มหาวิทยาลัยแคนซัสพัฒนาเครื่องตรวจจับข้อความจาก AI (AI detector) ใช้จับผิดงานวิชาการโดยเฉพาะ แม่นยำถึง 99% | Techsauce

มหาวิทยาลัยแคนซัสพัฒนาเครื่องตรวจจับข้อความจาก AI (AI detector) ใช้จับผิดงานวิชาการโดยเฉพาะ แม่นยำถึง 99%

มหาวิทยาลัยแคนซัส (University of Kansas) พัฒนาเครื่องมือตรวจจับข้อความที่ AI สร้าง (AI detector) ในเอกสารงานวิชาการโดยเฉพาะ และตรวจจับได้แม่นยำถึง 99 %

AI detector เครื่องตรวจจับข้อความ AI จากมหาลัยฯ แคนซัส

จากความนิยมของการใช้งาน ChatGPT และ AI Chatbot สุดฉลาด ที่สามารถตอบคำถาม เขียนบทความ แต่งนิยาย จนไปถึงเขียนงานวิชาการได้ ทำให้เกิดข้อกังวลว่าจะมีผู้ใช้งานมันในทางที่ผิด และการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง 

ซึ่งเกิดขึ้นได้ เพราะปัจจุบัน AI ก็ยังมีข้อผิดพลาดอยู่ ข้อควรระวังคือเราอาจจะแยกไม่ออกว่าข้อความหรือบทความนั้นมาจากมนุษย์หรือตัว AI กันแน่

ล่าสุด การศึกษาของมหาวิทยาลัยแคนซัส ใช้วิธีป้อนบทความทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง 64 ชิ้น ให้กับ ChatGPT จากนั้นขอให้มันช่วยสร้างบทความใหม่ขึ้นมาอีก 128 ชิ้น และใช้อัลกอริทึมตรวจสอบ โดยตรวจสอบทั้งบทความที่เป็นของจริง กับบทความที่ AI สร้างขึ้นมาใหม่

ซึ่งปรากฎว่าบทความทั้งหมด 60 ชิ้นที่มาจาก ChatGPT นั้น ถูกตรวจจับได้ว่าสร้างโดย AI และมีความแม่นยำสูงถึง 99 % ในระดับย่อหน้า (Paragraph level) ตรวจสอบแม่นยำถึง 92 %

การศึกษายังชี้อีกว่า จุดที่จับโป๊ะได้หรือจุดที่จะสังเกตได้ชัดเจนเลยว่าข้อความนั้นไม่ได้มาจากฝีมือมนุษย์แต่เป็น AI คือ มนุษย์จะเขียนย่อหน้า (Paragraph) ยาวกว่า เลือกใช้ศัพท์ที่ยากกว่าหรือศัพท์ที่ไม่ได้ใช้กันทั่วไป ใส่เครื่องหมายวรรคตอนมากกว่า เช่น "อย่างไรก็ตาม" "แต่" และ "แม้ว่า" นอกจากนั้นวิธีการอ้างอิงตัวเลขหรือข้อมูล ChatGPT ก็ทำไม่ละเอียดเท่าคนทำ

Heather Desaire นักวิจัยและอาจารย์สอนวิชาเคมี มหาวิทยาลัยแคนซัส กล่าวว่า ทีมผู้วิจัยพยายามทำให้เครื่องมือนี้ใช้งานง่ายที่สุด เพื่อให้เกิดการใช้งานอย่างกว้างขวาง แม้แต่นักเรียนมัธยมปลายก็สามารถสร้างตัวตรวจจับ AI ตรวจงานเขียนได้

ตอนนี้โมเดลเครื่องตรวจจับจะใช้ได้ดีกับเอกสารทางวิชาการเท่านั้น แต่ Desaire ยืนยันว่า เราสามารถใช้วิธีเดียวกันนี้ สร้างเครื่องตรวจจับข้อความเพื่อใช้กับงานเขียนรูปแบบอื่นได้

แต่เครื่องตรวจจับ AI ก็ไม่ได้แม่นยำเสมอไป

กรณีศึกษาจาก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย (University of California) เมืองเดวิส นักศึกษาคนหนึ่งถูกอาจารย์กล่าวหาว่าโกง ด้วยการใช้ AI ทำเปเปอร์ 

โดยอาจารย์อ้างว่าใช้โปรแกรม Turnitin แพลตฟอร์มตรวจสอบงานเขียน ว่ามีการคัดลอกผลงานของผู้อื่นมาหรือใช้ AI ทำ หรือไม่ และคำตอบที่โปรแกรมให้คืองานชิ้นนั้นมีการใช้ AI เขียน (Turnitin อ้างว่าเครื่องมือตรวจจับงานเขียน AI ของบริษัทมีความแม่นยำถึง 98%)

แต่ปรากฎว่าท้ายที่สุด หลังยื่นเรื่องให้กิจการนิสิตของมหาวิทยาลัยตรวจสอบ นักศึกษาหญิงผู้ถูกกล่าวหาชนะคดีข้อสงสัยดังกล่าว ยืนยันด้วย Timestamp ว่าเธอเป็นคนทำงานนี้เองจริงๆ

แม้แต่ Classifier เครื่องมือที่เจ้าของ ChatGPT อย่าง OpenAI ปล่อยออกมาเพื่อใช้ตรวจสอบและคัดแยกข้อความที่มาจาก AI และมนุษย์ ยังมีมีอัตราความสำเร็จประมาณ 26% เท่านั้น

จากกรณีศึกษาทั้งสองกรณีเราเห็นชัดว่า เครื่องมือ AI ยังไม่สมบูรณ์แบบ ถึงตอนนี้จะฉลาดมากๆ แต่ก็ยังมีข้อผิดพลาด การใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วยทำงานคงเป็นอะไรที่เราเลี่ยงไม่ได้ในปัจจุบันและอนาคต การเรียนรู้ที่จะใช้มันอย่างฉลาดและรอบคอบจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ 

อ้างอิง : forbes , gizmodo

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สรุปอนาคตงานปี 2025-2030 จาก World Economic Forum งานไหนมาแรง ทักษะใดสำคัญ

World Economic Forum ออกรายงานประจำปีในหัวข้อ Future of Jobs Report 2025 เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดแรงงานในอนาคตโดยอ้างอิงข้อมูลจากนายจ้างกว่า 1,000 รายทั่วโลก ซึ่งเป็นตัวแทนของพ...

Responsive image

CP ตั้ง Sigve Brekke ผู้นำธุรกิจระดับโลกจากนอร์เวย์ นั่งประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมและดิจิทัล

เครือซีพีแต่งตั้ง Sigve Brekke ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมและดิจิทัล ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่ม 1 มีนาคม 2568...

Responsive image

Future Trends เปิดตัวหนังสือ Future Trends Ahead 2025 by SCBX เจาะลึก 62 เทรนด์ พร้อมประกาศจัดงาน Summit 18 ก.พ. นี้

จากความสำเร็จของหนังสือ “Future Trends Ahead 2024” ที่มียอดดาวน์โหลดกว่า 18,000 เล่ม Future Trends ได้ต่อยอดความสำเร็จนี้ด้วยการสนับสนุนจาก SCBX จัดทำหนังสือ "Future Trends Ahead 2...