งานวิจัยชี้! WFH ทำให้ ‘ชีวิตดีขึ้นจริง’ ย้ำบริษัทที่เปิดโอกาสให้เลือก พนักงานจะให้ใจ ทำงานให้เต็มที่

Work from Home ทำให้ ‘ชีวิตดีขึ้นจริง’

เรื่อง Work from Home กับการกลับเข้าออฟฟิศ ยังเป็นเรื่องที่เถียงกันไม่จบ หลายบริษัทอยากให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศเหมือนเดิม แต่พนักงานหลายคนก็ยังติดใจกับความยืดหยุ่นของการทำงานที่บ้าน

เรื่องนี้ยิ่งถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ CEO ของบริษัทใหญ่ๆ อย่าง Microsoft, Tesla, Amazon และ JPMorgan ออกมาพูดเหมือนๆ กันว่าการทำงานจากบ้านทำให้คนห่างกัน ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ไม่เกิด ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาอยากให้พนักงานทุกคนกลับออฟฟิศ

แต่ในฝั่งคนทำงานก็มองว่าความสุขและความยืดหยุ่นในชีวิตก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน และการได้เลือกวิธีทำงานที่เข้ากับตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งคำว่า "เลือกวิธีการทำงาน" นี่แหละ คือหัวใจของเรื่องนี้

Work From Home ทำให้งานไม่เดินจริงไหม ?

นี่คือสิ่งที่หัวหน้าหลายคนกลัวที่สุด และสิ่งที่เหล่า CEO กังวล คือประสิทธิภาพของงานจะลด แต่ผลวิจัยล่าสุดจาก University of South Australia บอกว่าตรงกันข้ามเลย

งานวิจัยชี้ชัดว่า การทำงานจากบ้านไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพลดลงเลย จริงๆ แล้วหลายคนทำงานได้ดีเท่าเดิมหรือดีขึ้นด้วยซ้ำ

เหตุผลก็ง่ายๆ เพราะเมื่อพนักงานมีความสุขขึ้น สุขภาพดีขึ้น งานก็ออกมาดีขึ้นตามไปด้วย

  • พอไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ไม่ต้องเสียค่ารถ ไม่ต้องฝ่ารถติดตอนเช้า-เย็น ก็มีเวลาไปออกกำลังกาย ใช้เวลากับครอบครัว หรือทำสิ่งที่ชอบมากขึ้น เรื่องอาหารการกินก็ดีขึ้น เพราะได้ทำอาหารกินเองแทนที่จะต้องซื้อข้าวนอกบ้านแพงๆ
  • พนักงานที่ทำงานจากบ้านนอนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30 นาทีต่อคืน พอได้พักผ่อนเต็มที่ร่างกายก็สดชื่น แถมยังเครียดน้อยลงเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทาง หรือปัญหาจุกจิกในออฟฟิศ หลายคนบอกว่าอาการเครียดก่อนวันจันทร์ (Sunday Scaries) ลดลง ทำให้นอนคืนวันอาทิตย์สบายขึ้น มีแรงทำงานกว่าเดิม
  • ชีวิตลงตัวขึ้น การที่สามารถแวบไปจัดการเรื่องส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างวันได้ ทำให้ไม่ต้องเก็บทุกอย่างไปกองไว้วันเสาร์-อาทิตย์ ชีวิตโดยรวมเลยลงตัวกว่าเดิม

แต่เรื่องทั้งหมดนี้ มีจุดสำคัญที่สุดอยู่หนึ่งข้อ ผลดีทั้งหมดที่ว่ามาทั้งความสุขและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อพนักงานได้ "เลือก" ที่จะทำงานจากบ้านเอง ไม่ใช่ถูกบังคับ เหมือนกับที่บางคนมีความสุขกับการเข้าออฟฟิศไปเจอเพื่อนร่วมงาน การทำงานที่บ้านก็เหมาะกับคนที่ต้องการสมาธิและชอบความยืดหยุ่น

สุดท้ายแล้ว เรื่องที่เถียงกันนี้อาจไม่ได้จบที่ว่าการทำงานที่ "ออฟฟิศ" หรือ "บ้าน" ที่ไหนดีกว่ากัน แต่จบที่ว่า บริษัทที่ให้พนักงานได้เลือกวิธีทำงานที่เหมาะกับตัวเอง อาจเป็นบริษัทที่ประสบความเร็จในระยะยาวก็ได้ 

อ้างอิง: fortune

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ซีอีโอ AWS ชี้ AI Agents จะเปลี่ยนโลกยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ต เราอาจได้เห็น AI Agent พันล้านตัวรันองค์กร

AWS ซีอีโอประกาศชัด AI Agents จะสร้างผลกระทบต่อโลกธุรกิจยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ตและ Cloud พร้อมเปิดยุคที่ ‘AI Agent พันล้านตัว’ ทำงานอัตโนมัติอยู่หลังองค์กรทั่วโลก เร่งผลตอบแทนทางธุรกิ...

Responsive image

วิกฤตสมองไหลใน Apple ไม่จบ ! ล่าสุด Meta ดึงตัว Alan Dye หัวหน้าทีมดีไซน์ Apple ผู้คุมออกแบบ Liquid Glass ใน iOS26

เจาะลึกสมองไหลใน Apple ปี 2025 เมื่อผู้เชี่ยวชาญ AI หลายคนย้ายไป Meta, OpenAI และ Cohere ส่งผลต่ออนาคต Apple Intelligence...

Responsive image

เจาะแผน 'Quick Win' รัฐ-เอกชน ผนึกกำลังดันครีเอเตอร์ไทยสู่อาชีพมั่นคง

ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่จุดเปลี่ยน เมื่อเรากลายเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่ 'ยอดผู้ใช้งาน TikTok แซงหน้า YouTube' อย่างชัดเจน ปรากฏการณ์นี้สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขอ...