หลังจากที่ Netflix ได้ทำการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้สร้างความตกใจให้กับวงการสตรีมมิงและใครหลายคนด้วยตัวเลขรายได้และตัวเลขของผู้ชมที่ลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ล่าสุดในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดเผยตัวเลขผลประกอบการไตรมาสสองสู่สาธารณะ โดยในครั้งนี้ Netflix ระบุว่าสูญเสียสมาชิกเพียง 970,000 รายในช่วงไตรมาสที่สอง ซึ่งน้อยกว่า 2 ล้านคนตามที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่แล้ว ทำให้หุ้น Netflix พุ่งขึ้น 7% หลังจากประกาศ แตะระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนเมษายน

ในไตรมาสที่แล้ว Netflix กล่าวถึงการเติบโตของรายได้ที่ชะลอตัว ซึ่งกล่าวว่าเป็นผลมาจากการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดสตรีมมิง การแบ่งปันบัญชีของสมาชิกและปัจจัยอื่นๆ เช่น เศรษฐกิจที่ซบเซาและสงครามในยูเครน ทำให้วอลล์สตรีทและธุรกิจบันเทิงทั้งหมดต่างรอคอยตัวเลขและแผนการดำเนินงานของ Netflix อย่างกระวนกระวายใจตลอดในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากอิทธิพลของยักษ์ใหญ่สตรีมมิ่งมีต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในภาคส่วนอื่นๆ ซึ่งการประกาศครั้งนี้มีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น 

รักษาสถานะของการเป็นผู้ให้บริการสตรีมมิ่งที่ใหญ่ที่สุด

ปัจจุบันบริษัทมีสมาชิกประมาณ 220.67 ล้านคน ยังคงรักษาสถานะของการเป็นผู้ให้บริการสตรีมมิ่งที่ใหญ่ที่สุดไว้ได้ Netflix เผยถึงการคาดการณ์ว่า ตัวเลขสมาชิกจะเพิ่ม 1 ล้านคนในไตรมาสที่สาม ทดแทนอัตราการขาดทุนบางส่วนในช่วงครึ่งแรกของปี รายรับเพิ่มขึ้น 9% เป็น 7.97 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่รายรับต่อหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 3.20 ดอลลาร์จากระดับ 2.97 ดอลลาร์ของปีที่แล้ว หากไม่นับผลกระทบจากสกุลเงินต่างประเทศจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ บริษัทกล่าวว่า กำไรจากการดำเนินงานอยู่เหนือกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย

โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Netflix จะมีแนวทางเติบโตประมาณ 1.8 ล้านในช่วงท้ายปี เพราะ สถานการณ์ของตลาดที่ผู้เล่นกำลังหาทางปรับตัว หาจุดแข็งและเสริมทัพธุรกิจของตัวเอง การสร้างระบบนิเวศร่วมกับผู้เล่นรายอื่นอย่างโรงภาพยนตร์และผู้จัดจำหน่าย เพื่อปรับตัวให้สอดรับกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ระดับการเติบโตดังกล่าวก็อาจจะต่ำกว่าไตรมาสที่สามก่อนหน้า ยังคงมีแนวโน้มที่ต้องระมัดระวังจากอัตราเงินเฟ้อและปัจจัยด้านเศรษฐกิจมหภาคที่ไม่พึงประสงค์อื่นๆ

“เรายังคงเน้นเนื้อหา นำเสนอคอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพด้วยงบประมาณสูงเพื่อให้สมาชิกได้ดื่มด่ำ เราเคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก่อน เราได้สร้างบริษัทนี้ให้มีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้ และนี่จะเป็นการทดสอบที่ยอดเยี่ยมสำหรับองค์กรของเรา เราโชคดีที่ได้อยู่ในจุดแข็งในฐานะผู้นำในการสตรีมความบันเทิงด้วยตัวชี้วัดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรายได้ การมีส่วนร่วม สมาชิก กำไร และกระแสเงินสด เรามั่นใจและมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคต”

นอกจากนี้ในจดหมายประจำไตรมาสที่ส่งถึงผู้ถือหุ้น บริษัทกล่าวว่าได้มีการจ่ายค่าชดเชย 70 ล้านดอลลาร์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลิกจ้างในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาสำหรับสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์บางส่วน และได้กล่าวถึงซีรีส์ยอดนิยมล่าสุดอย่าง "Stranger Things" ที่ดำเนินมาถึงซีซั่นที่4 ว่าเป็นชัยชนะครั้งใหญ่บริษัท ไม่เพียงแต่ทำสถิติผู้ชมสูงสุดของบริษัทเท่านั้น แต่ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Emmys หลายรางวัลในปี 2022 ด้วย และในปีนี้ที่กำลังจะเปิดตัวซีรีส์ใหม่ Sandman รวมถึงภาพยนตร์ที่มีงบประมาณมหาศาลเช่น The Grey

Netflix ได้ระบุว่าบริษัทกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของแผนการแชร์แบบชำระเงิน (Paid Sharing) ที่ได้ทดลองในบางประเทศในแถบละตินอเมริกา โดยเพิ่มค่าบริการของสมาชิกบางคนที่มีการแบ่งปันการสมัครรับข้อมูลกับสมาชิกในครอบครัวและสมาชิกที่อยู่นอกครัวเรือนที่คาดว่าจะเปิดตัวในวงกว้างในปี 2566 นอกจากนี้ยังกล่าวถึงแพ็กเกจการรับชมแบบมีโฆษณาที่เป็นเป้าหมายใหม่ของ Netflix ที่จะร่วมมือในการให้บริการกับพาร์ทเนอร์รายใหญ่อย่างบริษัท Microsoft 

“เป้าหมายใหม่ของคือการสร้างแนวทางใหม่ รับฟังและเรียนรู้ ทำซ้ำอย่างรวดเร็วเพื่อปรับปรุงข้อเสนอด้านการบริการ ดังนั้น ธุรกิจโฆษณาของเราในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะดูแตกต่างไปจากที่เห็นในวันแรกเป็นที่แน่นอนตอนนี้เรามีเวลามากขึ้นที่จะเข้าใจปัญหาเหล่านี้ เช่นเดียวกับวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับปัญหาเหล่านี้” บริษัทกล่าว 

นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมการสตรีมในภาพรวมกำลังมีทิศทางที่ดีขึ้นหรือจะเป็นอย่างไรต้องติดตามกันต่อไป

ที่มาประกอบข้อมูล

Netflix loses nearly 1 million subscribers. That's the good news

Netflix loses fewer subscribers than expected and says cheaper ad tier is coming in early 2023

Netflix Sheds Fewer Than 1M Subscribers In Q2, Exceeding Expectations

Netflix Loses 970K Subscribers, but Forecasts 1M Gain in Next Quarter

Netflix To Launch Advertising Tier In “Early Part” Of 2023