หลังจากปลดพนักงาน ลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่าย เพื่อรักษาสถานะการเงินของบริษัทไว้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา Twitter ได้เปิดประมูลเครื่องครัว เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์สำนักงานผ่านเว็บไซต์ Heritage Global Partners บริษัทชั้นนำที่ให้บริการด้านการประมูล ท่ามกลางการขาดทุนและกระแสข่าวว่าบริษัทเผชิญหนี้อ่วม ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าเช่าสำนักงานซึ่งมีชำระสิ้นเดือนมกราคมนี้

เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา Bloomberg รายงานว่า Twitter ถูกฟ้องร้อง เนื่องจากไม่จ่ายค่าเช่าพื้นที่สำนักงานในซานฟรานซิสโกรวมถึงสำนักงานอื่น ๆ ทั่วโลกเป็นเวลาหลายสัปดาห์ และจากรายงานล่าสุดโดย Reuters เผยว่ารายได้ของ Twitter ลดลงไป 40 % เมื่อเทียบปีต่อปี

ข้าวของที่ Twitter เอามาประมูลนั้นมีตั้งแต่เครื่องชงเอสเพรสโซของ LA Marzocco เตาอบ เครื่องทำน้ำแข็ง ตู้เย็น และเครื่องครัวอีกหลายชนิด รวมถึงอุปกรณ์สำนักงาน เช่น โต๊ะ เก้าอี้ โปรเจกเตอร์ จอคอม จอทีวี หรือแม้แต่หน้ากากอนามัยก็ยังมี โดยอุปกรณ์เหล่านี้มากจากสำนักงานในซานฟรานซิสโก 

ภาพจาก : heritage global partners

ภาพจาก : heritage global partners

ภาพจาก : heritage global partners 

บริษัทยังเปิดขายป้ายโลโก้ นกฟ้าทั้งแบบไม่มีไฟและมีไฟด้วย ดูแล้วการนำของใช้มาประมูลขายครั้งนี้ ดูเหมือนจะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บอกว่า Elon Musk กำลังขาดเงินสดท่ามกลางยอดค่าใช้จ่ายจำนวนมาก

วิกฤตการเงินของ Twitter 

เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2022 Musk เข้าซื้อ Twitter ด้วยมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์ เงินจำนวนนั้นเป็นการกู้ยืมมา 13,000 ล้านดอลลาร์จากธนาคารต่าง ๆ รวมถึง Morgan Stanley และ Bank of America ซึ่งตามรายงานของ Financial Times บริษัทจะต้องชำระดอกเบี้ยคืนประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ต่อปี 

โดยที่ผ่านมา Musk ได้งัดวิธีต่าง ๆ ออกมา ไม่ว่าจะเป็น การขายหุ้น Tesla ที่เขาถืออยู่มูลค่ารวม 22,900 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา, การปลดพนักงานออกกว่าครึ่งบริษัท, การลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน,  การสร้างโมเดล Twitter Blue Verified subscriptions หรือการเก็บค่าสมาชิกเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม

Musk ต้องการให้ Twitter สร้างรายได้ครึ่งหนึ่งจากการเก็บค่าสมาชิก เพื่อพึ่งพารายได้จากโฆษณาให้น้อยลง ที่ผ่านมารายได้ 90 % ของ Twitter มาจากโฆษณา (Advertising) แต่สถานการณ์ตรงนี้ดันมืดมนตั้งแต่ Musk เข้ามาบริหารบริษัท เนื่องจากหลายบริษัทได้หยุดแคมเปญโฆษณาบน Twitter รวมถึง กลุ่มสิทธิพลเมืองหลายกลุ่มก็เรียกร้องให้ธุรกิจต่างๆ หยุดซื้อโฆษณา เนื่องจากมีข้อกังวลว่าบริษัทล้มเหลวในการป้องกันการแพร่กระจายของคำพูดแสดงความเกลียดชังและเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม

เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา Musk ออกมากล่าวผ่านรายการพอดแคสต์ที่เขาไปออกว่า "มันเป็นรถไฟเหาะตีลังกาที่ค่อนข้างมาก มันมีทั้งขึ้นและลง แต่โดยรวมแล้วดูเหมือนว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี เราควบคุมค่าใช้จ่ายได้พอสมควร ดังนั้นบริษัทจึงไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จะล้มละลายอีกต่อไป" แต่ก็รับว่ายังไม่ได้อยู่ในสถานะที่ปลอดภัย และยังมีงานต้องทำอีกมาก 

อ้างอิง : CNBC , Heritage Global Partners