กางแผนธุรกิจปี 2020 WHA Group ยักษ์ใหญ่โลจิสติกส์ไทย มุ่งสู่ Digital Transformation เต็มรูปแบบ | Techsauce

กางแผนธุรกิจปี 2020 WHA Group ยักษ์ใหญ่โลจิสติกส์ไทย มุ่งสู่ Digital Transformation เต็มรูปแบบ

WHA Group เผยความสำเร็จธุรกิจในปี 2562 เติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เดินหน้าประกาศแผนธุรกิจประจำปี 2563 พร้อมพัฒนาธุรกิจขับเคลื่อนการเติบโตของทั้ง 4 กลุ่ม ตั้งเป้ารายได้และส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 และคาดว่าอัตราผลกำไร EBITDA จะอยู่ที่ร้อยละ 40 แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ในช่วงชะลอตัว พร้อมตั้งเป้าขายที่ดิน 1,400 ไร่ และการสร้างโครงการใหม่/ยอดเช่าพื้นที่โลจิสติกส์รวม 250,000 ตร.ม. รวมทั้งการขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT ราว 150,000 ตร.ม.

คุณจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ว่าในปีที่ผ่านมาจะต้องเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่ผลการดำเนินงานของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอัตราร้อยละ 22 ในขณะเดียวกันเรายังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจทั้ง 4 กลุ่มของบริษัทอย่างต่อเนื่องพร้อมรุกตลาดในไทยและเวียดนาม

พร้อมทั้งเรายังเฝ้าระวังดูสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบโลกในปี 2563 อาทิ ความตึงเครียดด้านการค้าโลก การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ผลกระทบจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ และการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น รวมถึงปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เหตุการณ์เหล่านั้นอาจสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับเรา

ตัวอย่างเช่น เราสังเกตเห็นได้ว่า สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ส่งผลให้เกิดกระแสการเคลื่อนย้ายการลงทุนของจีนมายังประเทศไทย ซึ่งตอนนี้คิดเป็นกว่า 1 ใน 3 ของการลงทุนจากต่างชาติทั้งหมด จากรายงานของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน พบว่าจีนเป็นประเทศที่มาลงทุนในไทยเป็นอันดับ 1 แซงหน้าญี่ปุ่นไปแล้ว ส่งผลให้สามารถขายที่ดินให้กับกลุ่มลูกค้าจีนและไต้หวันได้ถึง 45 ราย คิดเป็นกว่าร้อยละ 60 ของยอดขายที่ดินของบริษัทในปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้แล้ว ความคืบหน้าของโครงการโครงสร้างพื้นฐานของอีอีซี เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อสนามบินและการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ยังส่งผลดีต่อกลุ่มธุรกิจของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป เนื่องจากมีที่ดินขนาดใหญ่ที่พร้อมให้บริการ และที่ผ่านมาบริษัทฯ ก็ประสบความสำเร็จในการดึงนักลงทุนเข้ามาลงทุนในจังหวัดที่เป็นยุทธศาสตร์ของประเทศไทย

ประมวลความสำเร็จ WHA Group ปี 2019

ปี 2562 เป็นอีกหนึ่งปีที่ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของประเทศไทยในฐานะผู้พัฒนาด้านโลจิสติกส์  นิคมอุตสาหกรรม ระบบสาธารณูปโภคและพลังงาน ตลอดจนดิจิทัลแพลตฟอร์ม ด้วยผลประกอบการและส่วนแบ่งกำไรรวมมูลค่าราว 1.35 หมื่นล้านบาท และมูลค่าสินทรัพย์โดยรวม 8.2 หมื่นล้านบาท 

ผลงานความสำเร็จในประเทศไทยที่มีความโดดเด่น 

  • การเปิดนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 (WHA ESIE 3) ขนาด 2,620 ไร่ ซึ่งถือเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ล่าสุดของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป 
  • การลงนามความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรรายใหญ่ ๆ ด้านโลจิสติกส์  ด้านระบบสาธารณูปโภคและพลังงาน 
  • การเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ของกลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภค ได้แก่ ธุรกิจน้ำปราศจากแร่ธาตุ และการบำบัดน้ำเสียและปรับปรุงคุณภาพน้ำ 
  • การเปิดโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ชลบุรี คลีน เอ็นเนอร์ยี่ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมแห่งแรก ๆ ของประเทศไทย ซึ่งบริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP ได้ร่วมทุนกับบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) และสุเอซ กรุ๊ป 
  • การลงนามในสัญญาระหว่าง WHAUP ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่จอดรถมีกำลังผลิตติดตั้งรวม 5 เมกะวัตต์ บนพื้นที่หลังคาลานจอดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมพื้นที่ 31,000 ตารางเมตร
  • ในปี 2562 ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ต้อนรับลูกค้าใหม่ทั้งหมด 80 ราย และมีสัญญาซื้อที่ดินและเช่าโรงงานจำนวน 130 ฉบับ ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้ารวม 900 ราย จากสัญญารวมทั้งสิ้น 1,450 ฉบับ

พัฒนาการที่สำคัญในการขยายธุรกิจไปเวียดนาม

  • นอกจากนี้ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ยังได้ขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม ได้พัฒนาเขตประกอบการอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 1 – เหงะอาน เฟสหนึ่ง ซึ่งมีพื้นที่พัฒนาพร้อมขายแล้ว 145 เฮกตาร์(1,000 ไร่) รวมถึงอาคารสำนักงานแห่งใหม่เพื่อต้อนรับลูกค้า
  •  อีกทั้งบริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์จำกัด (มหาชน) ในเครือของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ปได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัท อควาวัน คอร์ปอเรชั่นจำกัด (Aquaone Corporation) และเข้าถือหุ้นร้อยละ 34 ในบริษัท ดวง ริเวอร์ เซอร์เฟส วอเตอร์แพลนท์ (Duong River Surface Water Plant) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการน้ำประปาชั้นนำของเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม 
  • นอกจากนั้น เพื่อสร้างความมั่นคงด้านแหล่งน้ำให้กับลูกค้าในเขตประกอบการอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 1 – เหงะอาน บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) ยังได้เข้าถือหุ้นในบริษัท เก๋อ หล่อ วอเตอร์ซัพพลาย (Cua Lo Water Supply) ร้อยละ 47.3 เพื่อลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปาในเมืองเหงะ อานประเทศเวียดนาม อีกด้วย

การเติบโตของกองทรัสต์เพื่อการลงทุนของ WHA Group 

ขณะที่กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 4 กองทุนของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป (REITs) มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 45 ต่อปี และมีมูลค่าสูงถึง 5.54 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2562 โดยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยมโกรท (WHART) และทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) มีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 77 และ 30 ตามลำดับ

ทิศทางกลยุทธ์แผนธุรกิจทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ ในปี 2020

สำหรับปี 2563 ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ปได้กำหนดทิศทางกลยุทธ์ไว้ 5 ข้อ ได้แก่ การมุ่งสู่ความเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจหลัก ๆของบริษัท การขยายธุรกิจในต่างประเทศให้เติบโตยิ่งขึ้น การสร้างพอร์ทโฟลิโอของบริษัทให้เติบโตมากขึ้นด้วยโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสำหรับลูกค้า การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อประโยชน์แก่ทุกฝ่าย ผสานกำลังธุรกิจทุกภาคส่วนของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ให้มากยิ่งขึ้น  และเดินหน้าทรานส์ฟอร์มสู่องค์กรดิจิทัล

ดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ 

ในส่วนนี้เราพร้อมแสวงหาโอกาสผนึกกำลังกับพันธมิตรในระยะยาว  โดยเฉพาะในด้านอีคอมเมิร์ซโดยจะเน้นไปที่สินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดมูลค่าสูงในอุตสาหกรรมเป้าหมายต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่การแปรรูปอาหาร ตลอดจนการบิน โลจิสติกส์ และโรโบติกส์  นอกจากนี้ ดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ จะนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างคุณลักษณะใหม่ ๆ ให้กับคลังสินค้าอัจฉริยะ โครงการใหม่ ๆ ที่เตรียมเปิดตัวรวมถึงโครงการอีคอมเมิร์ซและการเช่าใหม่ในปี 2563 ตั้งเป้ายอดเช่าอาคารไว้ที่ 250,000 ตารางเมตร ซึ่งจะทำให้ดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ มีพื้นที่คลังสินค้าภายใต้การถือครองและบริหารรวมเพิ่มขึ้นเป็น 2,560,000 ตารางเมตร นอกเหนือจากพื้นที่คลังสินค้าที่มีอยู่ในประเทศไทยและในอินโดนีเซียแล้ว ดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ ยังมองหาโอกาสการขยายธุรกิจเพิ่มเติมในเวียดนามด้วย ทั้งนี้ในปี 2563 ยังมีแผนขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT ราว 150,000 ตร.ม.

ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ (WHAID) 

เราได้ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำในประเทศไทย ด้วยการสร้างนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 11 ของกลุ่ม (นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36) ในช่วงปลายปี 2563  และขยายนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 4 และพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใหม่อีก 3 แห่งภายในปี 2566

 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเปิดรับนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้งานเพื่อประโยชน์ของลูกค้า ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียลดีเวลลอปเมนท์ จะพัฒนาแนวคิด  “Smart Eco Industrial Estates” ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เร่งนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้กับทุกบริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ตั้งแต่ระบบการติดตามออนไลน์ เพื่อมุ่งสู่การพัฒนา “ระบบขนส่งอัจฉริยะ” (Smart Mobility) ไปจนถึงการควบคุมจราจรและการใช้โดรนเพื่อสร้าง “ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ” (Smart Security) หรือระบบ FTTx และคลาวด์ เพื่อขับเคลื่อน “การสื่อสารอัจฉริยะ” (Smart Communication) พร้อมนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้กับระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ด้วย อาทิ การวัดมิเตอร์น้ำ สมาร์ทกริดและการวัดการใช้ไฟฟ้า

ในเวียดนาม ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จะพยายามเร่งยอดขายเพื่อดึงดูดนักลงทุนมายังเขตประกอบการอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 1 – เหงะอาน หนึ่งในโครงการที่ได้มาตรฐานสูงสุดในพื้นที่ภาคกลางตอนเหนือ ของประเทศเวียดนาม ในขณะเดียวกันบริษัทจะพัฒนาพื้นที่ส่วนที่เหลือของเขตประกอบการอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 1 – เหงะอาน เฟส 1 ทั้งนี้ยังอยู่ในระหว่างการขออนุมัติใบอนุญาตจากรัฐบาลเวียดนาม

ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP)

ส่วนนี้เราจะขยายธุรกิจ พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการน้ำรูปแบบใหม่ และเสริมพอร์ทด้านพลังงานด้วยนวัตกรรมโซลูชันพลังงาน

  • ด้านสาธารณูปโภค ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จะขยายการให้บริการไปยังกลุ่มลูกค้านอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม และจะให้บริการโซลูชันทรัพยากรน้ำหลากหลายรูปแบบ ทั้งการบำบัดน้ำเสียและปรับปรุงคุณภาพน้ำ (Wastewater Reclamation) การผลิตน้ำที่ปราศจากแร่ธาตุ(Demineralized Water) และการนำน้ำทะเลมาผลิตเป็นน้ำจืด (Desalination) ส่วนในประเทศเวียดนาม ซึ่งในปี 2562 บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นบริษัทน้ำสองแห่งไปแล้ว ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ แอนด์ พาวเวอร์ จะยังมองหาโอกาสการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค
  • ด้านพลังงาน ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จะขยายธุรกิจด้วยการพัฒนาโซลูชันพลังงานหมุนเวียน หลังจากที่ได้เปิดบริษัท ชลบุรี คลีน เอ็นเนอร์ยี่ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 WHAUP จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา บริษัทจะยังคงทำงานร่วมกับพันธมิตรระยะยาวในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหลัก อาทิ กัลฟ์ และด้านการส่งก๊าซธรรมชาติร่วมกับมิตซุย และโตเกียว แก๊ส  อีกทั้งยังได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงาน รวมถึงดำเนินการด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ สมาร์ทไมโครกริด และการกักเก็บพลังงาน

ดับบลิวเอชเอ ดิจิทัล แพลตฟอร์ม 

เราตั้งเป้าสนับสนุนการดำเนินงานทุกรูปแบบในทุกฮับของกลุ่ม ช่วงปลายปี 2563 จะมีการติดตั้งไฟเบอร์ออฟติก (FTTx) ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนในนิคมอุตสาหกรรม 9 แห่งจากทั้งหมด 10 แห่งในประเทศไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพการเชื่อมต่อด้านดิจิทัลภายในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ ยิ่งไปกว่านั้น อาศัยจากฐานลูกค้าขนาดใหญ่ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ดับบลิวเอชเอ ดิจิทัล แพลตฟอร์ม จะส่งผลดีกับธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ด้วย  

 “ด้วยแผนกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่เรากำลังดำเนินการ รวมถึงโครงการใหม่ ๆ ที่กำลังจะแล้วสร็จ เรามั่นใจว่าผลประกอบการปีนี้จะยังเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง โดยจะรักษายอดขายและรายได้ประจำให้มีความสมดุลย์กัน  เราคาดว่ารายได้และส่วนแบ่งกำไรของเราในปี 2563 จะเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 15 จากปีก่อน ตั้งเป้าอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) ที่แข็งแกร่งอยู่ที่ร้อยละ 40 และเพื่อให้ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต เราคาดการณ์ว่าจะมีการใช้งบประมาณในการลงทุนช่วงปี 2563 – 2567 ที่ 5.2 หมื่นล้านบาทโดยตั้งเป้าอัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุนไม่เกิน 1 เท่า เราจะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ปพร้อมสร้างธุรกิจที่ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่ายไปพร้อม ๆ กับลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเราทุกคน” คุณจรีพร กล่าวทิ้งท้าย


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ไทยตื่นตัวเซมิคอนดักเตอร์ ปิดดีลไปแล้วกว่า 22,000 ล้าน ภายในระยะเวลา 4 เดือนก่อนสิ้นปี

ไทยก้าวสู่ยุคเซมิคอนดักเตอร์เต็มตัว! 4 เดือนก่อนสิ้นปี ปิดดีลลงทุนไปกว่า 22,000 ล้านบาท เสริมฐานการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมผลักดันบุคลากรสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต...

Responsive image

ลิซ่า ซู จาก AMD คว้า CEO แห่งปี 2024 จากนิตยสาร TIME

ลิซ่า ซู ซีอีโอ AMD ได้รับเลือกให้เป็นซีอีโอแห่งปี 2024 จากนิตยสาร TIME โดยได้รับการยกย่องในวิสัยทัศน์และความเป็นผู้นำที่สามารถพลิกฟื้น AMD จากการเกือบล้มละลายเมื่อ 10 ปีก่อน กลายเ...

Responsive image

EV ซื้อแล้ว ซื้อซ้ำ 9 ใน 10 ไม่หันกลับไปหารถน้ำมัน เหตุค่าใช้จ่ายถูก แถมยังรักโลก

ใช้อยู่ ใช้ต่อ ไม่ขอกลับไปซบรถน้ำมันอีกต่อไป เมื่อ 9 ใน 10 ของผู้ใช้รถ EV จะยังคงเลือกใช้ต่อถ้าต้องเปลี่ยนคันใหม่อีกครั้ง ด้วยเหตุผลด้านต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่ามาเป็นอันดับหนึ่ง...