สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า Merck & Co (MRK.N) ได้พัฒนายาต้านไวรัส ที่ชื่อว่า molnupiravir (มอลนูพิราเวียร์) ที่หากได้รับการอนุมัติจะเป็นยาต้านไวรัสชนิดรับประทานชนิดแรกที่มีส่วนลดโอกาสในการเสียชีวิตหรือการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้ครึ่งต่อครึ่งสำหรับผู้ที่เสี่ยงที่จะติดเชื้อ COVID-19 อย่างรุนแรงซึ่งจะมาแก้สถานการณ์ต่าง ๆ สำหรับโควิด-19 ให้ทั่วโลกสามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติอีกครั้งหนึ่งได้
จากการศึกษาของ Merck พบว่ายา molnupiravir มีประสิทธิภาพในการต่อต้านไวรัส โควิด-19 ทุกสายพันธุ์ เนื่องจากตัวยาสามารถเข้าไปถึงลำดับของ DNA ในไวรัสโคโรนาแล้วสามารถยุติต้นตอของไวรัสโดยตรง และจะไม่ส่งผลต่อ DNA ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแต่อย่างใด แม้ว่ายาในกลุ่มเดียวกับ molnupiravir จะมีความเชื่อมโยงกับการพิการในสัตว์ทดลองก็ตาม
นอกจากนี้ในรายงานของเมอร์ค กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงรุนแรงต่อโควิด-19 ที่ได้รับและไม่ได้รับยา molnupiravir จำนวน 775 ราย พบว่าจาก 7.3% ของผู้ที่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยยา molnupiravir วันละสองครั้งเป็นเวลาห้าวันไม่มีใครเสียชีวิตภายใน 29 วันหลังการรักษา เมื่อเทียบกับ 14.1% ผู้ป่วยที่ได้รับยาหลอก ที่มีผู้เสียชีวิตถึง 8 รายด้วยกัน
ทั้งนี้บริษัทผู้ผลิตยาของสหรัฐรวมไปถึงรัฐบาลสสหรัฐอเมริกาจึงได้มีการลงทุนเพื่อซื้อสูตรยาในการผลิต molnupiravir ให้ได้ 10 ล้านสูตรการรักษาภายในสิ้นปี 2564 และ Merck ยังตกลงที่จะออกใบอนุญาตให้ผู้ผลิตยาสามัญในอินเดียหลายรายที่สามารถจัดการรักษาให้กับประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลางเพื่อช่วยลดโควิด 19 ให้มีจำนวนยอดติดเชื้อน้อยลงให้ได้มากที่สุด
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจฟฟ์ เซียนต์ส ผู้ประสานงานทำเนียบขาว สหรัฐฯ กล่าวว่า "การฉีดวัคซีน" ก็ยังคงเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดของทุกคนในการป้องกัน COVID- 19 แต่ยา molnupiravir จะมาเป็น "เครื่องมือเสริม” ที่เป็นหัวใจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงและต่อสู้กับไวรัสโควิด19 ร่วมกับวัคซีนชนิดต่าง ๆ ที่เคยมีมานั่นเอง
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด