เจาะลึกแอปฯ Tinder ปี 2026 ผสานพลัง AI ขับเคลื่อนการหาคู่ และ Gen Z ที่เข้ามาช่วยพลิกโฉมการเดท

หากปี 2025 คือปีแห่งการค้นหาจุดมุ่งหมายหรือ Dating with Purpose ปี 2026 ที่กำลังจะมาถึงนี้ จะเป็นปีที่โลกของการเดตหมุนกลับสู่ความเรียบง่าย ความชัดเจน และเต็มเปี่ยมไปด้วย ความหวังอีกครั้ง ในงาน Tinder Year in Swipe™ 2025 แพลตฟอร์มหาคู่ระดับโลกได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกและทิศทางธุรกิจที่น่าจับตามอง โดยมี คุณ Kirsty Dunn ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของ Tinder ประจำประเทศไทย และ Master Alice ผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ มาร่วมถอดรหัสพฤติกรรมของคนโสด ซึ่งสะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ขับเคลื่อนโดยพลังของคนรุ่นใหม่และเทคโนโลยี

Market Landscape เมื่อ Gen Z คือผู้กำหนดนิยามความหรูหราแบบใหม่

นัยสำคัญทางธุรกิจที่น่าสนใจที่สุดจากการเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้คือ ปัจจุบันฐานผู้ใช้งาน Tinder ทั้งในระดับโลกและประเทศไทย เกินกว่าร้อยละ 50 คือกลุ่ม Gen Z (อายุ 18-25 ปี) ตัวเลขนี้ไม่ได้เป็นเพียงสถิติประชากร แต่คือตัวชี้วัดว่าทิศทางของฟีเจอร์และกลยุทธ์ของแพลตฟอร์ม จะถูกออกแบบโดยยึด User Journey ของคนกลุ่มนี้เป็นศูนย์กลาง ซึ่งสิ่งที่คนเจนนี้กำลังทำคือการรื้อถอนค่านิยมการเดตแบบเดิมๆ ทิ้งไป

เรากำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงของความหรูหราในบริบทความสัมพันธ์ คนรุ่นใหม่เริ่มถอยห่างจากเดตแรกที่ต้องเล่นใหญ่ หรือการดินเนอร์ในร้านอาหารหรู แต่หันมาโอบรับเทรนด์ “Low-Key Lover” หรือความสัมพันธ์ที่เน้นความสบายใจ เป็นธรรมชาติ และลดแรงกดดัน สิ่งนี้สะท้อนชัดเจนผ่านข้อมูล Interest ยอดนิยมของคนไทยในปี 2025 ที่พบว่า “ธรรมชาติ” (Nature) ทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 ตามมาด้วย “กาแฟ” และ “มัทฉะ” ที่ติดโผเข้ามา บ่งบอกว่าการนัดเจอกันในสวนสาธารณะหรือคาเฟ่เรียบง่าย กลายเป็นเครื่องมือในการเช็กเคมี (Vibe check) ที่มีประสิทธิภาพและจริงใจกว่าสำหรับคนยุคนี้

4 Mega Trends 2026 สิ้นสุดยุคเดาใจ สู่ความชัดเจนและพลังของเพื่อน

จากการวิเคราะห์ Big Data มหาศาล Tinder คาดการณ์ว่าปี 2026 จะถูกขับเคลื่อนด้วย 4 พฤติกรรมหลัก เริ่มต้นด้วย “Clear-Coding” หรือความชัดเจนที่มาแทนที่ความคลุมเครือ คนโสดรุ่นใหม่ปฏิเสธความสัมพันธ์แบบ Situationship และหันมาสื่อสารความต้องการอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็นการหาเพื่อนคุย หรือความสัมพันธ์ระยะยาว โดยมองว่าความซื่อสัตย์ทางอารมณ์คือความเซ็กซี่รูปแบบใหม่

ตามมาด้วยเทรนด์ Hot-Take Dating ที่เสน่ห์ของคู่เดตไม่ได้วัดกันแค่หน้าตา แต่วัดกันที่ “จุดยืน” และทัศนคติ การมีค่านิยมร่วมกัน (Shared Values) กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจไปต่อ โดยเฉพาะประเด็นทางสังคมและการเมือง แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Deal Breaker ที่ใหญ่ที่สุดกลับเป็นเรื่องพื้นฐานอย่างมารยาท โดยกว่าครึ่งของผู้ใช้งานระบุว่าจะปัดซ้ายทันทีหากอีกฝ่ายแสดงพฤติกรรมหยาบคายต่อพนักงานบริการ

นอกจากนี้ อิทธิพลของสังคมรอบข้างยังเข้ามามีบทบาทผ่านเทรนด์ Friendfluence ที่เปลี่ยนให้ กรุ๊ปแชทเพื่อนสนิทกลายเป็นอัลกอริทึมคัดกรองคนที่แม่นยำที่สุด Tinder จึงตอบรับพฤติกรรมนี้ด้วยฟีเจอร์ Double Date ซึ่งได้รับความนิยมสูงในกลุ่มคนรุ่นใหม่ สะท้อนว่าก่อนจะตกลงปลงใจกับใคร โปรไฟล์ของคนนั้นต้องผ่านการอนุมัติจากเพื่อนฝูงก่อน ปิดท้ายด้วย “Emotional Vibe Coding” ที่ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) และความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) กลายเป็นแต้มต่อสำคัญเหนือกว่าความดูดีภายนอก

AI Strategy เทคโนโลยีในฐานะผู้ช่วย ไม่ใช่ผู้สร้าง

ในยุคที่ Generative AI เข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรม Tinder ยืนยันจุดยืนในการใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นตัวช่วยสนับสนุนผู้ใช้งาน ไม่ใช่เพื่อการสร้างตัวตนปลอม โดยมีการนำ AI มาใช้ในฟีเจอร์ AI Photo Selector เพื่อแก้ Pain Point ของผู้ใช้ที่มีรูปเยอะแต่เลือกไม่ถูก ระบบจะช่วยคัดเลือกรูปที่ดีที่สุดจากคลังภาพ โดยวิเคราะห์จากแสงและบริบทที่สื่อถึงไลฟ์สไตล์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถนำเสนอตัวตนที่ดีที่สุดได้อย่างมั่นใจและประหยัดเวลา

ในขณะเดียวกัน AI และ Machine Learning ยังถูกนำมาใช้เป็นกระดูกสันหลังของระบบ Trust & Safety เพื่อตรวจจับบัญชีปลอมและมิจฉาชีพ โดยเฉพาะฟีเจอร์ Face Check ที่ยืนยันตัวตนด้วยวิดีโอเซลฟี่ ซึ่งทางแพลตฟอร์มระบุว่ารูปภาพกว่า 99.6% ในระบบได้ผ่านการตรวจสอบแล้วว่าเป็นรูปจริง สร้างความเชื่อมั่นในยุคที่ความปลอดภัยบนโลกดิจิทัลเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด

เจาะลึกพฤติกรรมคนไทย

สำหรับตลาดประเทศไทย ข้อมูลสะท้อนความเป็น Hyper-localization อย่างสูง นอกจากวัฒนธรรมคาเฟ่แล้วอาหารอย่าง “หมูกระทะ” และ “ชาบู” ยังคงเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญในการเชื่อมต่อผู้คน อีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตามองคือการเปลี่ยนแปลงของจุดหมายปลายทางในฟีเจอร์ Passport ที่เมืองใหญ่อย่าง “ลอนดอน” หลุดจากโผยอดนิยมของคนไทยไป และถูกแทนที่ด้วยสิงคโปร์ นิวยอร์ก และซิดนีย์ ซึ่งอาจสะท้อนถึงปัจจัยด้านเศรษฐกิจและระยะทางที่มีผลต่อการตัดสินใจ

Hopeful คือคำตอบของปี 2026

แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปไกล แต่ท้ายที่สุดแล้ว Tinder ยังคงสนับสนุนกลยุทธ์ Online-to-Offline (O2O) โดยมองว่าแอปพลิเคชันเป็นเพียงสะพานเชื่อม แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือการให้ผู้คนออกจากหน้าจอไปใช้ชีวิตจริง สัมผัสธรรมชาติ และสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ เพราะความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนไม่สามารถเกิดขึ้นได้แบบทันทีทันใดเหมือนเทคโนโลยี

บทสรุปของปี 2026 จึงถูกนิยามด้วยคำว่า “Hopeful” (มีความหวัง) สะท้อนทัศนคติของคน Gen Z ที่แม้จะผ่านความซับซ้อนของความสัมพันธ์ยุคใหม่มามากมาย แต่ยังคงศรัทธาในการค้นหาคนที่ใช่ บนพื้นฐานของความเรียบง่าย จริงใจ และใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยให้การเจอกันในชีวิตจริงเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น

เจาะสถิติที่น่าสนใจจาก Tinder Year in Swipe 2025

เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนขึ้น นี่คือตัวเลขสถิติที่สะท้อนพฤติกรรมของผู้ใช้งาน Tinder ทั้งในระดับโลกและประเทศไทย

  • พฤติกรรมการใช้ AI: 76% ของคนโสดระบุว่ามีการใช้ AI ช่วยในการออกเดต โดย 39% ใช้ช่วยคิดไอเดียสถานที่เดต และ 28% ใช้ช่วยเลือกรูปภาพและเขียน Bio
  • ความสำคัญของเพื่อน: 42% ของคนโสดรุ่นใหม่ยอมรับว่าเพื่อนมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเรื่องเดต และ 34% รู้สึกมีความหวังในความรักเมื่อเห็นคู่ของเพื่อน
  • Deal Breakers (สิ่งที่รับไม่ได้): 54% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า จะไม่ไปต่อกับคนที่พูดจาหยาบคายหรือเหวี่ยงใส่พนักงานบริการ รองลงมาคือเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ (37%) และมุมมองทางการเมืองที่แตกต่างกัน (41% จะไม่เดตด้วย)
  • ความชัดเจนต้องมาก่อน: 64% ให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์ทางอารมณ์ และ 60% ต้องการให้สื่อสารเจตนาที่ชัดเจนตั้งแต่ต้น
  • Top Interest ของคนไทย: อันดับ 1 คือ ธรรมชาติ, ตามด้วย เด็กยุค 90, การเดินทาง, อินสตาแกรม และ การดูแลตนเอง (Self-care)
  • เมนูยอดฮิตใน Bio คนไทย: เครื่องดื่มนำโด่งด้วย กาแฟ, เบียร์, เหล้า ส่วนอาหารคือ ชาบู, หมูกระทะ, ซูชิ
  • เมืองต่างแดนยอดนิยม (Passport): สิงคโปร์, นิวยอร์ก, ซิดนีย์, ดูไบ และ ลอสแอนเจลิส

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

จีน พัฒนา ‘สเต็มเซลล์ปลูกถ่ายสมอง’ รักษาโรคพาร์กินสัน เปลี่ยนผู้ป่วยที่เคลื่อนไหวไม่ได้ให้กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ

นักวิจัยจากประเทศจีนสร้างความหวังครั้งใหม่ให้กับวงการแพทย์ ด้วยการพัฒนาวิธีการรักษาโรคพาร์กินสัน โดยใช้สเต็มเซลล์รูปแบบใหม่ ซึ่งรายงานระบุว่าสามารถฟื้นฟูอาการของผู้ป่วยเรื้อรังให้ด...

Responsive image

Paramount ทุ่มหนักซื้อ Warner Bros. หวังแย่งดีล Netflix ด้วยมูลค่าถึง 1 แสนล้าน USD ตั้งเป้าสร้างอาณาจักรสื่อขนาดยักษ์

หลังจากที่ Netflix ประกาศดีลใหญ่เข้าซื้อ Warner Bros. ด้วยมูลค่าสูงถึง 82,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุด Paramount Skydance ได้ออกมาปาดหน้าเค้กใส่ Netflix ด้วยการยื่นข้อเสนอซื้อกิจการ...

Responsive image

เปิดตัว 15 นักธุรกิจรุ่นใหม่ในโครงการ “พอแล้วดี The Creator” ปี 2568

โครงการ พอแล้วดี The Creator ประจำปี 2568 จัดงาน พอแล้วดี XP 2568 พร้อมแถลงผลสำเร็จของการคัดเลือกและพัฒนานักธุรกิจรุ่นใหม่จำนวน 15 คน จากทั่วประเทศ โดยโครงการนี้เน้นพัฒนาผู้ประกอบก...