วีซ่าเผย คนไทยนิยม e-payment มากขึ้น ชี้การใช้เงินสดลดลง | Techsauce

วีซ่าเผย คนไทยนิยม e-payment มากขึ้น ชี้การใช้เงินสดลดลง

Visa เผยผลสำรวจ แสดงให้เห็นว่าคนไทยมั่นใจในการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-payment มากขึ้น หลังพบว่าเงินสดนั้นไม่ปลอดภัยและไม่สะดวกในการพกไว้กับตัว

ผลสำรวจครั้งที่สาม ของการสำรวจเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภค ประจำปี 2559 ได้เจาะลึกถึงทัศนคติของผู้บริโภคในปัจจุบันเกี่ยวกับการชำระเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และสำรวจเทรนด์พฤติกรรมของผู้บริโภคจากหกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หนึ่งในผลสำรวจเกี่ยวกับประเทศไทยชี้ให้เห็นว่า 73 เปอร์เซ็นต์กล่าวว่าพวกเขาชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินผ่านบัตร อุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ อย่างสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สวมใส่ มากกว่าชำระผ่านเงินสด แสดงให้เห็นถึงการเลี่ยงการใช้เศษเหรียญและธนบัตรอย่างจริงจัง

กลุ่มผู้คนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงนับได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่มีการใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุด (83%) เมื่อเทียบกับตลาดทั่วไป (68%) เหตุผลหลักกว่า 60% มาจากเรื่องของความไม่ปลอดภัยในการถือเงินสด ซึ่งมากกว่าปี 2558 ซึ่งอยู่ที่ 57 เปอร์เซ็นต์ และอีกเหตุผลหนึ่งคือ สามารถเข้าถึงการเบิกถอนเงินสดได้ง่ายยิ่งขึ้น (48%) ซึ่งเพิ่มจาก 38% ในปี 2558

คุณสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า "ด้วยนวัตกรรมใหม่ที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้บริโภคหันมาทดลองชำระเงินที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆมากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากจำนวนผู้บริโภคชาวไทย (67%) ที่เลือกการชำระเงินแบบอัตโนมัติ ที่ลดขั้นตอนการทำธุรกรรมทางกายภาพทั้งหมด ซึ่งนวัตกรรมนี้เริ่มเข้ามาพร้อมกับตอนที่เราได้เห็นการเติบโตของระบบเศรษฐกิจออนดีมานด์ (on-demand) โดยเฉพาะในแอพพลิเคชั่นสำหรับการเดินทาง ทำให้ทุกคนต่างมองหาการช่องทางที่ รวดเร็ว ปลอดภัย และสะดวกโดยไม่ต้องแสดงบัตรในการชำระเงิน"

นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทยยังให้ความสนใจกับเทคโนโลยีไบโอเมทริกซ์ วิธีการในการยืนยันตัวตนเพื่อชำระเงิน ซึ่งกว่า 75% ของผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกสบายใจในการใช้เทคโนโลยีไบโอเมทริกซ์ อาทิ ลายนิ้วมือ และระบบการจดจำใบหน้า ซึ่งถือได้ว่า มีเปอร์เซ็นต์ตอบรับสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกลุ่มคนที่สนใจการระบุตัวตนด้วยไบโอเมทริกซ์จะสามารถเห็นได้ชัดในกลุ่มเจเนอเรชั่นวาย โดย 79% ของกลุ่มนี้ไม่มีปัญหาในการใช้ไบโอเมทริกซ์ เมื่อเทียบกับกลุ่มเจเนอเรชั่นเอ็กซ์ซึ่งอยู่ที่ 70%

“เห็นได้ชัดว่าการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ซึ่งจากนวัตกรรมที่มีอยู่แล้วอย่าง Visa PayWave ซึ่งเป็นการชำระเงินไร้สัมผัสที่มีขยายจุดรับบัตรมากขึ้นไปยัง ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหารทั่วประเทศ เราจึงไม่แปลกใจที่เห็นผู้ทำแบบสอบถามกว่า 82% พร้อมที่จะเลือกชำระเงินแบบไร้สัมผัสมากกว่าเงินสด ถ้าร้านค้าแนะนำให้ใช้” คุณสุริพงษ์กล่าวเสริม

การชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับบริการแบบออนดีมานด์ ไม่ว่าจะเป็น การส่งอาหาร การส่งของอุปโภคบริโภค การขนส่ง และการท่องเที่ยว มีความก้าวหน้ามากขึ้นในประเทศไทย

นอกจากนี้ จากการสำรวจเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภค ยังแสดงให้เห็นว่า 54 %ของผู้ตอบแบบสอบถามเคยใช้บริการแบบออนดีมานด์ในประเทศไทยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยมากถึง 29% ใช้บริการราว 2 – 3 ครั้งต่อเดือน โดยบริการบริการจัดส่งอาหารออนไลน์มีผู้ใช้มากที่สุดคือ 3 ใน 4 (75%)  ถึงแม้ว่าเงินสดยังคงเป็นช่องทางการชำระเงินหลัก (71%) แต่การชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์กำลังไต่อันดับตามขึ้นมา ซึ่งครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม (47%) ตอบว่าพวกเขาอาจจะลองชำระเงินผ่าน “การ์ด ออนไฟล์ (card on file)” หรือการลงทะเบียนบัตรเข้าแอพพลิเคชั่น ในขณะที่ 56% ตอบว่าพวกเขาต้องการชำระเงินเมื่อได้รับของที่สั่งแล้วด้วย โมบายวอลเล็ต (mobile wallet)

“ไม่ว่าจะเป็น Mobile Wallet Payment Gateway หรือเทคโนโลยีการชำระเงินอื่นๆ ผลสำรวจของเราได้แสดงให้เห็นว่า โดยพื้นฐานแล้ว คนไทยยังคาดหวังให้ประสบการณ์การชำระเงินของพวกเขา ปลอดภัย เร็ว และเชื่อถือได้ (82%) และด้วยเครือข่ายการชำระเงินระดับโลกอย่างวีซ่า ที่สามารถประมวลและควบคุมการทำธุรกรรมได้มากกว่า 65,000 รายการภายในหนึ่งวินาที อย่างมีเสถียรภาพ จะสามารถตอบสนองความต้องการได้มากกว่าที่หวังไว้ได้อย่างแน่นอน” คุณสุริพงษ์กล่าว ปิดท้าย

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ไม่ยอมขายแอป ก็โดนแบน สหรัฐฯ จ่อแบน TikTok หวั่นเป็นภัยความมั่นคงชาติ

สหรัฐฯ ผ่านกฎหมายแบน TikTok แล้ว บังคับบริษัทแม่ ByteDance ต้องขายแอปภายใน 1 ปี มิฉะนั้นจะถูกแบนในสหรัฐฯ ด้านซีอีโอ TikTok ประกาศกร้าว พร้อมท้าทายกฎหมาย ไม่ไปไหนทั้งนั้น...

Responsive image

KBank ผนึก J.P. Morgan เปิดโปรเจกต์ Carina ใช้บล็อกเชน ลดเวลาทำธุรกรรมจาก 72 ชั่วโมงเหลือ 5 นาที

Kbank ร่วมกับ J.P. Morgan Chase Bank เปิดตัวโปรเจคต์นวัตกรรมคารินา (Carina) ลดระยะเวลาการทำธุรกรรม จากที่ใช้เวลา 72 ชั่วโมงเหลือเพียงแค่ 5 นาที...

Responsive image

Apple Vision Pro ขายไม่ดีอย่างที่คิด Apple ลดคาดการณ์ยอดขายกว่าครึ่ง ปรับแผนใหม่

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สาย Apple เผยว่า Apple ได้ลดตัวเลขยอดขาย Apple Vision Pro ในปีนี้เหลือเพียง 400-450,000 เครื่องเท่านั้น ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ (มากกว่า 700–800,000 เครื่อง)...