‘Ray Dalio’ เตือนการล้มของ ‘SVB’ อาจเป็นโดมิโน่ที่ทำให้พังทั้งตลาดได้ | Techsauce

‘Ray Dalio’ เตือนการล้มของ ‘SVB’ อาจเป็นโดมิโน่ที่ทำให้พังทั้งตลาดได้

จากข่าวใหญ่ของตลาดการเงินในช่วงที่ผ่านมานั่นคือ การล้มของบรรดาธนาคารในสหรัฐอเมริกา ที่ต้องปิดตัวลงกันถึง 3 ธนาคาร ไม่ว่าจะเป็น Silvergate Bank > Silicon Valley Bank > Signature Bank และมาตอนนี้ดูเหมือนกับว่าจะเริ่มมีธนาคารอื่นๆ เกิดปัญหาเช่นกัน ได้แก่ First Republic Bank และ Credit Suisse ที่ต่างสร้างความตื่นตระหนกให้กับทุกภาคส่วนอย่างเห็นได้ชัด เพราะด้วยความที่ ‘เงินฝาก’ ถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับสตาร์ทอัพเทคโนโลยี เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้ต้องการเม็ดเงิน เพื่อนำมาใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ เช่น R&D ตลอดจนการจ่ายเงินเดือนพนักงาน

ล่าสุด Ray Dalio ผู้ก่อตั้งและอดีตผู้บริหารเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Bridgewater Associates ได้ออกมาให้ความเห็นผ่าน LinkedIn เกี่ยวกับกรณี Silicon Valley Bank ที่มีปัญหาว่า ‘เขามีความกังวลอย่างไรบ้าง และจะเป็นการล้มแบบโดมิโน่หรือไม่’

การล้มของ SVB

การล้มของ SVB เกิดจากตัวเลขขาดทุนครั้งใหญ่ในเดือนกุมภาพันธ์ที่นำมาสู่การเทขาย และทำให้ราคาหุ้นตกลงอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก และประสบปัญหาสภาพคล่องจนต้องปิดตัวชั่วคราวเพื่อรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมกับการตั้งคำถามเกี่ยวกับการขายหุ้นก่อนหน้าวิกฤตของเหล่าผู้บริหาร

Ray มองเห็นสัญญาณอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบการเงินได้จากการล้มของ SVB ที่ได้รับผลกระทบมาจากสตาร์ทอัพและกองทุน VC (Venture Capital) ที่โตเร็วมากในหลายปีที่ผ่านมา ปัญหาคือหลายบริษัทไม่ได้ทำกำไรและพึ่งพาการใช้เงินมากเกินไป ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนสำหรับการที่ตลาดปรับตัวลงแบบฉับพลัน

ดอกเบี้ยที่ต่ำทำให้นักลงทุนกล้าที่จะรับความเสี่ยงมากขึ้น นำไปสู่การใช้ Leverage และจำนวนของบริษัทที่เพิ่มมากขึ้น

กระแสการระดมเงินเหล่านี้ทำให้เกิดเป็นฟองสบู่ที่มีความน่ากังวลว่า การล้มของธุรกิจหนึ่งอาจจะเป็นหายนะต่อระบบการเงินและกระจายไปทั้งตลาด

ข้อผิดพลาดที่ไม่ควรมองข้าม

Ray ได้มีการออกมาเตือนว่า ต้องเพิ่มระดับของการกำกับดูแลให้กับอุตสาหกรรมการเงิน โดยเฉพาะในฝั่งที่มีความเกี่ยวของกับธุรกิจภาคเทคโนโลยีที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วพร้อมความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นที่อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อทั้งตลาด นักลงทุนและหน่วยงานกำกับควรจะถอดบทเรียนจากกรณีของ SVB เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเชิงระบบ (systematic risk) ที่จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง

ที่มา

Moneycontrol

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Soft Power และ Technology คือสิ่งที่ประเทศไทยจะเดินต่อไปในอีก 5 ปีข้างหน้า สรุปแนวคิด ทักษิณ ชินวัตร

ดร.ทักษิณ ชินวัตรเผยวิสัยทัศน์ 5 ปีข้างหน้าของประเทศไทยในงาน Forbes Global CEO Conference เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ซอฟต์พาวเวอร์ และการปรับโครงสร้างภาษีเพื่อเสริมสร้างความสามารถ...

Responsive image

เปิดบ้าน WHA สำรวจศักยภาพ นวัตกรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัยทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ

WHA Open House 2024: Explore – Discover – Shape the Future เป็นการเปิดบ้านครั้งแรกของ WHA เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ WHA Group ในฐานะต้นแบบของธุรกิจที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช...

Responsive image

จีนบุกตลาด AI เปิดตัวโมเดล DeepSeek-R1 ให้เหตุผลเหมือนมนุษย์ ท้าชน o1 จาก Open AI

AI จีนขอท้าชิงพื้นที่ตลาด เมื่อบริษัทวิจัย AI เปิดตัวโมเดล DeepSeek-R1 โมเดล AI ให้เหตุผลใกล้เคียงกับมนุษย์ เปิดตัวมาท้าชิงความสามารถของโมเดล o1 จาก OpenAI...