Warung Pintar พัฒนาโดย East Ventures ซึ่งในภาษาอินโดคำว่า Warung (หรือ Kiosk) แปลว่า ซุ้มขายของ หรือแผงลอย มีความพยายามที่จะนำเทคโนโลยีมาพัฒนาเพื่อให้คนที่มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ โดยร้านค้าแผงลอยนี้ ต่างจากแผงลอยทั่วไปตรงที่มีทั้งระบบกล้องวงจรปิด, LCD TV, บริการที่นั่งและ Wifi ฟรี อีกทั้งลูกค้ายังสามารถชาร์จแบต และจ่ายค่าบริการผ่านธุรกรรมออนไลน์ได้อีกด้วย
การระดมทุนในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น SMDV, Vertex Ventures, Pavilion Capital, Line Ventures, Digital Garage, Agaeti, Triputra, Jerry Ng, EV Growth, และผู้ลงทุนหน้าใหม่อย่าง OVO
Agung Bezharie Hadinegoro, co-founder และ CEO ของ Warung Pintar กล่าวว่า “Warung Pintar ได้ช่วยพาร์ทเนอร์อย่าง Mitra มีรายได้เพิ่มถึง 41 % เราจะมุ่งพัฒนาธุรกิจค้าปลีกระดับไมโคร ที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถได้เปรียบในการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกและร่วมกันสร้างเศรษฐกิจที่ดีกว่า”
Chua Kee Lock หุ้นส่วนผู้จัดการของ Vertex Ventures พูดถึง Warung Pintar ว่า “ทันทีที่เราได้ยินไอเดียนี้มันก็ดึงดูดความสนใจของฉันทันที ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถช่วยให้ SME ในอินโดนีเซียให้เกิดการยอมรับมากขึ้น เรามีวิสัยทัศน์เดียวกันในการช่วยเหลือประชาชนรายได้น้อย และสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกันสำหรับทุกคน เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการร่วมลงทุนครั้งนี้”
“เรามีวิสัยทัศน์ตรงกันในความต้องการช่วย SME และผู้ประกอบการขนาดเล็ก ที่เป็นส่วนสำคัญของ financial inclusion ของอินโดนีเซีย การร่วมทุนนี้เน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นของ OVO ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของ SME ของอินโดนีเซียในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล” Jason Thomson CEO ของ OVO กล่าว
“Warung Pintar จะเข้าถึงและช่วยธุรกิจขนาดเล็กที่ไม่มีเทคโนโลยี เราเชื่อว่าพวกเขาจะเป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยเพิ่มการรวมตัวของระบบดิจิทัลได้” Jesslyne Widjaja จาก SMDV กล่าว
“เราเชื่อว่า Warung Pintar นั้นมีความโดดเด่นในการใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมศักยภาพผู้ประกอบการรายย่อยในอินโดนีเซีย เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ Warung Pintar และการที่พวกเขาได้นำระบบดิจิทัลเข้าไปช่วยประชาชนผู้มีรายได้น้อย” Shinichiro Hori หุ้นส่วนผู้จัดการของ EV Growth กล่าว
“Warung Pintar เป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดของ East Ventures อีกทั้งในรอบนี้ได้มีการปิดตัวค่อนข้างเร็ว เราหวังว่าในรอบถัดไปพวกเขาจะสามารถเติบโตอย่างรวดเร็ว และสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อสังคมได้“
ภายในเวลา 1 ปี Warung Pintar เติบโตถึง 575 เท่า จากผลตอบแทนการลงทุนถึง 110% ซึ่งนี่หมายความว่า ในทุกๆ การลงทุนที่ Warung Pintar ได้ให้ Mitra จะสามารถช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชากรได้ถึง 100% ทั้งด้านการศึกษา, การให้บริการทางสาธารณสุข, ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและสังคม ทักษะในการเป็นผู้ประกอบการ และตัวชี้วัดคุณภาพชีวิตอื่น ๆ
ในเดือนมกราคมปี 2018 Warung Pintar มีตู้ขายของเพียง 2 แผงเท่านั้น ในตอนนี้มีมากถึง 1,150 แผง โดยภายในปลายปีนี้ตั้งเป้าขยายธุรกิจในบันยูวังงี (จังหวัดในภาคตะวันออกของอินโดนีเซีย) ให้มีถึง 5,000 แผง
ที่มา :
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด