ทำไมไทยต้องมี Virtual Bank ? ก้าวใหม่ของระบบการเงินไทย เพื่อลดปัญหาหนี้นอกระบบ

 Virtual Bank

Virtual Bank กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย คำถามสำคัญคือธนาคารรูปแบบใหม่นี้จำเป็นจริงแค่ไหน และจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง? บทความนี้สรุปประเด็นสำคัญจากคุณปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา Chief Digital Platform Business Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) และ คุณธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด

ปลดแอกสังคมไทยจาก 'หนี้นอกระบบ'

คุณปุณณมาศเริ่มต้นด้วยการฉายภาพปัญหาที่ฝังรากลึกในสังคมไทย นั่นคือ ‘หนี้นอกระบบ’ โดยอ้างอิงข้อมูลว่า กว่า 40% ของครัวเรือนไทยติดหนี้นอกระบบ โดยมีหนี้สินเฉลี่ยสูงถึง 54,000 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งสาเหตุสำคัญคือการที่คนกลุ่มนี้เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนในระบบ

คุณปุณณมาศอธิบายว่า Virtual Bank ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือคน 3 กลุ่มหลักๆ คือ:

  1. คนที่อยู่นอกระบบ: เพื่อดึงคนกลุ่มนี้ให้เข้ามาใช้บริการทางการเงินที่โปร่งใสและเป็นธรรม
  2. คนที่อยู่ในระบบ: จะได้รับประโยชน์จากบริการที่ดีขึ้น เช่น การคิดดอกเบี้ยตามความเสี่ยงจริง (Risk-Based Pricing) ซึ่งคนมีวินัยการเงินดีก็ควรได้ดอกเบี้ยถูกลง
  3. คนที่เคยหลุดจากระบบ: ผู้ที่เคยมีประวัติชำระล่าช้าเล็กน้อยในเครดิตบูโร จะได้รับโอกาสในการกลับเข้ามาในระบบอีกครั้ง

นอกจากนี้ คุณธัญญพงศ์ได้ย้ำว่าการที่คนไทยกว่า 95% มีบัญชีธนาคารไม่ได้หมายความว่าทุกคนเข้าถึงบริการการเงิน เพราะยังมีช่องว่างใน 3 ด้านหลักคือ

  1. สินเชื่อ: มีคนอีกกว่า 50% ที่ควรจะได้รับเครดิต แต่ระบบปัจจุบันไม่สามารถให้บริการได้ เพราะไม่มีข้อมูลหรือโมเดลที่ดีพอ
  2. การลงทุน: มีประชากรไทยเพียง 4% ที่ลงทุนในกองทุนรวม หมายความว่าคนส่วนใหญ่ขาดเครื่องมือสร้างความมั่งคั่งและเงินออมเพื่อการเกษียณ
  3. ประกัน: คนหาเช้ากินค่ำอย่างไรเดอร์ หรือวินมอเตอร์ไซค์ ไม่สามารถเข้าถึงประกันอุบัติเหตุได้ เพราะเบี้ยรายปี 3,000 บาท เป็นภาระที่หนักเกินไป

Virtual Bank จะเข้ามาแก้ปัญหานี้โดยออกผลิตภัณฑ์ที่ยืดหยุ่นและเหมาะกับชีวิตคนตัวเล็ก เช่น ประกันที่จ่ายวันละ 10 บาท แทนการจ่ายเป็นก้อนใหญ่รายปี หรือสร้างเครื่องมือช่วยออมเงินที่สนุกเหมือนเล่นเกม ดังที่คุณปุณณมาศตั้งคำถามไว้อย่างน่าสนใจว่า "ถ้าเราสอนคนให้ติดเกมได้ ทำไมธนาคารจะสอนเกมที่สำคัญที่สุดในชีวิตอย่างวินัยทางการเงินให้ประชาชนไม่ได้"

ความแตกต่างระหว่าง Virtual Bank กับธนาคารทั่วไป

คุณธัญญพงศ์ชี้ว่าความแตกต่างสำคัญอยู่ที่รากของการสร้าง Virtual Bank ถูกสร้างขึ้นมาเป็นดิจิทัลเต็มตัว (Digital Native) ไม่มีต้นทุนเก่าของสาขาและระบบเดิม ทำให้ต้นทุนต่ำ และด้วยระบบที่อยู่บน Cloud และสร้างแบบ Micro-services ทำให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาได้ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ต่างจากธนาคารทั่วไปที่อาจใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี

เรื่องการให้สินเชื่อเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ธนาคารทั่วไปมักแบ่งลูกค้าเป็นกลุ่มใหญ่ๆ แค่ 4 กลุ่ม (เสี่ยงสูงมาก, สูง, กลาง, ต่ำ) ทำให้คนที่ "เกือบดี" มักถูกปฏิเสธ แต่ Virtual Bank ใช้เทคโนโลยี Machine Learning และข้อมูลพฤติกรรมอื่น ๆ เช่น การใช้มือถือ การจ่ายเงินหรือการสมัครสมาชิก ทำให้สามารถแบ่งลูกค้าได้ละเอียดถึง 20-50 กลุ่ม

บทความเดิมได้ยกตัวอย่างที่น่าสนใจว่า "ลูกค้าที่สมัครสมาชิกนิตยสาร The Economist มีโอกาสผิดนัดชำระหนี้เพียง 0.005%" นี่คือพลังของข้อมูลทางเลือกที่ทำให้เข้าใจความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละคนได้ลึกซึ้งขึ้น ผลลัพธ์ก็คือ กว่า 50% ของลูกค้าที่พวกเขาอนุมัติสินเชื่อในปัจจุบัน คือคนกลุ่มที่เคยถูกสถาบันการเงินอื่นปฏิเสธมาก่อน

โมเดลธุรกิจของ Virtual Bank

คุณธัญญพงศ์อธิบายว่าโมเดลธุรกิจของ Virtual Bank จะเน้นกลยุทธ์แบบ "ป่าล้อมเมือง" คือเข้าถึงลูกค้าในปริมาณมหาศาล แม้รายได้ต่อคนจะน้อยก็ตาม เช่น สินเชื่อเฉลี่ยอาจอยู่ที่ 3,000–5,000 บาท (เทียบกับบัตรเครดิตที่ 70,000–100,000 บาท) แต่ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนลูกค้าจาก 2–4 ล้านคน ไปสู่ 7–10 ล้านคน

หัวใจที่ทำให้โมเดลนี้เป็นไปได้คือโครงสร้างต้นทุนที่ต่ำมากจากการไม่มีสาขาและใช้ AI เป็นหลัก ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือขั้นตอนการพิจารณาสินเชื่อ ซึ่งใบสมัคร 8 ล้านใบต่อปีถูกจัดการด้วยระบบอัตโนมัติเกือบทั้งหมด โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เป็นมนุษย์ดูแลเพียง 7 คน

ความท้าทายและความเสี่ยงที่ต้องเผชิญ

แน่นอนว่าเส้นทางนี้ไม่ได้ง่ายและมีความเสี่ยงสูงมาก คุณธัญญพงศ์ให้ข้อมูลว่า Digital Bank ทั่วโลกกว่า 90% ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเป็นโจทย์ที่ยากมากในการสร้างสมดุลระหว่างการบริการลูกค้ากลุ่มเสี่ยงสูงกับการควบคุมหนี้เสีย ขณะที่คุณปุณณมาศ ชี้ว่าความท้าทายหลักคือ ความเสี่ยงด้านเครดิต และ การทุจริต ซึ่งต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยป้องกันอย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังมีเรื่องกรอบเวลาที่ ธปท. กำหนดให้เปิดดำเนินการใน 1 ปี และความเสี่ยงจากมิจฉาชีพที่จะปลอมตัวมาหลอกลวงประชาชน

สรุป

หัวใจของ Virtual Bank ไม่ใช่แค่การทำธุรกิจธนาคารออนไลน์ แต่มันคือภารกิจที่อยากจะเข้ามาแก้ปัญหาปากท้องของคนไทย โดยเฉพาะการให้ "โอกาส" กับคนตัวเล็กๆ ให้พวกเขาสามารถเข้าถึงเงินทุนในระบบได้ง่ายขึ้น เพื่อจะได้ไม่ต้องไปติดกับดักหนี้นอกระบบอีกต่อไป แน่นอนว่ามันคือการเดิมพันครั้งใหญ่ที่ไม่ง่าย แต่ถ้าทำสำเร็จ มันจะเปลี่ยนชีวิตคนได้อีกเยอะมาก และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคมในภาพรวม

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะดีล Netflix เข้าซื้อ Warner Bros ทำไมถึงยอมจ่ายมากถึง 8.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำไมหลายคนไม่เห็นด้วย

นับเป็นข่าวใหญ่ที่สะเทือนวงการบันเทิงหนัง Netflix เจ้าตลาดสตรีมมิ่งประกาศเข้าซื้อกิจการ Warner Bros. ซึ่งนับรวมถึงสตูดิโอสร้างภาพยนตร์-โทรทัศน์ และธุรกิจสตรีมมิ่ง HBO Max และ HBO ด...

Responsive image

ซีอีโอ AWS ชี้ AI Agents จะเปลี่ยนโลกยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ต เราอาจได้เห็น AI Agent พันล้านตัวรันองค์กร

AWS ซีอีโอประกาศชัด AI Agents จะสร้างผลกระทบต่อโลกธุรกิจยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ตและ Cloud พร้อมเปิดยุคที่ ‘AI Agent พันล้านตัว’ ทำงานอัตโนมัติอยู่หลังองค์กรทั่วโลก เร่งผลตอบแทนทางธุรกิ...

Responsive image

วิกฤตสมองไหลใน Apple ไม่จบ ! ล่าสุด Meta ดึงตัว Alan Dye หัวหน้าทีมดีไซน์ Apple ผู้คุมออกแบบ Liquid Glass ใน iOS26

เจาะลึกสมองไหลใน Apple ปี 2025 เมื่อผู้เชี่ยวชาญ AI หลายคนย้ายไป Meta, OpenAI และ Cohere ส่งผลต่ออนาคต Apple Intelligence...