โรงเรียนบางแห่งในสหรัฐฯ หันมาใช้หุ่นยนต์เพื่อช่วยเหลือในด้านความปลอดภัยและป้องกันผู้บุกรุก
ปัจจุบันมีความกังวลในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยในโรงเรียนมากขึ้น เนื่องจากมีเหตุการณ์กราดยิงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง มีรายงานว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมาสหรัฐฯเกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนกว่า 146 ครั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงมากจาก 4 ปีที่ผ่านมา
โรงเรียนมัธยม Santa Fe ในเมืองนิวเม็กซิโก เป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ทดลองใช้หุ่นยนต์ AI เพื่อเรียนรู้เส้นทางรอบโรงเรียนและกิจวัตรของนักเรียน ซึ่งโรงเรียนได้เริ่มโครงการนำร่อง 60 วันเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของหุ่นยนต์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
หุ่นยนต์นี้สร้างโดย Team 1st Technologies บริษัทหุ่นยนต์ในอัลบูเคอร์คี เป็นหุ่นยนต์สี่ล้อหนัก 400 ปอนด์ ประกอบไปด้วยกล้อง 7 ตัว ที่สามารถบันทึกวิดีโอได้ 360 องศา มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน 20 ชั่วโมง และใช้เวลาในการชาร์จแบตเพียงแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น
Andy Sanchez ผู้จัดการของ Team 1st เผยว่าหุ่นยนต์สามารถเตือนไปยังทีมรักษาความปลอดภัยในกรณีที่มีคนยิงปืนในพื้นที่และเคลื่อนตัวไปหาผู้ต้องสงสัยเพื่อส่งวิดีโอให้เจ้าหน้าที่ได้
หุ่นยนต์ยังสามารถรับมือกับผู้บุกรุกแม้ว่ามันจะไม่มีอาวุธก็ตาม อีกทั้งยังมีลำโพงที่ให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถพูดคุยโต้ตอบกับผู้บุกรุกได้ และทางโรงเรียนก็เชื่อว่าหุ่นยนต์จะช่วยให้ระบบรักษาความปลอดภัยในโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทางด้าน Wyandotte Public Schools ในโอคลาโฮมาก็มีแพลนที่จะใช้งานหุ่นยนต์จาก Stokes Robotics 4 ตัว เป็นหุ่นยนต์มีล้อสี่ขา เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนบอกกับสำนักข่าวว่าโรงเรียนอยากได้หุ่นยนต์ตรวจตราที่สามารถเฝ้าดูทางเข้าอาคารเรียนเป็นหลัก อย่างไรก็ตามคาดว่าจะพิจารณาถึงการใช้หุ่นยนต์ที่สามารถต่อสู้ผู้บุกรุกได้เช่นกัน
Robert Stokes ประธานของ Stokes Robotics กล่าวว่าบริษัทกำลังทำงานร่วมกับสถานศึกษาหลายแห่งในการเริ่มใช้หุ่นยนต์ในห้องเรียน ซึ่งจะเป็นหุ่นยนต์สำหรับสอนการเขียนโค้ด แต่ก็สามารถทำงานเชิงรุกได้ในกรณีฉุกเฉิน หุ่นยนต์สามารถหลอกล่อและดึงดูดความสนใจผู้บุกรุกได้เป็นเวลาหลายนาทีจนกว่าหน่วยงานรักษาความปลอดภัยจะเข้ามาควบคุมสถานการณ์
อ้างอิง: businessinsider
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด