Quest Ventures บริษัทกองทุน venture capital ในเอเชียประกาศการรับสนับสนุนส่วนแรกของกองทุนที่สองของบริษัทที่ชื่อว่า Asia Fund II ที่ตั้งเป้าไว้ในมูลค่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งการระดมทุนส่วนแรกนี้ได้ร่วมระดมทุนไปเกินกว่าครึ่งของเป้าหมายแล้ว
กองทุน Fund I ของ Quest Ventures ได้ร่วมลงทุนในบริษัท Startup ประกอบด้วย Carousell, ShopBack, 99.co, Carro, StyleTheory, SGAG/ MGAG/ PGAG, Glife, Xfers และอื่นๆ โดยผลประกอบการของกองทุน Fund I อยู่ในอันดับต้นๆ เมื่อเทียบกับกองทุนร่วมลงทุนอื่นในอันดับที่เปิดเผยต่อสาธารณะสำหรับ Fund II ปัจจุบัน Quest Ventures ได้รับการสนับสนุนจากผู้ประกอบการ ผู้บริหารระดับสูงสุด ผู้ก่อตั้งธุรกิจครอบครัวในเอเชีย สำนักงานครอบครัว และนักลงทุนสถาบัน ในอุตสาหกรรมและสัญชาติต่างๆมากมายในหลายประเทศ
ครั้งนี้นักลงทุนสถาบันที่มีชื่อเสียงสองแห่งได้เข้าร่วมในกองทุนนี้ นั่นคือ Pavilion Capital จากกลุ่ม Tamesek ของสิงคโปร์ และ QazTech Ventures จากรัฐบาลคาซัคสถาน Pavilion Capital เป็นบริษัทลงทุนที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ ซึ่งได้ลงทุนในกองทุนในเอเชียเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“เราเชื่อว่าโอกาสในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเติบโตเป็นอย่างมากและเราตั้งเป้าหมายที่จะมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศของ venture captital ในภูมิภาค (ร่วมกับ Quest Ventures)” Mr. Tow Heng Tan, CEO ของ Pavilion Capital กล่าว
โครงการเศรษฐกิจระดับชาติของคาซัคสถานได้เห็นโอกาสทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นระหว่างเอเชียกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นการลงทุนครั้งแรกของกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของประเทศคาซัคสถาน (Sovereign Wealth Fund) ในกองทุน venture capital ในเอเชีย และเห็นว่าประสบการณ์ของ Quest Ventures ในการพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมจะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศเอเชียที่กำลังพัฒนา
“การร่วมมือกันของคาซัคสถานกับกองทุนร่วมลงทุนชั้นนำของสิงคโปร์ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการรวมระบบนิเวศที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียกลาง การที่เราได้เป็นหุ้นส่วนกับ Quest Ventures และ Pavilion Capital นี้จะช่วยให้สตาร์ทอัพในคาซัคสถานมีโอกาสในการได้รับกาลงทุนมากขึ้น ได้รับความช่วยเพิ่มขีดความสามารถจากประสบการณ์ของ Quest Ventures และยังมีโอกาสเข้าถึงตลาดโลกได้มากขึ้น” Mr. Adil Nurgozhin, ประธานกรรมการบริหารของ QazTech Ventures กองทุนความมั่งคั่งแห่งคาซัคสถานกล่าว
ปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ venture capital ของเราต่างจากกองทุนอื่นๆ คือประสบการณ์ทำงานในฐานะผู้บริหารชั้นสูงของ general partners “เราได้พิจารณาในเรื่องการเลือกนักลงทุนของเราอย่างละเอียดรอบคอบ เนื่องจากเราให้ความสำคัญกับทั้งผลการดำเนินงานและผลทางการเงิน ในฐานะที่เราเองเป็นผู้ประกอบการและผู้บริหารมาก่อนที่จะมาเป็นผันตัวเองมาเป็นนักลงทุน ทำให้เรามีประสบการณ์ที่หลากหลายอุตสาหกรรมและสาขาอาชีพ เราหวังจะนำเอาทักษะที่แตกต่าง รวมถึงประสบการณ์และความสัมพันธ์ต่างๆ มาช่วยพัฒนาบริษัทที่เราเข้าไปลงทุนด้วย” Ms. Goh Yiping หุ้นส่วนของ Quest Ventures กล่าว
กองทุนที่สองของ Quest Ventures จะลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตลาดเกิดใหม่ในเอเชียที่ระดับ Post-Seed และ Series A ซึ่งปัจจุบันเราได้ลงทุนไปแล้วในประเทศที่มีการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว เช่น เวียดนาม และทางกองทุนจะการสร้างความแข็งแกร่งและขยายการลงทุนไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป เช่น ประเทศไทย อินโดนีเซีย พม่า และฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ยังจะเปิดตัว accelerator ในคาซัคสถานเพื่อให้การสนับสนุนการเริ่มต้นเศรษฐกิจดิจิตอลในภูมิภาคให้เป็นไปอย่างก้าวกระโดด ทั้งนี้ Quest Ventures จะสนับสนุนผู้ก่อตั้งที่มีความตั้งใจที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยโมเดลธุรกิจแนวใหม่ที่สามารถสร้างคุณค่าและมูลค่าอย่างยั่งยืนให้กับลูกค้าปลายทางได้
“จากที่ตัวผมมีประสบการณ์จากธุรกิจสื่อและการโฆษณา ผมได้เห็นอุตสาหกรรมของโลกการสื่อสาทางการตลาดและการโฆษณาที่ได้ถูกดิสรับมาก่อนอย่างต่อเนื่อง ผมเห็นว่ามุมมองที่แตกต่างระหว่างภาคธุรกิจของใหญ่และสตาร์ทอัพ เป็นความความแตกต่างในเชิงมุมมองมากกว่าความเป็นจริง ที่ Quest Ventures เราสนับสนุนและเน้นให้ธุรกิจใหญ่ๆทำงานเป็นพันธมิตรกับสตาร์ทอัพมากกว่า proofs-of-concept เพราะเราเห็นว่าแม้จุดเริ่มต้นอาจแตกต่างกัน แต่วัตถุประสงค์ของทั้งสองฝ่านคือความอยู่รอดและรูปแบบธุรกิจที่ยั่งยืนที่สามารถขยายเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เราเห็นว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทางฝ่ายธุรกิจเห็นพ้องต้องกัน เนื่องจากทาง Quest Ventures ได้การสนับสนุนจากผู้บริหาร C-suites ในธุรกิจใหญ่และธุรกิจครอบครัวมากมายในเอเชียในฐานะนักลงทุน เพื่อหวังผลตอบแทนทางการเงินและการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจในโลกธุรกิจดิจิตอลที่ซับซ้อนและมีความผันผวนสูง” Mr. Jeffrey Seah หุ้นส่วนของ Quest Ventures กล่าว
แม้จะมีการเรียกกองทุนนี้ว่า Quest Ventures Asia Fund II แต่มันเป็นกองทุนแรกที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนสถาบันของ Quest Ventures โดยเงินทุนก้อนแรกเป็นเงินลงทุนที่ได้มาจากเงินทุนส่วนตัวของหุ้นส่วนและผู้จัดการใหญ่ Mr. James Tan
“เนื่องด้วยเศรษฐกิจดิจิตอลกำลังเติบโตทั่วโลก ทำให้ปัจจุบันอุตสาหกรรมกองทุนร่วมลงทุน venture captial ในเอเชียเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำให้ภาครัฐและเอกชนมีความใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น นอกจากผลตอบแทนทางการเงินที่ดีแล้ว นักลงทุนยังมองหาการสร้างมูลค่าที่ได้จากโมเดลธุรกิจใหม่ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานที่แข็งแกร่งอีกด้วย โดยถือแนวทางการลงทุนของเราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการที่ทาง Quest Ventures ได้ร่วมลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพมากว่า 50 รายผ่านกองทุนแรกของเรา ทางเราขอขอบคุณในความเชื่อที่นักลงทุนมีต่อเรา” Mr. James Tan หุ้นส่วนผู้จัดการของ Quest Ventures กล่าว
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด