รู้จัก The PARQ โครงการมิกซ์ยูสในเครือ TCC ต้นแบบนวัตกรรมแห่งสถาปัตยกรรมและการออกแบบที่ยั่งยืนในประเทศไทย | Techsauce

รู้จัก The PARQ โครงการมิกซ์ยูสในเครือ TCC ต้นแบบนวัตกรรมแห่งสถาปัตยกรรมและการออกแบบที่ยั่งยืนในประเทศไทย

โลกในปัจจุบันมีการความต้องการของทรัพยากรและพลังงานที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเนื่อง สวนทางกับจำนวนทรัพยากรที่ลดลงอย่างมาก ซึ่งทำให้เกิดภาวะขาดแคลนทรัพยากรและผลเสียจากการใช้พลังงานที่มากเกินไปโดยเฉพะอย่างยิ่งภาวะโลกร้อน จึงมีแนวคิดใหม่ในการสร้างความยั่งยืน (Sustainability) ในการใช้ทรัพยาการอย่างคุ้มค่า โดยล่าสุดโครงการ The PARQ ในเครือ TCC เป็นต้นแบบในการออกแบบและก่อสร้างอาคารสีเขียวที่ยั่งยืนแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อตอบสนองแนวคิด “Life Well Balanced” ของผู้บริโภคยุคใหม่ และนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจของการสร้างความยั่งยืน (Sustainability) ให้เกิดขึ้นอย่างชัดเจนในสังคมไทย

The PARQ คือ อาคารอัจฉริยะที่ผสานพื้นที่สำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกเข้าด้วยกัน เปรียบเสมือนจุดหมายไลฟ์สไตล์ที่ครบวงจร บนพื้นที่ใช้สอยทั่วทั้งอาคารกว่า 130,000 ตร.ม. โดย The PARQ เป็นอาคารเพื่อการพาณิชย์แห่งแรกของไทยที่ใช้เซ็นเซอร์อัจฉริยะและเทคโนโลยี IoT ในระบบแสงสว่างในสำนักงาน มีการติดตั้งหลอดไฟอัลตราไวโอเลตเพื่อฆ่าเชื้อโรค (UVGI) ในระบบปรับอากาศ และวางระบบการจัดการของเสียครบวงจรสำหรับขยะทั้งหมดในอาคาร นอกจากนั้น ยังมีการใช้ระบบทำความเย็นภายในอาคารที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และมีจำนวนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มอาคารสำนักงานมากที่สุดในประเทศไทย   โดยโครงการนี้ได้รับการพัฒนาภายใต้วิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนและสุขอนามัยของผู้อยู่อาศัยและผู้มาใช้บริการในอาคารเป็นส่วนสำคัญ

ความสำเร็จในระดับสากล ปูทางสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม

โครงการ The PARQ เป็นโครงการมิกซ์ยูสแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ซึ่งเป็นระบบการจัดเรตติ้งอาคารสีเขียวซึ่งกำหนดโดยสภาก่อสร้างอาคารสีเขียวแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Green Building Council) เพื่อส่งเสริมการออกแบบและแนวทางปฏิบัติในการก่อสร้างอาคารที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยได้รับประกาศนียบัตรการรับรองจาก LEED เวอร์ชั่น 4 BD+C (Building Design and Construction): Core and Shell โดยมีเกณฑ์การประเมินเพื่อการรับรองมาตรฐาน LEED ทั้งหมด 7 ด้านด้วยกัน คือ

  1. ทำเลและการเดินทาง

ด้วยทำเลที่ตั้งของ The PARQ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบขนส่งมวลชนที่เชื่อมต่อกับรถไฟใต้ดินสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หรือการใช้พาหนะส่วนบุคคล พร้อมให้บริการจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV)  ที่จอดรถจักรยานและห้องอาบน้ำ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เลือกเดินทางด้วยวิธีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย

  1. ผังบริเวณที่ยั่งยืน 

โครงการ The PARQ ออกแบบให้มีพื้นที่โล่งแจ้งและพื้นที่สีเขียวอันกว้างขวาง เอื้อต่อการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งแวดล้อมด้วยต้นไม้มากมายเพื่อให้ร่มเงา และการตกแต่งด้วยน้ำ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมกลางแจ้งที่เย็นสบาย  การปูผิวทางและหลังคาด้วยวัสดุสีอ่อนช่วยบรรเทาความร้อนของอุณหภูมิอากาศในเมือง นอกจากนั้นยังมีการลดการเปิดไฟ เพื่อลดมลพิษทางแสงบนท้องฟ้าและบริเวณโดยรอบโครงการด้วย

  1. การจัดการน้ำ 

The PARQ ได้ติดตั้งสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำในอาคารที่ช่วยลดปริมาณการใช้น้ำได้ถึง 40% และลดการเกิดมลภาวะจากการผลิตและการบำบัดน้ำ   ส่วนภายนอกอาคารจะมีการนำน้ำเสียที่บำบัดแล้ว กลับมาใช้รดน้ำต้นไม้ด้วยระบบน้ำหยดเพื่อลดการใช้น้ำเกินความจำเป็น   พร้อมติดตั้งระบบแยกมิเตอร์น้ำเพื่อตรวจสอบและปรับปรุงการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว และสามารถติดตามและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้น้ำในอาคารระหว่างช่วงเวลาทำการ 

  1. การใช้พลังงานและสภาพแวดล้อม 

The PARQ ส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการใช้กระจกกันความร้อนที่ส่วนหน้าอาคารเพื่อลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ถึง 75% และใช้ผนังอาคารกันความร้อน ระบบทำความเย็นประสิทธิภาพสูงที่ 0.56 kW/RT และพัดลมสมรรถนะสูงชนิด Electronically Commutated ในระบบจ่ายลมเย็น ระบบควบคุมแสงแบบไฮเทคติดตั้งเซ็นเซอร์และ Internet of Thing (IoT) ซึ่งสามารถปรับระดับความสว่างแสงไฟได้อัตโนมัติเมื่อมีแสงธรรมชาติเพียงพอและปิดไฟเมื่อไม่มีคนอยู่ในห้อง โดยทั้งหมดควบคุมผ่านโทรศัพท์มือถือ

  1. วัสดุและทรัพยากร 

วัสดุก่อสร้างที่ใช้ใน The PARQ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีการเปิดเผยข้อมูลผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ข้อมูลส่วนผสมรีไซเคิล ข้อมูลการปล่อยสารพิษ และผลกระทบต่อระบบนิเวศตลอดวงจรการใช้งาน การจัดการของเสียใช้กระบวนการคัดแยกของเสียที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ใช้นวัตกรรมระบบการหมักเศษอาหารที่สามารถเปลี่ยนขยะอาหารเป็นปุ๋ยหมักภายใน 24 ชั่วโมงด้วยความร้อนและตัวเร่งปฏิกิริยาทางชีวภาพ และมีเครื่องบดอัดขยะที่สามารถลดขนาดของขยะและแยกของเหลวออกเพื่อการจัดการขยะที่ถูกสุขอนามัยและสะดวกต่อการขนส่งของเทศบาลด้วย 

  1. คุณภาพสิ่งแวดล้อมภายในอาคาร 

ภายในโครงการ The PARQ มีคุณภาพอากาศที่ดี ด้วยปริมาณอากาศบริสุทธิ์ที่วัดค่าได้สูงกว่าค่ามาตรฐานสากลถึง 30%  มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศโดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจวัดระดับการไหลเวียนของอากาศและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กระจกหน้าต่างขนาดใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติให้ส่องเข้ามาในพื้นที่ได้ถึง 40% พร้อมกรองความร้อนจากแสงอาทิตย์ ผังอาคารแบบเปิดโล่งช่วยให้ผู้เช่าสามารถจัดการพื้นที่ใช้สอยในสำนักงานให้เปิดรับวิวภายนอกได้จากทุกมุม

  1. การใช้นวัตกรรม

The PARQ เลือกใช้นวัตกรรมในการออกแบบและปฏิบัติการขั้นสูงที่เหนือกว่าที่มาตรฐาน LEED กำหนดไว้   ระบบติดตามการเดินทางเข้าออกในอาคารสามารถตรวจสอบจำนวนที่จอดรถ นับจำนวนผู้เข้ามาทำงานและผู้ใช้บริการในอาคาร และตรวจสอบรูปแบบการใช้ยานพาหนะในการเดินทางพร้อมความถี่ในการเข้าออกอาคารและรายละเอียดต่าง ๆ หรือแม้แต่ปุ๋ยชีวภาพที่ได้จากเครื่องหมักเศษอาหารในอาคารสามารถใช้ทดแทนปุ๋ยเคมีในการดูแลต้นไม้ที่ปลูกในโครงการ ซึ่งจะช่วยลดการปนเปื้อนของสารเคมีในดินและน้ำ และยิ่งไปกว่านั้น โครงการ The PARQ ได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีไร้สัมผัสต่าง ๆ มาใช้ เช่นระบบชำระเงินด้วยรหัส QR เครื่องแลกเปลี่ยนบัตรเข้าออกอาคารอัตโนมัติ รวมทั้งมาตรการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานภายในอาคารสำหรับทั้งผู้เช่าและผู้เข้ามาใช้บริการ และเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19

นอกจากนี้ The PARQ ได้คว้ารางวัลต่าง ๆ จากเวทีประกาศรางวัลอันทรงเกียรติสำหรับแวดวงอสังหาริมทรัพย์อีกมากมาย ได้แก่ รางวัล Best Office Development (Asia) และ Best Commercial Green Development (Thailand) จากเวที ประกาศผลรางวัล PropertyGuru Asia Property Awards Grand Final 2020 นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล 3 รางวัล ได้แก่ รางวัล Best Office Development Award รางวัล Best Office Green Development Award และ รางวัล Best Office Architectural Design Award จากเวทีประกาศผลรางวัล PropertyGuru Thailand Property Awards 2020 รวมทั้งรางวัล “Special Recognition Award, Green Innovation” จากงานประกาศรางวัลประจำปี Dot Property Thailand Awards 2020

ด้วยความสำเร็จครั้งสำคัญนี้ส่งผลให้ The PARQ กลายเป็นต้นแบบสำคัญของนวัตกรรมแห่งสถาปัตยกรรมและการออกแบบที่ยั่งยืนแห่งแรกในประเทศไทย และในขณะที่การระบาดของโควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนอย่างต่อเนื่อง สภาพแวดล้อมในอาคารที่ดีต่อสุขภาพจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญ และในอนาคต ผู้บริโภคจะไม่ได้ต้องการแค่ความสะดวกสบายหรือความทันสมัยของสถานที่ทำงานหรือพื้นที่เชิงพาณิชย์ แต่ผู้บริโภคจะแสวงหาความยั่งยืน (Sustainability) และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น   ความสำเร็จครั้งนี้จึงเป็นการปูทางให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ คำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนไป ให้สอดคล้องกับแนวโน้มและการเติบโตในระยะยาวของประเทศไทย และช่วยสร้างวิสัยทัศน์ของกรุงเทพฯ ในฐานะศูนย์กลางธุรกิจระดับภูมิภาคที่ยั่งยืนต่อไป

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Bluebik กางแผนธุรกิจปี 2568 ปักธงผู้นำ AI Transformation ในไทย ตั้งเป้าโต 20% ในปีหน้า

บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ที่ปรึกษาด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันครบวงจร ประกาศปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่โดยใช้ AI เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ผ่าน...

Responsive image

NIA จับมือ Business Finland ต่ออายุ MOU พัฒนานวัตกรรม & สตาร์ทอัพ ไทย-ฟินแลนด์อีก 5 ปี

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และ Business Finland ได้ต่ออายุบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมอีก 5 ปี...

Responsive image

Meta ทุ่ม 3.45 แสนล้านสร้างสายเคเบิลใต้ทะเล ที่มีระยะทางกว่า 40,000 กิโลเมตร

Meta กำลังวางแผนสร้างสายเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้ทะเลขนาดใหญ่ที่มีระยะทางกว่า 40,000 กิโลเมตร โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.45 แสนล้านบาท...