
Quilter สตาร์ทอัพจากลอสแองเจลิส ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการเปิดเผยรายละเอียดของ 'Project Speedrun' ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการออกแบบคอมพิวเตอร์ด้วยระบบ AI ความสำเร็จที่น่าจับตามองที่สุดคือการที่ AI ของ Quilter สามารถอำนวยความสะดวกในการออกแบบบอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (SBC) ที่รันด้วยระบบปฏิบัติการ Linux รุ่นใหม่ โดยใช้ชิ้นส่วนประกอบถึง 843 ชิ้นบนแผงวงจรพิมพ์แบบคู่ (Dual-PCB) ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือระบบสามารถบูตเข้าสู่ Debian ได้สำเร็จทันทีในการเปิดเครื่องครั้งแรก ทางทีมงานของ Quilter เชื่อมั่นว่ากระบวนการที่ขับเคลื่อนด้วย AI นี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพให้กับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ในอนาคต
จุดดึงดูดที่สำคัญที่สุดของการใช้ AI เข้ามาช่วยในการออกแบบแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) คือคำมั่นสัญญาในการขจัดปัญหาคอขวดที่เกิดขึ้นซ้ำซากในกระบวนการออกแบบระบบคอมพิวเตอร์ จากผลลัพธ์ของ Project Speedrun แสดงให้เห็นว่า ด้วยการประมวลผลผ่าน AI เพียงหนึ่งสัปดาห์ ผสานกับการช่วยเหลือจากวิศวกรผู้เชี่ยวชาญอีกเพียง 38.5 ชั่วโมง คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ก็เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับกระบวนการปกติ โปรเจกต์ที่มีความซับซ้อนระดับนี้มักต้องใช้เวลาประมาณสามเดือนสำหรับวิศวกรมนุษย์ที่มีทักษะสูง หรือคิดเป็นชั่วโมงทำงานประมาณ 430 ชั่วโมง เพื่อให้งานเสร็จลุล่วง
ทาง Quilter ชี้แจงว่า กระบวนการทำงานแบบเดิมที่พึ่งพามนุษย์เป็นหลักนั้นมักจะเผชิญกับปัญหาคอขวดอย่างรุนแรงในการทำซ้ำขั้นตอนสามระยะ ได้แก่ การตั้งค่า, การดำเนินการ และการเก็บรายละเอียด แต่เดิมนั้นมนุษย์จะต้องคอยดูแลและจัดการงานออกแบบผ่านทั้งสามขั้นตอนนี้ด้วยตนเอง แต่เมื่อมี AI ของ Quilter เข้ามาช่วย วิศวกรจึงสามารถเปลี่ยนไปโฟกัสที่ความคิดสร้างสรรค์ในขั้นตอนการตั้งค่า และการปรับแต่งในขั้นตอนการเก็บรายละเอียด โดยปล่อยให้งานหนักในส่วนของการดำเนินการเป็นหน้าที่ของ AI ซึ่งทีมงานระบุว่า AI ของพวกเขาสามารถจัดการงานทั้งสามขั้นตอนนี้ได้ทั้งหมดหากผู้ใช้งานต้องการ
การลดขั้นตอนการดำเนินการที่กินเวลานานโดยใช้ AI ถือเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด เพราะนอกจากจะช่วยปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์และเปิดโอกาสให้วิศวกรได้ทดลองรูปแบบการออกแบบที่หลากหลายขึ้นแล้ว ยังช่วยให้สามารถนำสินค้าเข้าสู่ตลาดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น การที่มนุษย์เป็นผู้ดำเนินการออกแบบและตั้งค่าด้วยตนเองมักมีความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาด ซึ่งนำไปสู่การเสียเวลาแก้ไขในขั้นตอนระหว่างกลางและทำให้โปรเจกต์โดยรวมล่าช้าออกไป
สื่ออย่าง Venture Beat ได้ตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจโดยเปรียบเทียบ Quilter กับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) อย่าง GPT-5 หรือ Claude โดยชี้ให้เห็นว่าการออกแบบแผงวงจรนั้นไม่ใช่โจทย์ทางภาษา แต่เป็นเรื่องของตรรกะทางกายภาพ ดังนั้น AI ที่อยู่เบื้องหลังเครื่องมือนี้จึงถูกฝึกฝนด้วยวิธีการที่แตกต่างออกไป กล่าวคือ มันถูกฝึกโดยการเล่นเกม 'การหาค่าที่เหมาะสมที่สุด' (Optimization game) เพื่อเอาชนะกฎทางฟิสิกส์ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ ในขั้นตอนการพัฒนาไม่มีการป้อนข้อมูลตัวอย่างบอร์ดที่ออกแบบโดยมนุษย์เข้าไปในระบบเลย การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเพราะมนุษย์มักสร้างข้อผิดพลาดในการออกแบบบอร์ด และทางผู้พัฒนาต้องการมั่นใจว่าขีดความสามารถของ Quilter AI จะไม่ถูกจำกัดอยู่เพียงแค่ระดับสติปัญญาของมนุษย์เท่านั้น
ความสำเร็จของ Project Speedrun พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าปรัชญาการพัฒนานี้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า โดยไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด เห็นได้จากปฏิกิริยาของวิศวกรท่านหนึ่งที่ประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเครื่องสามารถบูตได้สำเร็จในครั้งแรก ถึงกับอุทานออกมาว่า 'ให้ตายเถอะ มันทำงานได้จริง' ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวของ Quilter ที่ต้องการสร้างระบบออกแบบ PCB ที่ไม่เพียงแค่ทัดเทียมกับมนุษย์ แต่ต้องสามารถสร้างสรรค์การออกแบบแผงวงจรที่ดีกว่าที่มนุษย์เคยพยายามทำมา ดังที่ Sergiy Nesterenko ซีอีโอของ Quilter และอดีตวิศวกรของ SpaceX ได้กล่าวไว้
นัยสำคัญของความสามารถของ Quilter ไม่ได้ถูกยกย่องเพียงแค่ในแง่ของการประหยัดเวลา ลดแรงงาน หรือช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น แต่สตาร์ทอัพรายนี้ยังประกาศก้องถึงศักยภาพของโปรเจกต์ที่จะช่วยปลดล็อกให้เกิดสตาร์ทอัพด้านฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ๆ ขึ้นมาในวงการ ด้วยการขจัดอุปสรรคสำคัญในการเริ่มต้นธุรกิจและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อนสูงนั่นเอง
ที่มา: Tom's Hardware
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด