รัฐบาลอังกฤษเลิกลงทุนในระบบยืนยันตัวตน 'GOV.UK Verify' ให้เอกชนรับช่วงต่อ | Techsauce

รัฐบาลอังกฤษเลิกลงทุนในระบบยืนยันตัวตน 'GOV.UK Verify' ให้เอกชนรับช่วงต่อ

รัฐบาลสหราชอาณาจักร (UK) ประกาศเริ่มกระบวนการเปลี่ยนผ่านผู้ดูแลระบบยืนยันตัวตน 'GOV.UK Verify' จากเดิมที่รัฐบาลถือครอง ส่งให้เอกชนเป็นผู้ดูแลแทน ระบุใช้เวลาเปลี่ยนผ่าน 18 เดือน สาเหตุสำคัญมาจากหน่วยงานภาครัฐไม่เชื่อมั่นในระบบดังกล่าว

เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Oliver Dowden เลขาธิการรัฐสภา (Parliamentary Secretary) และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ระบุว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักร (United Kingdom: UK) ประกาศส่งต่อระบบยืนยันตัวตนผ่านดิจิทัล (Digital ID) กลางของภาครัฐที่ชื่อว่า 'GOV.UK Verify' เตรียมส่งต่อให้ภาคเอกชนเป็นผู้ดูแลหลักภายในระยะเวลา 18 เดือน

Photo: Government Digital Service (GDS)

โดย Oliver ระบุต่อรัฐสภาว่าจะมีการให้เงินก้อนหนึ่ง (ไม่ได้เปิดเผยจำนวนเงิน) เพื่อทำให้การเปลี่ยนผ่านรูปแบบการดูแลโดยรัฐมาเป็นเอกชนเป็นไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งถือเป็นการยืนยันแล้วว่าภาคเอกชนจะรับผิดชอบระบบ Digital ID ขยายให้มีการใช้ทั่วสหราชอาณาจักรต่อไป

เอกชน 5 รายที่จะเข้ามาดูแลระบบดังกล่าว ได้แก่ Barclays, Digidentity, Experian, Post Office และ Secure Identity ส่วน Royal Mail และ Citizen Safe ถอนตัวออกไปก่อนแล้ว

เหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนมือผู้ดูแลระบบ เป็นผลมาจากในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หน่วยงานตรวจสอบการทำงานของภาครัฐออกมาแนะนำให้รัฐบาลควรหยุดการใช้ระบบยืนยันตัวตนผ่านดิจิทัล เพราะพบว่าหลายหน่วยงานของภาครัฐหลายแห่งเกิดความไม่เชื่อมั่นในระบบดังกล่าว โดยหลายแห่งประกาศว่าทำระบบยืนยันตัวตนของตัวเองอีกด้วย

Photo: Government Digital Service (GDS)

อีกทั้งข้อมูลจากบริการรัฐบาลดิจิทัลหรือ Government Digital Service (GDS) เปิดเผยข้อมูลว่าระบบ Digital ID ของรัฐยังมีคนมาใช้น้อยอยู่ โดยมีผู้มาลงทะเบียนในระบบเพียง 2.9 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งหมดในสหราชอาณาจักรที่มีอยู่ประมาณ 66 ล้านคน

"รัฐบาลยังคงต้องการให้ระบบยืนยันตัวตนดิจิทัลเติบโตต่อไป ซึ่งผมยินดีที่จะยืนยันว่าโครงการ Gov.uk Verify จะยังคงให้บริการระบบยืนยันตัวตนดิจิทัลแก่ภาครัฐต่อไป" Oliver กล่าว

จากแถลงการณ์ถึงแม้ว่า Gov.uk Verify จะยังใช้เพื่อการเข้าถึงบริการของภาครัฐต่อไป แต่ก็มีแนวโน้วว่าระบบดังกล่าวจะต้องแข่งกับบริษัทผู้ให้บริการยืนยันตัวตนดิจิทัลรายอื่นๆ อย่างแน่นอนในอนาคต

อ้างอิงข้อมูลจาก ComputerWeekly

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

5 เรื่องต้องรู้จาก WEF 2025 โดยคุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล

World Economic Forum (WEF) 2025 ได้หยิบยกหลายประเด็นสำคัญที่กำหนดทิศทางโลก โดย กระทิง เรืองโรจน์ พูนผล แม่ทัพแห่ง KBTG ได้สรุป 5 ปัจจัยหลักที่เราต้องรู้ ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจดิจิทั...

Responsive image

OpenAI จับมือกับ Kakao ขยายบริการ AI บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายใหญ่ของเกาหลีใต้

บริษัท Kakao Corp. และ OpenAI ได้บรรลุข้อตกลงในการนำ ChatGPT และบริการ AI อื่นๆ เข้าไปใช้งานในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของ Sam Altma...

Responsive image

Shein บุกอินเดียอีกครั้ง จับมือ Reliance Retail ค้าปลีกรายใหญ่ของอินเดีย กับความร่วมมือที่ต้องแลกมาด้วยเงื่อนไขที่เข้มงวด

Shein เกิดใหม่อีกครั้งในอินเดีย! หลังจากถูกแบนไปเกือบ 5 ปีจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างอินเดียและจีน Shein ได้กลับมาเปิดตัวอีกครั้งในอินเดีย จากการร่วมมือกับ Reliance Retail ค...