เปิดอาณาจักร WHA Group ในกิจกรรม WHA: We Shape the Future Journey โชว์นวัตกรรมเทคโนโลยี และระบบโครงสร้างพื้นฐาน | Techsauce

เปิดอาณาจักร WHA Group ในกิจกรรม WHA: We Shape the Future Journey โชว์นวัตกรรมเทคโนโลยี และระบบโครงสร้างพื้นฐาน

ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป จัดกิจกรรม WHA: We Shape the Future Journey เปิดอาณาจักรครอบคลุม 4 กลุ่มธุรกิจหลัก โลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน และดิจิทัล โซลูชัน เผยนวัตกรรมเทคโนโลยี และระบบโครงสร้างพื้นฐานซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ทั้งในสำนักงานใหญ่ อาคาร ดับบลิวเอชเอ ทาวเวอร์ ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ตลอดจนความสำเร็จของการดำเนินโครงการปันกัน เพื่อส่งเสริมการสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของทุกคนทั้งชุมชน สังคม และประเทศ สะท้อนความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีและความยั่งยืนอย่างครอบคลุมทุกมิติ สอดคล้องกับพันธกิจ “The Ultimate Solution for Sustainable Growth”

WHA

คุณไกรลักขณ์ อัศวฉัตรโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ด้วยความมุ่งมั่นของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ในฐานะผู้นำธุรกิจหลักทั้ง 4 กลุ่ม เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการเตรียมความพร้อม ตลอดจนหานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน คว้าโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตไปในทิศทางที่สอดคล้องกับบริบทของโลก ซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน โดยทั้งหมดนี้จะช่วยผลักดันให้เราบรรลุเป้าหมายที่จะก้าวเป็นบริษัทเทคโนโลยีอย่างเต็มตัวในปี 2567  ด้วยศักยภาพจากการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่ครบวงจรและแข็งแกร่งของเรา ล้วนมีส่วนช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายภายใต้พันธกิจ WHA: WE SHAPE THE FUTURE ในการสร้างคน สังคม สิ่งแวดล้อม ตลอดจนพัฒนาประเทศชาติอย่างยั่งยืน”

โดยหนึ่งในไฮไลต์ของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป คือ ศูนย์ควบคุมส่วนกลาง (Unified Operation Center: UOC) ที่ตั้งอยู่ในอาคาร ดับบลิวเอชเอ ทาวเวอร์ ถนนเทพรัตน สมุทรปราการ 

จอแสดงผลการทำงานของระบบสาธารณูปโภคแบบเรียลไทม์ภายใน UOC

โดยองค์ประกอบสำคัญของ UOC คือ ศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (EMcC) ระบบกล้องวงจรปิดรักษาความปลอดภัย (CCTV) และระบบควบคุมการจราจร (VMS) และศูนย์ควบคุมระบบน้ำและระบบบําบัดน้ำเสีย ซึ่งเป็นการบูรณาการข้อมูล ที่จะแสดงข้อมูลในพื้นที่ปฏิบัติงานต่างๆ ของกลุ่มบริษัทฯ แสดงผลการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นค่าความบริสุทธิ์ของน้ำจากระบบผลิตน้ำ กำลังการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ในพื้นที่ของดับบลิวเอชเอ การจราจรภายในเขตนิคม ฯลฯ เพื่อให้ได้รู้ข้อมูลตลอดเวลา หากเกิดปัญหาขึ้นก็สามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และยังสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกลุ่มบริษัทฯ ที่ต้องการให้มีการแสดงข้อมูลผลชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อมอย่างโปร่งใส เป็นไปตามข้อกําหนดของหน่วยงานรัฐในการเผยแพร่ผลการตรวจวัดสู่สาธารณะ

กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ นับเป็นจุดเริ่มต้นของดับบลิวเอชเอ ก่อนที่จะเริ่มขยายไปสู่กลุ่มธุรกิจอื่นๆ ซึ่งดับบลิวเอชเอ เป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจนี้ ด้วยการให้บริการทั้งในด้านคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานระดับพรีเมี่ยมที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก และยังเป็นรายแรกที่ทำอาคารโรงงาน และคลังสินค้าในรูปแบบ Built-to-Suit ในปี 2546 โดยในปัจจุบัน มีพื้นที่รวมกว่า 2.9 ล้านตารางเมตร บนทำเลจุดยุทธศาสตร์ 52 แห่ง ทั่วประเทศ 

ล่าสุด ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ได้มีการทำโครงการ Green Logistics ที่เป็นการนำเทคโนโลยีสีเขียวมาปรับใช้กับกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ ได้แก่ การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในการขนส่งสินค้า สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การใช้พลังงานหมุนเวียนเป็นแหล่งพลังงานของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นศูนย์กลางในการควบคุมการดำเนินงานของยานยนต์ไฟฟ้า ฯลฯ เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศในระยะยาว

กลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ ในฐานะผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมคุณภาพระดับโลก ด้วยโครงสร้างพื้นฐาน และบริการสาธารณูปโภคครบวงจร ได้แก่ การผลิตน้ำประปา การบำบัดน้ำเสีย การทิ้งและฝังกลบขยะ และการผลิตพลังงานไฟฟ้า ปัจจุบัน ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีนิคมอุตสาหกรรมทั้งสิ้น 13 แห่ง บนพื้นที่กว่า 71,300 ไร่ ทั้งในประเทศไทย และประเทศเวียดนาม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งคลัสเตอร์อุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และปิโตรเคมี ในโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งตะวันออก หรืออีสเทิร์นซีบอร์ด และโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) สะท้อนถึงศักยภาพและการบูรณาการด้านการส่งเสริมการลงทุนอันโดดเด่นของประเทศไทย และด้วยมาตรฐานการจัดการนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์อัจฉริยะ (Smart ECO Industrial Estate) เพื่อรองรับอุตสาหกรรมยุคใหม่ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

WHAพื้นที่ให้เช่าขนาดกลางของ WHA ESIE 1 ภายในอีสต์เทิร์น ซีบอร์ด ซึ่งออกแบบให้ไม่มีเสากลาง เพื่อให้สะดวกในการใช้พื้นที่และติดตั้งเครื่องจักรได้ตามความเหมาะสม

กลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคและไฟฟ้า ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) ในเครือดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ในฐานะผู้ให้บริการด้านระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ให้กับลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงการร่วมลงทุนด้านไฟฟ้าในหลายรูปแบบ เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นใจในการให้บริการด้านสาธารณูปโภคแก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดการจำหน่ายและบริหารจัดการน้ำกว่า 150 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และยอดเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นมากกว่า 870 เมกะวัตต์ โดยจากนี้จะเน้นการพัฒนาพลังงานทดแทนเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายรูปแบบทั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงลดการปล่อยคาร์บอนสู่บรรยากาศ อาทิ 

พื้นที่ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา

  • 1. Floating Solar โดยโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำของบ่อเก็บน้ำดิบ ภายในนิคมอุตสาหกรรม อีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) ที่มีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับบริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (AAT) กำลังผลิตไฟฟ้าขนาด 8 เมกะวัตต์ และสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศได้กว่า 5,400 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี ซึ่งโครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2567 

  • 2. Solar Carpark บนหลังคาที่จอดรถขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) โดยมีพื้นที่หลังคารวม 59,000 ตารางเมตร มีขนาดไฟฟ้ารวม 7.7 เมกะวัตต์ และพร้อมเปิดดำเนินการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 2567 

  • 3. Solar Rooftop  ปริงซ์ เฉิงซาน ไทร์ (ประเทศไทย) จำกัด กำลังผลิตไฟฟ้าขนาด 24.24 เมกะวัตต์ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 18,300 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี 

นอกจากนี้ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป นำกระบวนการ “Reverse Osmosis (RO)” มาประยุกต์ใช้ในโรงงานผลิตน้ำระบบอาร์โอ เพื่อเป็นมาตรฐานการจัดการการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดในนิคมอุตสาหกรรม โดยผลิตน้ำ 2 ประเภท คือ Permeate คือน้ำที่สามารถนำไปใช้ในกระบวนการผลิตได้ และ Concentrate คือน้ำที่มีความเข้มข้นของสารละลายในน้ำสูง ซึ่งไม่สามารถใช้ในกระบวนการผลิตได้ แต่นำมาใช้แทนน้ำดิบหรือใช้ประโยชน์ในการชำระล้างพื้นภายในโรงงาน รดน้ำต้นไม้ เป็นต้น 

โรงงานผลิตน้ำ RO Plant ภายใน WHA ESIE 1

โครงการ "Clean Water for Planet" เป็นอีกโครงการหนึ่งที่ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ตระหนักและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม การบำบัดและการจัดการน้ำเสีย โดยได้น้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) ในการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีการทางชีวภาพมาปรับใช้ ระบบบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์ (Wet Land) ที่ออกแบบระบบเป็นแบบน้ำไหลใต้ผิวชั้นกรองในแนวนอน (Subsurface flow wetland) มีหลักการทำงานคือ สารแขวนลอยขนาดใหญ่ที่ปนเปื้อนมากับน้ำเสียจะถูกกรองโดยชั้นกรองหินของบึงประดิษฐ์ และสารอินทรีย์ที่ปนเปื้อนมากับน้ำเสียจะถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ที่เกาะติดอยู่รากพืชและชั้นกรอง ซึ่งระบบนี้จะได้รับออกซิเจนจากระบบรากพืช และการแทรกซึมของอากาศผ่านผิวน้ำหรือชั้นกรองลงมา โดยระบบบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์นอกจากจะสามารถกำจัดสารอินทรีย์และสารแขวนลอยในน้ำเสียได้แล้ว ยังสามารถช่วยลดปริมาณไนโตรเจนและฟอสฟอรัสในน้ำเสียได้อีกด้วย

ระบบบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์ (Wet Land) ภายใน WHA ESIE 1

ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีความมุ่งมั่นในการสร้างสังคม ชุมชนและประเทศให้ดียิ่งขึ้น จึงนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนเข้ามาขับเคลื่อนทั้งในองค์กร รวมถึงได้นำแนวคิดนี้มาขยายและส่งต่อไปยังพันธมิตรต่างๆ ในนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงชุมชนใกล้เคียงผ่านกิจกรรมและโครงการต่างๆ เพื่อช่วยให้เกิดระบบเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพและเกิดเป็นความยั่งยืนอย่างแท้จริง ด้วย โครงการปันกัน ที่เปิดพื้นที่สำหรับการประชาสัมพันธ์และจําหน่ายผลิตภัณฑ์และสินค้าขึ้นชื่อในท้องถิ่นที่ผลิตโดยชุมชนที่อาศัยอยู่โดยรอบนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่มบริษัทในจังหวัดชลบุรีและระยอง มีช่องทางสื่อสารบนโซเชียลมีเดีย เพื่อเชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ขาย สร้างเป็นพื้นที่ให้กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยในชุมชนได้นําเสนอผลิตภัณฑ์ของตนให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เช่น งานฝีมือหัตถกรรม ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย ไปจนถึงอาหารประจําท้องถิ่นและจานเด็ดประจําบ้าน เพื่อโอกาสในการเพิ่มรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิต นอกจากนี้ยังช่วยอนุรักษ์มรดกของชุมชนและสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ฟินแลนด์ครองอันดับ 1 ของยุโรป ด้าน Digital Economy and Society Index เจาะลึกบทเรียนสู่สังคมดิจิทัลไทย

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิได้เผยรายงานว่า ฟินแลนด์ครองอันดับ 1 ของ EU ในด้าน Digital Economy and Society Index (DESI) ประจำปี 2022 สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการวางรากฐานสู่...

Responsive image

แอปจีนครองสหรัฐฯ Temu และ TikTok ยอดดาวน์โหลดสูงสุดในหมู่ Gen Z ประจำปี 2024

ข้อมูลจาก Appfigures เผยแอปยอดนิยมในกลุ่มผู้ใช้อายุ 18-24 ปีในสหรัฐฯ หรือ Gen Z ที่สะท้อนพฤติกรรมการใช้งานได้อย่างน่าสนใจ...

Responsive image

เผย Apple พัฒนาแท็บเล็ตติดบ้าน มี Apple Intelligence สั่งทุกอย่างในบ้านจากปลายนิ้ว

Mark Gurman จาก Bloomberg เผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Apple ที่เตรียมเปิดตัวให้เห็นในเวลาอันใกล้ ซึ่งไม่ใช่ iPhone, iPad หรือ Macbook รุ่นใหม่ แต่เป็นแท็บเล็ตรุ่นใหม่ที่สามาร...