กทม.ผ่อนปรนมาตรการเปิด-ปิด 13 สถานที่เสี่ยง ให้เปิดบริการได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด | Techsauce

กทม.ผ่อนปรนมาตรการเปิด-ปิด 13 สถานที่เสี่ยง ให้เปิดบริการได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพหานคร (กทม.) พร้อมด้วยคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน ได้มีมติจากที่ประชุมว่า จะทำการผ่อนคลายเปิดสถานที่เสี่ยง 13 แห่ง โดยสถานที่ดังกล่าวต้องต้องปฎิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้มีการประกาศอย่างเป็นทางการและมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. 2564 

สถานที่เสี่ยงที่ได้รับการผ่อนปรนมาตรการ 13 แห่ง ได้เเก่

  1. สถานที่เล่นตู้เกม ทำความสะอาดที่ต้องสัมผัสบ่อย ผู้ให้บริการผู้ใช้บริการสวมหน้ากากตลอดเวลา
  2. ร้านเกมและร้านอินเทอร์เน็ต ทำความสะอาดที่ต้องสัมผัสบ่อย ผู้ให้บริการผู้ใช้บริการสวมหน้ากากตลอดเวลา
  3. สถานดูแลผู้สูงอายุ ลดเวลาในการทำกิจกรรม หลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสกัน
  4. สถานแข่งขันทุกประเภท ยกเว้นสนามมวย สนามม้า ห้ามมีนั่งชม และปฎิบัติตามมาตรการ
  5. สถานที่ให้บริการห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน โดยทานจากเซ็ตบ็อก เท่านั้น ส่วนจำนวนคนไม่เกิน 300 คน ดำเนินการตามมาตรการ เกิน 300 คน ต้องขออนุญาตจากสำนักอนามัย กทม.
  6. สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง ควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการห้ามไม่ให้แออัด
  7. สถานเสริมความงาม ไม่ได้รับอนุญาตเป็นคลินิกเวชกรรม สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง ทำความสะอาดที่ต้องสัมผัสบ่อย ผู้ให้ริการ ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากตลอดเวลา จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ
  8. สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส ไม่ให้มีเทรนเนอร์ ผู้ฝึกสอน งดเว้นการอบตัว อบไอน้ำแบบรวม เว้นระยะห่างระหว่างเครื่องออกกำลังกายอย่างน้อย 2 เมตร
  9. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา และสถานการประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า ผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นสถานประกอบกิจการอาบน้ำ อาบอบนวด
  10. สนามฝึกซ้อม โรงยิม หรือค่ายมวย เปิดได้เฉพาะเพื่อการฝึกซ้อม การชก โดยไม่มีคู่ชก การชกมวยแบบล่อเป้า ห้ามจัดให้มีการแข่งขันและไม่มีผู้ชม
  11. สนามที่เล่นโบว์ลิ่ง สเก็ต หรือโรลเลอร์เบลต หรือการละเล่นอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน ห้ามจัดให้มีการแข่งขัน และห้ามมีผู้ชม
  12. สถาบันลีลาส หรือสอนลีลาศ ห้ามจัดให้มีการประกวดแข่ง และห้ามมีผู้ชม
  13. โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม) ห้ามไม่ให้มีการแข่งขันและห้ามมีผู้ชม

สำหรับสถานที่ยังต้องทำการปิดต่อไป ได้แก่ 

  1. สถานที่บริการ ผับบาร์ สถานบันเทิง และสถานประกอบการใดที่เปิดให้บริการที่คล้ายสถานบริการ
  2. สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็กในตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด
  3. สนามมวย 
  4. โต๊ะสนุ๊กเกอร์ บิลเลียด 
  5. สนามนกเขา 
  6. สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่ 
  7. สนามชนโค สนามปลากัด หรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกับ
  8. สถานรับเลี้ยงเด็ก
  9. สถานประกอบการกิจการอาบอบนวด 
  10. สถานประกอบการกิจการอาบน้ำ
  11. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กก่อนวัยเรียน 
  12. สวนน้ำ สวนสนุก
  13. อาคารสถานที่ของโรงเรียน สถาบันกวดวิชา และสถาบันศึกษาทุกประเภท

โดยทั้ง 13 แห่ง จะยังเปิดไม่ได้ เพราะเป็นความเสี่ยง ต้องเสนอให้ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาก่อน

ข้อมูลจาก กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เตรียมพบกับ “Taiwan Healthcare Pavilion” โซนจัดแสดงนวัตกรรมทางการแพทย์จาก 26 องค์กรชั้นนำ ในงาน TAIWAN EXPO 2024

กลับมาอีกครั้งกับการจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านสุขภาพที่ล้ำสมัยจากไต้หวันในงาน TAIWAN EXPO 2024 ระหว่างวันที่ 21-23 พฤศจิกายน 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 5 บูธ...

Responsive image

'บ้านปู' ประกาศกลยุทธ์ใหม่ Energy Symphonics เตรียมมุ่งสู่ปี 2030 เปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยั่งยืน พร้อมเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลาย ประกาศกลยุทธ์ใหม่ 'Energy Symphonics' หรือ “เอเนอร์จี ซิมโฟนิกส์” เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ปี 2030 เน้นการเปลี่ยนผ่านพลังงานอ...

Responsive image

Google เผยเศรษฐกิจดิจิทัลไทย โตอันดับ 2 ใน SEA มูลค่า 1.61 ล้านล้านบาท ขับเคลื่อนด้วยอีคอมเมิร์ซและการท่องเที่ยวเป็นหลัก

เศรษฐกิจดิจิทัลไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าในปี 2567 มูลค่ารวมของสินค้าดิจิทัลหรือ GMV จะเพิ่มขึ้นถึง 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.61 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566...