Deloitte เผย 75% ของร้านค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาจะพร้อมรับชำระเงินด้วยคริปโตภายใน 2 ปีนี้

จากรายงาน “Merchants Getting Ready For Crypto” ของ Deloitte ร่วมมือกับ PayPal ที่เพิ่งปล่อยมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผลสำรวจพบว่าจากผู้บริหารระดับสูง 2,000 คนจากองค์กรค้าปลีกในสหรัฐอเมริกา มีจำนวนถึง 75% วางแผนที่จะรับการชำระเงินด้วย Crypto ในอีกสองปีข้างหน้า

โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ค้าปลีกรายใหญ่ (ผู้ประกอบการที่มีรายได้มากกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท) กําลังทุ่มเงินลงทุนเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมเพื่อให้รองรับการใช้จ่ายด้วย Crypto ประมาณการแล้วมากกว่า 500,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 17.4 ล้านบาท) ซึ่งมากกว่า 60% จะเปิดใช้งานการชําระเงินด้วยเงินดิจิทัลในอีก 12 เดือนข้างหน้าถึงเดือนธันวาคม

เหตุใดผู้ค้าปลีกจึงกระตือรือร้นในการใช้คริปโต

สิ่งที่ผลักดันและผู้ค้าหันมาใช้สกุลเงินดิจิทัลมี 2 อย่าง คือ ความเชื่อมั่นของผู้ค้าเองว่าการใช้สุกลเงินดิจิทัลจะแพร่หลายมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เพิ่มโอกาสในการลงทุน และอีกหนึ่งสิ่ง คือ ความสนใจของลูกค้าที่หันมาลงทุนและใช้จ่ายด้วย Crypto มากขึ้น เนื่องจากในขณะนี้ผู้คน 220 ล้านคนทั่วโลกมีบัญชีสกุลเงินดิจิทัล

นอกจากนี้การใช้คริปโตจะทำให้ผู้ค้าได้ประโยชน์จากนวัตกรรมของ DeFi ทำให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ทันที ประกอบกับเทคโนโลยีของ Blockchain จะช่วยให้การจัดการภายในองค์กรเป็นระเบียบ โปร่งใสมากขึ้น และง่ายขึ้นด้วย Smart Contract นอกจากนี้การชำระเงินด้วยคริปโตจะเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพของการชำระเงิน ที่สำคัญยังทำให้ประหยัดต้นทุนทางธุรกรรมลง เนื่องจากไม่ต้องผ่านตัวกลาง

ตามรายงานผู้ค้าปลีกเชื่อว่าการชําระเงินด้วย Crypto จะเปลี่ยนประสบการณ์ของลูกค้าและสามารถเพิ่มฐานลูกค้า ทําให้แบรนด์ดูล้ำสมัย ได้เปรียบเหนือคู่แข่ง ซึ่งกลุ่มตัวอย่างกว่า 63% มีความเชื่อมั่นว่าการจ่ายเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลจะส่งผลต่อธุรกิจของพวกเขาแน่นอน จึงมีการศึกษาข้อมูลและเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ 

โดยเฉพาะผู้ค้าปลีกในตลาดระดับ Luxury จําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องติดตามเทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด จึงไม่น่าแปลกใจที่แบรนด์ชั้นนําอย่าง Balenciaga, Gucci, Farfetch, Starbucks หรือ Whole Foods ก้าวเข้าสู่วงการ crypto เร็วกว่าแบรนด์อื่น ๆ

อย่างไรก็ตามการรับชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลนี้ยังคงมีความท้าทายในเรื่องของความปลอดภัย การนำประยุกต์ใช้ให้เข้ากับส่วนอื่นๆ ของธุรกิจ การปรับตัวให้เข้ากับกฎระเบียบและการกำกับดูแล นอกจากนี้ความผันผวนของคริปโตก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณา แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนมากนักว่าจะรับเป็นสกุลเงินคริปโตแทน Fiat Currency เลย หรือว่าจะยอมรับ Stable Coin ด้วย

อ้างอิง: Deloitte, watcher.guru 


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

จีนพัฒนา ‘Vision Heat’ เซนเซอร์มองทะลุควัน-หมอก ความละเอียด 4K ไม่ต้องใช้ความเย็น เห็นภาพความร้อนเหมือนตาของงู!

นักวิจัยจีนพัฒนาเซนเซอร์อินฟราเรด 4K แรงบันดาลใจจากตาของงู ใช้ Quantum Dots ผสาน CMOS ทำงานได้ที่อุณหภูมิห้อง เตรียมปฏิวัติกล้องสมาร์ทโฟนและรถไร้คนขับให้มองเห็นทะลุความมืดและหมอกคว...

Responsive image

เด็ก 19 สร้างนวัตกรรม ถุงมือพิมพ์งานในอากาศ จากการเรียนคอร์สออนไลน์ฟรี MIT จนคว้ารางวัล SxSW Sydney 2025

พบกับ Freesia Gaul เด็กวัย 19 ที่ย้ายโรงเรียนถึง 13 ครั้ง แต่ใช้คอร์สเรียนฟรีจาก MIT สร้างถุงมือ VR พิมพ์งานกลางอากาศจนคว้ารางวัล SxSW และเปิด Startup ได้สำเร็จ...

Responsive image

Google Labs เปิดตัว ‘CC’ AI Agent สาย Productivity เลขาส่วนตัวอัจฉริยะ สรุปงาน–ส่งเมล–นัดประชุมให้เสร็จในคลิกเดียว

Google Labs เปิดตัว ‘CC’ AI Agent ผู้ช่วยสาย Productivity ที่เชื่อม Gmail, Calendar และ Drive เข้าด้วยกัน ช่วยสรุปงาน ร่างอีเมล และจัดการนัดหมายแบบอัตโนมัติ เปลี่ยน Inbox ให้กลายเป...