจะเป็นอีกปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลไทยอย่างมีคุณภาพ โดย ดีป้า เล็งเห็นถึงศักยภาพของผู้ประกอบการดิจิทัล หรือ ดิจิทัลสตาร์ทอัพไทย แต่ในทางกลับกัน การเติบโตกลับสวนทาง ขณะที่บางรายต้องปิดตัวลง เพราะไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ 

"เราจึงเร่งทำลายข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยได้แสดงความสามารถผ่านการพัฒนาสินค้าหรือบริการดิจิทัลที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานระดับสากล มีราคาที่สมเหตุสมผล และได้รับการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ภาคประชาชน โดยมีตลาดภาครัฐเป็นแก่นสำคัญ และพร้อมต่อยอดสู่การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ โดยที่ดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยจะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล และขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะบนพื้นฐานของความคุ้มค่า ทั้งคุณภาพและราคา” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

ผอ.ดีป้า กล่าวถึง pain point ว่าพบซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน จึงร่วมกับสภาอุตสาหกรรมฯ ตรวจสอบมาตรฐาน ISO และขึ้นทะเบียนรับรองให้ และในกรณี Software-as-a-service ขอให้ผู้ประกอบการขึ้นทะเบียนเป็นรายสินค้าเพื่อให้ภาครัฐรู้ว่า ต้นทุนเท่าไหร่ จำหน่ายที่ราคาเท่าไร เพื่อเป็นฐานข้อมูล

สำหรับผู้ประกอบการทั่วไปที่มีการซื้อหรือจ้างทำหรือใช้บริการสินค้าหรือบริการในบัญชีบริการดิจิทัลจะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี สามารถนำค่าใช้บริการ Software เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไปลดหย่อนภาษีสูงสุด 200% อาทิ ค่าบริการซอฟต์แวร์ที่มีมูลค่า 100,000 บาท จะได้รับสิทธินำค่าบริการดังกล่าวไปลดหย่อนภาษีได้ 200,000 บาท ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางการกระตุ้นให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในการดำเนินธุรกิจ

นอกจากนี้ภายในงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ ยังร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 'การยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการดิจิทัลไทยสู่ระดับสากลด้วยมาตรฐาน dSURE' ระหว่าง ดีป้า โดย ผศ.ดร.ณัฐพล และ SCG โดย นายอภิรัตน์ หวานชะเอม Chief Digital Officer สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ดีป้าและเอสซีจีมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมยกระดับคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่น และพัฒนาความสามารถทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ดิจิทัลของไทย รวมถึงคัดกรองผลิตภัณฑ์ดิจิทัลที่ไม่ได้มาตรฐาน และปกป้องผู้บริโภคจากภัยอันไม่พึงประสงค์ ต่อด้วยการเสวนาในหัวข้อ 'เปิดเกมรุก สู่มิติใหม่ของสินค้าและบริการดิจิทัล' โดย 

  • คุณอภิรัตน์ หวานชะเอม 
    Chief Digital Officer เอสซีจี
  • คุณนิติ เมฆหมอก 
    นายกสมาคมไทยไอโอที
  • ดร.พิมพ์ใจ โสวะภาสน์ 
    กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโฟโปร บิสสิเนส โซลูชั่น จำกัด
  • คุณอมฤต ฟรานเซน 
    กรรมการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท แอพแมน จำกัด
  • คุณชณกช ชสิธภณญ์
    ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์การพัฒนาเมือง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
  • ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง 
    นายกเทศมนตรีนครรังสิต

สรุปเบื้องต้นได้ว่า แพลตฟอร์มนี้มีข้อดีหลายประการ เช่น 1) ผู้ประกอบการดิจิทัลไทยมีรายได้เพิ่มจากฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น เพราะบริษัทเอกชนหรือหน่วยงานภาครัฐก็สามารถเข้าไปค้นและเลือกใช้สินค้าหรือบริการดิจิทัลบนแพลตฟอร์มนี้ได้ 2) ช่วยลดความเสี่ยงที่จะถูกหลอกให้ซื้อสินค้า เช่น ซอฟต์แวร์ปลอม 3) การซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มสามารถตรวจสอบได้ มีมาตรฐาน และช่วยสร้างความโปร่งใสอีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีสินค้าและบริการดิจิทัลหลากหลายแบรนด์ที่มาร่วมออกบูธ "Thailand Digital Products & Services Catalog Showcase" ได้แก่ Appman แอปตรวจสอบข้อมูลบุคคลและยืนยันตัวตนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล, ฟ้าฝน แพลตฟอร์มที่บอกข้อมูลสภาพอากาศและปริมาณน้ำฝนล่วงหน้า แจ้งเตือนภัยธรรมชาติในพื้นที่ที่ต้องการ ช่วยให้เกษตรกรวางแผนการเพาะปลูกได้ดียิ่งขึ้น, SRAN แพลตฟอร์ม, Gravitech ผู้พัฒนาโซลูชันและอุปกรณ์สำหรับ Smart Home, Hiveground แพลตฟอร์ม, Jarton แพลตฟอร์ม

ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชีบริการดิจิทัลได้ที่เว็บไซต์ www.depa.or.th เพจเฟซบุ๊ก depa Thailand หรือสามารถสมัครเป็น depa Member เพื่อขึ้นทะเบียนบัญชีบริการดิจิทัลได้ที่ LINE Official Account: depaThailand

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Apple Vision Pro ขายไม่ดีอย่างที่คิด Apple ลดคาดการณ์ยอดขายกว่าครึ่ง ปรับแผนใหม่

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สาย Apple เผยว่า Apple ได้ลดตัวเลขยอดขาย Apple Vision Pro ในปีนี้เหลือเพียง 400-450,000 เครื่องเท่านั้น ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ (มากกว่า 700–800,000 เครื่อง)...

Responsive image

Apple ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 55% ตั้งเป้าสู่ Net Zero ในปี 2030

Apple เผยรายงานความก้าวหน้าด้านสิ่งแวดล้อม และประกาศปริมาณการลดก๊าซเรือนกระจก ประจำปี 2024...

Responsive image

สร้างวิดีโอสมจริง ใช้แค่รูปนิ่งกับคลิปเสียง รู้จักโมเดล VASA-1 ที่ Microsoft กำลังวิจัย

แค่ใช้รูปถ่ายกับคลิปเสียง ก็สามารถสร้างวิดีโอของเราได้แบบสมจริง ด้วยโมเดล VASA-1 ตัวใหม่จาก Microsoft ที่ต้องบอกว่าทั้งน่าทึ่ง น่าประทับใจ และน่ากลัวด้วย...