SEA Group รายได้ไตรมาส 2/2564 โต 160% แต่ขาดทุนเพิ่ม เพราะงบการตลาดพุ่ง หลังศึก Startup อาเซียนเดือด | Techsauce

SEA Group รายได้ไตรมาส 2/2564 โต 160% แต่ขาดทุนเพิ่ม เพราะงบการตลาดพุ่ง หลังศึก Startup อาเซียนเดือด

SEA Group บริษัทแม่ของ Shopee แพลตฟอร์ม e-Commerce รายใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุดประกาศงบประมาณและรายได้ของไตรมาสที่ 2/2021 มีรายได้ 2,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 158% จากปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นการเติบโตของ e-Commerce ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงแม้ว่าจะมีการล็อกดาวน์ในประเทศต่าง ๆ ก็ตาม

SEA Group บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ค (NYSE) รายงานรายได้ที่เติบโตขึ้นในช่วง 3 เดือนตั้งแต่เมษายน-มิถุนายน ปี 2021 ที่เติบโตขึ้นอย่างมาก เป็นผลมาจากการใช้งานแพลตฟอร์ม e-Commerce ที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงโควิด-19 ระบาด 

แต่ถึงแม้จะมีรายได้ที่เติบโตขึ้น แต่ก็มียอดขาดทุนที่สูงกว่าปีก่อนหน้า โดยในไตรมาส 2/2021 มีการขาดทุนอยู่ที่ 433 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าขาดทุนอยู่ที่ 393 ล้านดอลลาร์ การขาดทุนนี้เป็นเพราะ SEA Group ได้เดินหน้าทุ่มเงินให้กับแคมเปญทางการตลาด เพื่อที่จะสู้กับคู่แข่งที่เป็น Startup ตัวอื่น ๆ ในภูมิภาค ทั้ง Grab และ GoTo ซึ่งค่าใช้จ่ายในแคมเปญการตลาดในช่วงไตรมาส 2/2021 นี้เพิ่มขึ้น 138% เป็น 921 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปัจจุบันนี้มูลค่าของ SEA ใน NYSE อยู่ที่ 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในช่วงการระบาดหนักของโควิด-19 ทำให้ธุรกิจของ SEA ทั้ง e-Commerce เกมออนไลน์ แพลตฟอร์มชำระเงิน เติบโตขึ้น ทำให้หุ้นในตลาดเพิ่มขึ้น 8%

สำหรับรายได้เฉพาะของบริการ e-Commerce ของ SEA นั้นเติบโต 160% อยู่ที่ 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยส่วนใหญ่บริการนี้จะมีใน 6 ประเทศของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไต้หวัน แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการขยายฐานบริการออกไปในแถบละตินอเมริกา อย่าง ชิลี โคลัมเบีย บราซิล และเม็กซิโก 

ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Grab ที่ตอนนี้เป็น Super App มีบริการทั้ง e-Commerce บริการชำระเงิน และเดลิเวอรี่ ก็ได้เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์อเมริกาผ่านการควบรวมกับบริษัท SPAC โดย Grab คาดว่าจะสามารถระดมทุนได้ถึง 4 พันล้านดอลลาร์ และในปัจจุบันนี้ทั้ง Grab และ SEA ก็กำลังเดินหน้าแข่งขันกันในเรื่องของบริการทางการเงินอีกด้วย

อีกฟากของคู่แข่งอย่าง Gojek ที่ควบรวมกับ Tokopedia เป็น GoTo และทาง Bukalapak ที่ได้ IPO ไปแล้วด้วยสถิติเป็นการ IPO ที่มูลค่าสูงสุดในอินโดนิเซีย ก็เป็นอีก 2 เจ้าที่น่าจับตามอง


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

อดีตซีอีโอ Nissan เตือน การควบรวมกิจการกับ Honda อาจทำให้เจอ 'ปัญหา' การลดต้นทุนครั้งใหญ่

Carlos Ghosn อดีตซีอีโอของ Nissan ออกมาเตือนว่า บริษัทอาจต้องเผชิญกับ "หายนะ" จากการลดต้นทุนครั้งใหญ่ หากตัดสินใจควบรวมกิจการกับ Honda โดยเขาให้เหตุผลว่า ทั้งสองบริษัทมีความซ้ำซ้อน...

Responsive image

เชื่อหมอมากกว่า TikTok ? วิจัยชี้ คำแนะนำทางการแพทย์เกือบครึ่ง 'มั่ว'

Tebra บริษัทวิจัยด้านสุขภาพ ได้ทำการวิเคราะห์วิดีโอบนแพลตฟอร์ม TikTok กว่า 5,000 รายการ ที่มีความเกี่ยวข้องกับคำแนะนำทางการแพทย์ เพื่อทำการประเมินความถูกต้องของ ซึ่งผลลัพธ์แสดงให้เ...

Responsive image

Zoom เผย 10 เทรนด์ AI ในการทำงาน ที่ต้องจับตา ปี 2025

ในปี 2568 บริษัทซูม วิดีโอคอมมิวนิเคชันส์ (Zoom) มองว่าเทคโนโลยี AI อาจเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในหลายๆด้าน บริษัทที่ใช้ AI เป็นหลัก จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพพนักงาน สร้างประสบการ...