ในเวลานี้บริการขนส่งจากเอกชนเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น รวมถึงยังมีคู่แข่งหน้าใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ไปรษณีย์ไทยสู้ต่อ! ประกาศปรับอัตราค่าบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ EMS ในประเทศ พร้อมเปิดศูนย์ EMS ที่ถนนแจ้งวัฒนะนำร่องการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ดร.พรชัย ฐีระเวช รองประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า "คณะกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มีนโยบายให้ไปรษณีย์ไทยพัฒนาและยกระดับคุณภาพบริการ ก้าวสู่การเป็นไปรษณีย์ไทย 4.0 รวมทั้งต้องสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ รักษาฐานลูกค้า สร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น พร้อมกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ลดต้นทุนการส่งสินค้า และช่วยลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายในการฝากส่ง ตลอดจนสร้างความคึกคักแก่เศรษฐกิจโดยรวมประเทศ"
ซึ่งบริการขนส่งด่วนในประเทศ มีการแข่งขันสูงและมีการเติบโตโดยเฉลี่ยประมาณ 18 เปอร์เซนต์ใน 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ EMS ของไปรษณีย์ไทยเป็นบริการหลักที่สร้างรายได้และมีปริมาณงานสูง และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไปรษณีย์ไทย จึงจำเป็นจะต้องรักษาและเพิ่มลูกค้าใหม่
โดยไปรษณีย์ไทยจะปรับอัตราค่าบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ EMS ในประเทศ เริ่มตั้งแต่การส่งที่มีพิกัดน้ำหนัก 3 กิโลกรัมถึง 20 กิโลกรัม โดยราคาที่ปรับลดเริ่มต้นที่ 5 บาท และลดสูงสุดที่ 115 บาท โดยมีผลวันที่ 1 กรกฎาคม 2561 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ยังเปิดเคาน์เตอร์ให้บริการไปรษณีย์ 24 ชั่วโมง แห่งแรกในพื้นที่กรุงเทพฯ ณ ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพฯ (EMS) ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้า E-Commerce ที่ทำงานประจำและประชาชนทั่วไป ที่มีปริมาณการส่งเพิ่มขึ้นตามลำดับ
ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยระบุว่า "บริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ" ถือเป็นบริการที่สร้างรายได้ให้กับองค์กรและมีอัตราการเติบโตของปริมาณงานสูงขึ้นในทุกๆ ปี เนื่องจากเหมาะสำหรับผู้ต้องการส่งสิ่งของด่วนที่มีน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม และนำจ่ายถึงมือผู้รับทุกพื้นที่ปลายทางทั่วไทยใน 1-2 วันทำการ
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด