จากวงสนทนาขนาดเล็กด้านความร่วมมือในการสนับสนุนการท่องเที่ยวไทย นำโดยสองแม่ทัพหญิง คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ คุณชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy - TikTok, Thailand ทีมเทคซอสหยิบประเด็นและวิธีที่ทั้งสองภาคส่วนผสานพลังกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยและส่งเสริมการสร้างรายได้เพิ่มไปยังท้องถิ่นต่างๆ มาบอกต่อในบทความนี้

ในมุมธุรกิจ การที่แบรนด์มีส่วนร่วมกับผู้บริโภคในรูปแบบออฟไลน์นั้นไม่เพียงพอแล้ว แต่แบรนด์ยังต้องหาทางเข้าถึงผู้บริโภคในรูปแบบออนไลน์ได้ในโอกาสและจังหวะเวลาที่เหมาะสม ในมุมการท่องเที่ยวก็เช่นกัน ที่หน่วยงานภาครัฐอย่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็ต้องการเข้าถึงนักท่องเที่ยวทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ และในด้านแพลตฟอร์มออนไลน์ก็เล็งเห็นว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มทรงอิทธิพลอันดับหนึ่งที่สามารถเข้าถึงและสร้างการมีส่วนร่วมกับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้ จึงจับมือส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 

ททท. กับ TikTok ร่วมผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยอย่างไรในช่วงที่ผ่านมา

คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เล่าว่า ททท.ร่วมมือกับ  TikTok อย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2563 และในช่วงที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ททท. และ TikTok ก็ร่วมกันเปิดตัวแคมเปญที่ชื่อว่า 'บอกรักเมืองไทย' เป็นแคมเปญแรก 

แต่เนื่องจากความท้าทายด้านการสร้างการรับรู้ที่เกิดขึ้นเพราะผู้ชมหรือผู้บริโภคมีการตีความคอนเทนต์ที่ ททท.สื่อสารออกไปแตกต่างกัน ททท. จึงให้ความสำคัญในเรื่อง 'Social Monitoring Management' และติดตามการทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อคอยดู Feedback หรือความคิดเห็นที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มออนไลน์ตลอดเวลา

ต่อมาในปี 2565 ททท.จึงเซ็น MOU ร่วมกับ TikTok ทำให้เกิดแคมเปญตามมามากมาย และได้รับการตอบรับที่ดีมาตลอด โดยแคมเปญที่เกิดขึ้นจากการทำงานร่วมกันกับ TikTok และประสบความสำเร็จอย่างมาก เช่น 

คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 

• แคมเปญเทศกาลวันสงกรานต์ เดือนเมษายนปี 2567 หลังจากที่ 'สงกรานต์' ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO ททท.จัดกิจกรรมออนไลน์บน TikTok ทำให้ทั่วโลกได้เห็นถึงความสวยงาม รวมถึงบรรยากาศอันครึกครื้นของประเทศไทยช่วงสงกรานต์ผ่านคลิปวิดีโอไวรัลมากมาย ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ต้องการจะเข้าร่วมกิจกรรมสงกรานต์ในปีหน้า
  
  
• Amazing Thailand Passion Ambassador แคมเปญล่าสุดที่ ททท.ต้องการขับเคลื่อน passion ด้านการท่องเที่ยวของทุกคน ให้กล้าลุกออกมาท่องเที่ยวและส่งต่อแรงบันดาลใจเพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกออกไปหาประสบการณ์ดีๆ ความหมายดีๆ ของการเดินทางท่องเที่ยวในไทย รวมถึงการค้นหาความหมายของการใช้ชีวิตในปัจจุบันผ่านการท่องเที่ยว ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 เดือนของแคมเปญนี้ มีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 3,000 คน มีจำนวนคอนเทนต์วิดีโอที่ทำขึ้นเพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจในการท่องเที่ยวกว่า 30,000 คลิป ซึ่งถือเป็น Material การตลาดชั้นดีที่เกิดจากแรงขับเคลื่อนภายในประเทศ 
  
  
• นอกเหนือจากการสร้าง Brand Awareness ททท.ยังได้เซ็ต Call to Action ที่ส่งอิมแพ็กไปยังผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทำให้เกิดเม็ดเงินและรายได้ทางเศรษฐกิจในชุมชน ซึ่งในเดือนแรกเพียงเดือนเดียว ก็เกิดการขายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวรวมมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นนิยามใหม่ในการทำงานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการส่งเสริมการขายให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่นผ่าน TikTok แพลตฟอร์มที่สามารถเข้าถึงนักท่องเที่ยวได้ทั่วโลก

ลักษณะการทำงานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่าง TikTok กับ ททท. เสริมด้วยการตั้งตู้ Live Studio

• การทำงานในประเทศไทยของ TikTok จะเน้น 3 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจ ด้านคนหรือด้านการศึกษา และด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งในเรื่องเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ เพราะฉะนั้น นอกเหนือจากการที่ TikTok จะต้องยกระดับทักษะการใช้งานให้กับผู้ใช้ให้สามารถใช้แพลตฟอร์ม Tiktok เพื่อเข้าถึงระบบเศรษฐกิจดิจิทัลแล้ว การทำงานร่วมกันกับ ททท. ในการเทรนคน ททท.ทำคอนเทนต์ให้น่าสนใจ ถูกต้องตามกฎของ TikTok ก็ถือเป็นอีกพาร์ตสำคัญที่นำไปสู่เป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอีกช่องทางหนึ่ง
  
  

• ความร่วมมือของ TikTok กับ ททท. มีหลายระดับ เริ่มตั้งแต่ 1) การเซ็น MOU 2) การเทรนเจ้าหน้าที่ของ ททท. ตั้งแต่การใช้ Marketing Tools หรือ Solution ต่างๆ การใช้เครื่องมือของ TikTok ทำให้คอนเทนต์กลายเป็นไวรัลได้ แนะขั้นตอนของการทำ e-commerce รวมถึง 3) การทำแคมเปญในช่วงเทศกาลต่างๆ อาทิ สงกรานต์ ลอยกระทง เทศกาลปีใหม่ โดยสงกรานต์ถือเป็นเทศกาลที่ใหญ่ที่สุด

นอกเหนือจากนี้ ททท. เล็งเห็นถึงผลลัพธ์ที่ทรงพลังจากการ LIVE จึงร่วมกับ TikTok เปิดตัว 'Amazing Thailand LIVE Studio' บริเวณโถงของอาคารสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถนนเพชรบุรี ด้วยจุดประสงค์หลัก คือ ต้องการใช้ Amazing Thailand LIVE Studio เพิ่มทักษะให้ผู้ประกอบการ รวมถึงพนักงานของ ททท. ให้มีความเป็นเลิศ (Strive for excellence) ในการทำคอนเทนต์ด้านการท่องเที่ยว และเพื่อเป็นกระบอกเสียงเรื่องการท่องเที่ยวและการตลาด 

โดย ททท. มองว่าบุคลากรทุกคนเป็นคนสำคัญที่จะช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของประเทศผ่านข้อมูลที่มีและการทำงานที่ต้องเดินทางตลอดเวลาได้ กอปรกับการที่ ททท. มี 29 สาขาในต่างประเทศ และ 45 สำนักงานในประเทศ จึงถือว่า คน ททท.สามารถเป็นนักการตลาดชั้นยอดในการทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักได้ โดยทาง ททท. ยังมีแผนจัดกิจกรรมมอบรางวัลให้แก่พนักงานที่ทำไลฟ์เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวหรือเทศกาลต่างๆ ของประเทศไทยตลอดทั้งปีอีกด้วย

แผนงานที่ TATAI และเป้าหมายด้านการท่องเที่ยว 5 Grand ในปี 2568

ททท. กำหนดนิยามในเรื่องของการใช้นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในรูปแบบดิจิทัลที่เรียกว่า TATAI หรือว่า ท้าทาย 

"ถือเป็นเรื่อง 'ท้าทาย' ที่เราจะใช้นวัตกรรมดิจิทัลมาผสมผสานกับกิจกรรมออฟไลน์ ซึ่ง ททท. ต้องการทำให้การทำงานทั้งออฟไลน์และออนไลน์สามารถผสานกันได้อย่างไร้รอยต่อ และสร้างโซเชียลอิมแพ็กหรือสร้างผลกระทบในเชิงบวกให้ได้มากที่สุด ซึ่งในการทำงานทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ในแคมเปญ หรือกิจกรรมต่างๆ ที่อยู่บนโซเชียลแพลตฟอร์ม ต้องทำมากกว่าแค่การสร้างการรับรู้ คือ จำเป็นต้องทำงานเพื่อให้ธุรกิจหรือบริการต่างๆ นั้นขายได้ด้วย ซึ่ง TikTok ถือเป็นช่องทางสำคัญที่ช่วยตอบโจทย์เรื่องนี้" 

คุณฐาปนีย์กล่าวและอธิบายว่า ปี 2568 จะเป็นปีที่เรียกว่า Amazing Thailand Grand Tourism and Sport Year ซึ่ง ททท.จะทำงานร่วมกับพันธมิตร ผู้ที่เกี่ยวข้องในหลากหลายภาคส่วน ผ่าน 5 Grand หลัก โดยมี TikTok เป็นหนึ่งในพันธมิตรรายสำคัญที่สามารถตอบสนองการทำงานของ ททท. ได้ทั้ง 5 Grand ซึ่งประกอบด้วย 

1. Grand Festivity: การจัดกิจกรรมเทศกาลประเพณีต่างๆ ที่ ททท. จะใช้ TikTok เป็นส่วนหนึ่งในการบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจของประเพณีในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น ลอยกระทง สงกรานต์ หรืองานเคานต์ดาวน์ที่กำลังจะถึง 

2. Grand Celebration: ททท.จะสานต่อความร่วมมือกับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวและการทูต รวมถึงภาครัฐและเอกชนอย่าง TikTok เพื่อเสริมสร้างกิจกรรมการเฉลิมฉลองด้านท่องเที่ยว และกีฬาอย่างยิ่งใหญ่มากขึ้น ซึ่งปีหน้า ททท. จะจัดกิจกรรมกีฬา (Sport Event) ใหญ่ๆ มากมายจึงมีแผนจะดึง TikTok เข้ามาช่วยเสริมทัพในการจัดกิจกรรมต่างๆ ด้วย โดยกิจกรรมล่าสุดที่ผ่านมาอย่าง Amazing Thailand Marathon Bangkok 2024 ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ Grand Celebration ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่ ททท.ได้ดึง เอเลียด คิปโชเก นักวิ่งมาราธอนโลกชาวเคนยา เจ้าของสถิติวิ่งมาราธอนเร็วที่สุดในโลกมาร่วมวิ่งกับสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี ซึ่งสร้างความประทับใจให้นักกีฬาและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มาเข้าร่วมงาน 

3. Grand Privilege: ที่ ททท.จะร่วมกับ TikTok มอบ Privilege ต่างๆ ให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่อยู่บนแพลตฟอร์ม TikTok ผ่านแคมเปญการตลาด

4. Grand Moment: ททท. มุ่งมั่นที่จะสร้าง Grand Moment ช่วงเวลาแห่งความทรงจำอันน่าประทับใจให้กับประเทศไทย ผ่านการนำเสนอทั้งสินค้าและบริการด้านท่องเที่ยวต่างๆ ให้เกิดขึ้นบน TikTok 

5. Grand Invitation: การร่วมงานกับ TikTok เพื่อเชิญครีเอเตอร์ชื่อดังที่อยู่บนแพลตฟอร์มจากทั่วโลกมาเมืองไทยเพื่อร่วมเป็น KOLs ในช่วงงาน Amazing Thailand Grand Tourism & Sport Year 2025 และให้มาสัมผัสประสบการณ์ที่เรียกว่า Soft Power เสน่ห์ไทยกับ 5 Must Do ได้แก่ Must Taste, Must Try, Must Buy, Must Seek และ Must See

และสำหรับกิจกรรมช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีไปจนถึงเทศกาลปีใหม่ ททท. ยังจัดอีกหลายกิจกรรม อาทิ Thailand Winter Festivals ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมและจะจัดต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเดือนธันวาคม Lighting Ilumination กิจกรรมต้อนรับฤดูหนาวที่จัดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ 

• กิจกรรม Lighting Ilumination อย่าง 'วิจิตรเจ้าพระยา' ที่จะจัดต่อเนื่องไปจนถึงวัน 15 ธันวาคมนี้
• งาน Bangkok Ilumination ที่จะเกิดขึ้นในหลายจุดทั่วกรุงเทพฯ ตลอดเดือนธันวาคม

• งานเคานต์ดาวน์ส่งท้ายปีที่จะจัดอย่างยิ่งใหญ่และเป็นอีกอีเวนต์สำคัญสู่การเปิดตัว Thailand Grand Tourism and Sport Year 2025 ที่จะมีศิลปินระดับโลก อย่างลิซ่า ลลิษา มาร่วมแสดง อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมเคานต์ดาวน์ในหลายพื้นที่ แต่พื้นที่หลักๆ อยู่ในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และตามหัวเมืองหลักกับเมืองน่าเที่ยว ซึ่งแต่ละเมืองจะมีการจัดกิจกรรมแบบผสมผสานทั้งเรื่องของนวัตกรรมและความยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ 'Clean Amazing Countdown'

ข้อมูลและเป้าหมายนักท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่

• Top 5 อันดับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาประเทศไทย
  • อันดับที่ 1 จีน
  • อันดับที่ 2 มาเลเซีย
  • อันดับที่ 3 อินเดีย
  • อันดับที่ 4 เกาหลีใต้ (ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง )
  • อันดับที่ 5 รัสเซีย
    
    

• ททท. ยังคงเป้าหมายเดิมด้านจำนวนนักท่องเที่ยว เนื่องด้วยสถานการณ์ที่อยู่เหนือความคาดหมายจากผลกระทบของภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งจากภายในประเทศ อย่างน้ำท่วมในบริเวณภาคใต้ และจากประเทศกลุ่มเป้าหมาย อย่างเกาหลีใต้ ที่เกิดเหตุการณ์หิมะถล่มหนักในรอบร้อยปี จนทำให้เกิดการยกเลิกการเดินทาง 

• การท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 และไตรมาสที่ 1 ปี 2568 นักท่องเที่ยวยังให้ความสนใจสถานที่ท่องเที่ยวในภาคใต้ พอๆ กับภาคเหนือ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักคือ นักท่องเที่ยวชาวจีน ในขณะที่สถานการณ์การท่องเที่ยวในภาคเหนือกลับมาดีขึ้นหลังผ่านพ้นเหตุการณ์น้ำท่วม ททท.เห็นว่าต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวกลับมาท่องเที่ยวให้ทันในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีหน้า ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสำคัญทางการทูต เพราะจะเป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ 50 ปีระหว่างประเทศไทยและประเทศจีน โดยรัฐมนตรีการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของประเทศจีนจะมาเยือนประเทศไทยในช่วงมกราคมปีหน้าอีกด้วย

เจาะลึกเทรนด์การท่องเที่ยวที่ปรากฏบน TikTok

คุณชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy - TikTok, Thailand

คุณชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy - TikTok, Thailand ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวไทยและอิมแพ็กที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม TikTok ดังนี้

• TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้งานสามารถค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ รวมถึงประเพณีและวัฒนธรรมต่างๆ อีกทั้งยังส่งเสริมการรับรู้เกี่ยวกับสินค้าท้องถิ่นผ่านทาง TikTok Shop โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสินค้า OTOP ที่ TikTok ทำงานอย่างต่อเนื่องกับกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ในการโปรโมตสินค้าเหล่านี้ 

• การสร้างการรับรู้ด้านการท่องเที่ยวโดย TikTok ร่วมงานกับครีเอเตอร์ ถือเป็นตัวกลางสำคัญในด้านการทำคอนเทนต์ด้านการท่องเที่ยว ที่นอกเหนือจากช่วยประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้ให้ครีเอเตอร์ผ่านการทำคอนเทนต์ขายสินค้าในท้องถิ่นได้อีกด้วย จึงถือเป็นการส่งเสริมทั้ง Ecosystem

• Hashtag ต่างๆ บน TikTok เป็นหนึ่งในสิ่งที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาประเทศไทยและเป็นแหล่งรวมข้อมูลท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น #TravelTikTok #TikTokกินเที่ยว #TikTokพาเที่ยว หรือ hashtag ที่เกิดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีกว่า 96% ของยอด Engagement ในโลกออนไลน์ตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์อยู่บนแพลตฟอร์ม TikTok 

• การรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวบน TikTok มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคอย่างเห็นได้ชัด โดย กว่า 82% ของการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้รับอิทธิพลจากคอนเทนต์ความบันเทิง ซึ่ง ททท. เล็งเห็นในเรื่องดังกล่าวจึงได้กำหนดแนวทางการทำงานอย่าง TATAI ขึ้น เพื่อนำเอาเทคโนโลยีที่ TikTok มีอยู่มาปรับใช้ในแผนงาน

แสนรู้ (Zanroo) ผู้ทำธุรกิจด้านการเก็บข้อมูลบนโซเชียล เปิดเผยข้อมูลจากการใช้ Zanroo Social Listening เก็บข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 10-15 เมษายน 2567 พบว่า งานสงกรานต์ปี 2567 สามารถสร้างยอดเข้าชม คอมเมนต์ ไลก์ แชร์ ในโซเชียลมีเดียกว่า 3.1 พันล้านเอ็นเกจเมนต์ โดยเป็นเอ็นเกจเมนต์จากช่องทาง TikTok มากที่สุดถึง 96% (3,031,134,072 เอ็นเกจเมนต์)

คุณชนิดาเล่าต่อว่า ปีที่ผ่านมา TikTok เปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยการทำ LIVE Battle ร่วมกับ ททท. ดึงดูดให้มีครีเอเตอร์ต่างชาติมาร่วม Battle กับครีเอเตอร์ชาวไทย เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับเทศกาลสงกรานต์ผ่านคอนเทนต์ของครีเอเตอร์ต่างชาติ เปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบใหม่ให้ประเทศไทยและได้รับผลตอบรับดีมาก 

นอกเหนือจากนั้น ยังบอกเพิ่มว่า TikTok ไม่ได้ส่งเสริมแค่การท่องเที่ยว แต่ยังส่งเสริมในเรื่องของเศรษฐกิจด้วย ยกตัวอย่างคอนเทนต์ 'ผ้าไหมท้องถิ่น' ที่ปรากฏบนแพลตฟอร์ม TikTok โดยเล่าตั้งแต่เรื่องราวของการทอผ้า แหล่งที่มา การโฆษณาสินค้า ไปจนปิดการขายและการรีวิว ซึ่งเป็นลูปครบวงจรบน TikTok 

คุณชนิดายังกล่าวถึงรางวัล 'TikTok Awards 2024- Social Impact Awards' ที่ TikTok มอบให้แก่ ททท. หลังจากการร่วมทำงานกันมาหลายปี TikTok ให้เห็นความพยายามในการผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของ ททท. อย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้มีคอนเทนต์ด้านการท่องเที่ยวออกมามากมาย รวมถึงได้ผลตอบรับที่ดีจากผู้ชมหรือนักท่องเที่ยวบนแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้เกิดอิมแพ็กนอกแพลตฟอร์ม กล่าวคือ สามารถสร้างมูลค่าด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ ได้ทั่วประเทศไทย และคาดการณ์ว่า เทศกาลปีใหม่นี้จะมีปริมาณคอนเทนต์ด้านการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยคอนเทนต์จะไม่ได้มาจากครีเอเตอร์เท่านั้น แต่ยังมาจากพนักงานของ ททท. เองด้วย ซึ่งเป็นผลจากการจัดทำ LIVE Studio ตามที่ ททท. ต้องการอัปสกิลให้บุคลากรในองค์กรนั่นเอง

แผนงานของ TikTok ในการทำงานเพื่อส่งเสริมด้านท่องเที่ยวในปี 2568

อุปกรณ์สำหรับฝึกใช้แพลตฟอร์ม TikTok ภายใน Amazing Thailand LIVE Studio

ในด้านแผนงานหรือเครื่องมือที่ TikTok ใช้เพื่อตอบรับ แผนงาน 5 Grands ของ ททท. คุณชนิดาบอกว่า มีเรื่องการพัฒนาบุคลากร พัฒนาครีเอเตอร์ผ่านการเทรนนิง อีกทั้งยังมี Creator Academy ที่เป็นเหมือนฮับในการให้ความรู้กับผู้ที่สนใจต้องการเป็นครีเอเตอร์ รวมถึงการส่งต่อทริคจากครีเอเตอร์ที่ประสบความสำเร็จ นอกเหนือจากนี้ยังมีการแนะนำเครื่องมือด้านการตลาดและการทำโฆษณาที่สามารถเป็นส่วนสำคัญให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่อยู่ในสมาคมการท่องเที่ยว อย่างโรงแรม ร้านอาหาร ฯลฯ สามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือต่างๆ ของ TikTok ได้

ในปี 2568 TikTok จะยังคงทำงานร่วมกับ ททท. เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งตอบโจทย์แผนงานด้าน Smart Inititives ของ TikTok ในด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาคน และหลังการพบกันระหว่าง CEO ของ TikTok และนายรัฐมนตรีที่งาน APEC Summit ครั้งล่าสุด ก็ทำให้เห็นภาพรวมของการทำงานระหว่าง TikTok และ ททท. ด้านการท่องเที่ยวที่ชัดเจนและแข็งแรงยิ่งขึ้นในทุกๆ ด้าน