บริษัท การบินไทย จํากัด (มหาชน) ได้รายงานผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 มีผลขาดทุนสุทธิรวมทั้งสิ้น 28,029 ล้านบาท แบ่งเป็นขาดทุนสุทธิไตรมาสที่ 1 อยู่ที่ 22,676 ล้านบาท และไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 5,353 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ของปี 2563 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวมทั้งสิ้น 38,001 ล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาส เดียวกันของปีก่อน 11,790 ล้านบาท หรือ 23.7% สาเหตุสําคัญเนื่องจากทั้งรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารและ สินค้าลดลง 10,864 ล้านบาท หรือ 23.8% เป็นผลจากปริมาณการผลิตและการขนส่งลดลง ประกอบกับรายได้จาก ผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยลดลงจากการแข็งค่าของเงินบาทต่อสกุลเงินรายได้หลักทําให้รายได้เมื่อคํานวณเป็น เงินบาทลดลง
นอกจากนี้รายได้จากการบริการอื่นๆ ลดลง 844 ล้านบาท หรือ 23.0% สําหรับค่าใช้จ่ายรวม ทั้งสิ้น 42,609 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 8,010 ล้านบาท (15.39%) สาเหตุหลักเกิดจากค่าใช้จ่ายดําเนินงานโดย ส่วนใหญ่ลดลงจากปริมาณการผลิตและปริมาณการขนส่งที่ลดลง ส่งผลให้ขาดทุนจากการดําเนินงาน 4,608 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 3,780 ล้านบาท
นอกจากนั้น บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ประกอบด้วย
บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีผลการดําเนินงานขาดทุนสุทธิ 22,676 ล้านบาท ในขณะที่ปีก่อนมีกําไร 456 ล้านบาท โดยเป็นขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 22,676 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 10.39 บาท ในขณะที่ปีก่อนมีกําไรต่อหุ้น 0.20 บาท
ส่วนในไตรมาสที่ 2 ปี 2563 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,492 ล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 40,017 ล้านบาท หรือ 94.1% สาเหตุสําคัญเนื่องจากทั้งรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าลดลง 37,604 ล้านบาท (96.4%) รายได้จากการบริการอื่นๆ ลดลง 2,165 ล้านบาท (68.6%) สําหรับค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 16,193 ล้านบาท ต่ํากว่าปีก่อน 33,428 ล้านบาท (67.4%) สาเหตุหลักเกิดจากค่าใช้จ่ายดําเนินงานที่แปรผันตามปริมาณการผลิตและ/ หรือ ปริมาณการขนส่ง และ/หรือจํานวนผู้โดยสารลดลงจากปริมาณการผลิตและปริมาณการขนส่งและจํานวน ผู้โดยสารที่ลดลง ส่งผลให้ขาดทุนจากการดําเนินงาน 13,701 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของ ปีก่อน 6,589 ล้านบาท (92.6%)
นอกจากนั้น บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ประกอบด้วย
บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีผลการดําเนินงานขาดทุนสุทธิ จํานวน 5,353 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจาก ปีก่อน 1,525 ล้านบาท (22.2%) โดยเป็นขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 5,340 ล้านบาท คิดเป็น ขาดทุนต่อหุ้น 2.45 บาท ในขณะที่ปีก่อนขาดทุนต่อหุ้น 3.15 บาท
เนื่องจากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ส่งผลกระทบต่อ อุตสาหกรรมการบินของโลกในไตรมาส 2 ของปี 2563 อย่างรุนแรงเป็นประวัติการณ์ การเดินทางทั้งใน ประเทศและระหว่างประเทศหยุดชะงัก แม้ว่าในเดือนมิถุนายน 2563 จะเริ่มมีสัญญานของการฟื้นตัวจากการ เดินทางภายในประเทศ แต่ยังคงต่ำกว่าระดับปกติอยู่มาก สําหรับประเทศไทยสํานักงานการบินพลเรือนแห่ง ประเทศไทย (กพท.) ได้ประกาศห้ามอากาศยานขนส่งคนโดยสารทําการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนถึง 30 มิถุนายน 2563
บริษัทฯ และบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จํากัด ได้ยกเลิกเที่ยวบินแบบประจําทั้งหมดเป็นการชั่วคราว เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของแต่ละประเทศ โดยบริษัทฯ ยกเลิกทุกเส้นทางตั้งแต่ วันที่ 1 เมษายน 2563 ในขณะที่บริษัทไทยสมายล์แอร์เวย์ จํากัด หยุดทําการบินเส้นทางระหว่างประเทศทุก เส้นทางตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2563 และเส้นทางบินภายในประเทศตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2563 และเริ่ม กลับมาทําการบินอีกครั้ง เฉพาะเที่ยวบินภายในประเทศบางเส้นทางตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563
บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวมจํานวน 314,044 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากวันที่ 31 ธันวาคม 2562 จํานวน 59,236 ล้านบาท (23.2%) มีหนี้สินรวม จํานวน 332,199 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 จํานวน 89,157 ล้านบาท (36.7%) และส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบจํานวน 18,155 ล้านบาท ลดลงจากวันที่ 31 ธันวาคม 2562 จํานวน 29,921 ล้านบาท (254.3%)
ข้อมูลจาก SET
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด