Xiaomi กำไรเพิ่ม 25.2% เผยย้ายสำนักงานใหญ่มาไทย เตรียมเพิ่มร้าน Mi Store และช่องทางค้าปลีกให้มากขึ้น | Techsauce

Xiaomi กำไรเพิ่ม 25.2% เผยย้ายสำนักงานใหญ่มาไทย เตรียมเพิ่มร้าน Mi Store และช่องทางค้าปลีกให้มากขึ้น

Xiaomi (เสียวหมี่) ผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลก เผยความสำเร็จการดำเนินงานในไตรมาส 3 ของปี 2019 โดยรายได้ในภาพรวมเพิ่มขึ้นกว่า 5.5% มีมูลค่ารายได้กว่า 53.7 พันล้านหยวน ซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งของรายได้มาจากธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ต่างประเทศนอกประเทศจีน มีรายงานอื่นเผยว่าเสียวหมี่ยังเป็นแบรนด์หนึ่งใน 5 อันดับ ในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ในแง่ของการจัดส่งสมาร์ทโฟนซึ่งนั่นสะท้อนถึงการลงทุนมหาศาลในยุคโลกาภิวัตน์ กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นับว่าเป็นตลาดที่มีความสำคัญสูง

มากไปกว่านั้นสำนักงานใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนที่แล้ว โดยมี สตีเว่น ฉือ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รับผิดชอบในการพัฒนาธุรกิจและบริหารการดำเนินงานภายในภูมิภาคนี้

รวมไฮไลท์ทางด้านการเงินปี 2019 ไตรมาสที่ 3 

  • รายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 53.7 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 5.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน  
  • กำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณ 8.2 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 25.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน
  • ปัจจุบันเสียวหมี่เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก และได้สร้างแพลตฟอร์ม IoT ชั้นนำของโลกที่มีอุปกรณ์อัจฉริยะมากกว่า 213 ล้านรายการ ซึ่งไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป
  • เกือบจะ 50% ของรายได้ของเสียวหมี่ มาจากธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ต่างประเทศ นอกประเทศจีน

ผลการดำเนินงานของเสียวหมี่ในไตรมาส 3 เกินความคาดหวังเป็นพิเศษ เป็นเพราะการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจของเราในตลาดต่างประเทศ รวมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” สตีเว่น ฉือ ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้กล่าวไว้

นอกจากนี้เรายังมีความยินดีที่จะประกาศถึงการย้ายฐานที่ตั้งใหม่ของสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มายังประเทศไทย ด้วยตัวเลขประชากรที่มีกว่า 69 ล้านคน และมีมากกว่า 51 ล้านคนที่ใช้งานอินเทอร์เน็ต ซึ่งประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในตลาดที่เข้าถึงเทคโนโลยีได้มาก และยังเป็นประเทศที่ได้รับการจัดอันดับว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินทางมือถือสูงมาก ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามาคือศักยภาพที่เรามองเห็น โดยในปีหน้าเราได้วางแผนที่จะเพิ่มช่องทางร้านค้า Mi Store และช่องทางค้าปลีกให้มากขึ้น เพื่อขยายการบริการหลังการขายและได้มอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า พร้อมกันนี้ เราจะสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจโดยนำศักยภาพความร่วมมือของพันธมิตรมาผลักดันให้ธุรกิจเติบโต ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ และที่สำคัญที่สุดคือเราจะนำผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ ในราคาที่เข้าถึงได้ มาส่งมอบให้ถึงมือคนไทยและ Mi Fans ทุกคน”

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เคอีเอ็กซ์ประกาศ การลาออกของซีอีโอ พร้อมตั้งผู้บริหารร่วม (Co-CEO) รับช่วงต่อ

บริษัท เคอีเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ว่า บริษัทฯ ได้รับหนังสือแจ้งการลาออกจากตำแหน่งประธ...

Responsive image

จับตา 18 อุตสาหกรรม พลิกโฉมเศรษฐกิจโลก สร้างรายได้กว่า 48 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2040

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจดุเดือดกว่าเดิม มีอุตสาหกรรมบางกลุ่มที่กำลังมาแรง และเติบโตแบบก้าวกระโดด เราเรียกอุตสาหกรรมเหล่านี้ว่า 'Arenas' ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยโอกาส แต่ก็ต้...

Responsive image

Gemini 2.0 คืออะไร ใช้ทำอะไรบ้าง ? สรุปของใหม่กับ AI ที่เก่งที่สุดของ Google

หลังจาก Google เปิดตัว Gemini 1.0 ซึ่งเป็น AI แบบ Multimodal และพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนมีผู้ใช้มากถึง 2 พันล้านคนทั่วโลก ล่าสุดได้มีการอัปเกรดเวอร์ชันใหม่ในชื่อ Gemini 2.0 ซึ่งเป็น...