หลังจากผ่านพ้นมาครึ่งปี ล่าสุด หลายๆ ธนาคารเริ่มออกมาเผยผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 2 และครึ่งปีแรกของปี 2019 ให้ได้เห็นกัน Techsauce ได้รวบรวมข้อมูลมาจัดทำกราฟแสดงผลให้ผู้อ่านได้ติดตามกัน
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2019 ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารจำนวน 9,347 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 จากไตรมาส 2 ปี 2018 โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 2.36 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงร้อยละ 1.0
ในงวดแรกปี 2019 มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารจำนวน 18,375ล้านบาท เพิ่มขึ้น 176 ล้านบาท จากงวดแรกของปีก่อน โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 1,239 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.6 ปัจจัยหลักจากอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 4,220 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.0 ส่วนใหญ่จากกำไรสุทธิจากเงินลงทุนลดลงและรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลงจากค่าธรรมเนียมจากธุรกิจหลักทรัพย์ซึ่งลดลงตามสภาวะตลาดทุนและค่าธรรมเนียมจากบริการทำธุรกรรมผ่านธนาคารซึ่งเป็นผลจากการยกเว้นค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลสำหรับค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญลดลง 3,227 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2562 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ ส่วนที่เป็นของธนาคาร จำนวน 8,170 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากสินเชื่อที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราผลตอบแทนสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ (NIM) เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 3.24 จากร้อยละ 3.10 ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากการลดลงของต้นทุนทางการเงิน
ครึ่งแรกของปี 2019 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารเท่ากับ 15,471 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 63,635 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สินเชื่อขยายตัวร้อยละ 2 จากสิ้นปีที่ผ่านมา ทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.4 จากการขายทอดตลาดทรัพย์สินหลักประกันจำนองในไตรมาสแรกของปี NIM ที่ไม่รวมรายได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์สินหลักประกันจำนองดังกล่าว เป็นร้อยละ 3.24 ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ร้อยละ 3.09 รายได้จากการดำเนินการอื่นๆ เติบโตร้อยละ 5.5 จากการขายทรัพย์สินรอการขายและกำไรสุทธิจากเงินลงทุน
ผลการดำเนินงานของกรุงศรีในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2019 มีกำไรสุทธิจำนวน 19,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ผลประกอบการที่แข็งแกร่งนี้มีปัจจัยขับเคลื่อนมาจากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิอันเป็นผลของเงินให้สินเชื่อที่ขยายตัวในอัตรา 5.0% ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ รวมทั้งการบันทึกกำไรจากการขายหุ้นจำนวน 50% ในบริษัท เงินติดล้อ จำกัด ทั้งนี้ หากไม่รวมกำไรจากการขายหุ้นดังกล่าว กำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจตามปกติในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2019 ยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 13,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.6% จากช่วงเดียวกันของปี 2018 สะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันและการดำเนินธุรกิจของกรุงศรี”
ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 19,973 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 1,709 ล้านบาท หรือ 7.88% โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 2,960 ล้านบาท หรือ 6.16% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยรับของเงินให้สินเชื่อและเงินลงทุน ทำให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin: NIM) อยู่ที่ระดับ 3.30% ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 5,475 ล้านบาท หรือ 17.46% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยและรายได้จากผลิตภัณฑ์ตลาดทุนลดลง รวมทั้งการยกเลิกค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านช่องทางดิจิทัล นอกจากนี้ ภายใต้การชะลอตัวของเศรษฐกิจซึ่งมีผลต่อรายได้ของธนาคาร ธนาคารจึงพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ เพิ่มขึ้นจำนวน 1,087 ล้านบาท หรือ 3.33% แม้ว่าจะมีการตั้งสำรองเกษียณอายุของพนักงานเพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงผลประโยชน์ของพนักงานตามนโยบายการจ้างงานเฉพาะของธนาคารที่ไม่เกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน มีผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 43.89%
ธนาคารไทยพาณิชย์และบริษัทย่อยมีรายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 2 ของปี 2019 จำนวน 36,041 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ในไตรมาสนี้ธนาคารมีกำไรสุทธิ (งบการเงินรวมก่อนตรวจสอบ) จำนวน 10,976 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.9% จากไตรมาสก่อน และลดลง 1.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2019 ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 20,132 ล้านบาท
ในไตรมาส 2 ของปี 2019 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 25,536 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน การเติบโตอย่างต่อเนื่องของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเป็นผลจากการปรับพอร์ตสินเชื่อของธนาคารด้วยการเพิ่มสัดส่วนของสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง ในขณะที่สินเชื่อโดยรวมขยายตัวประมาณ 3% จากปีก่อน
ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปี 2019 จำนวน 3,592 ล้านบาท ลดลง 1.59% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายพิเศษเพื่อรองรับการชดเชยกรณีพนักงานเกษียณและเลิกจ้าง ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ ที่มีผลบังคับใช้ เมื่อ 5 พ.ค.2019 ซึ่งทุกธนาคารก็มีการตั้งสำรองกรณีดังกล่าว สำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกของปี 2019 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 7,242 ล้านบาท ลดลง 4.71% จากงวดเดียวกันปีก่อน สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายทางภาษีเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน เนื่องจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีของธนาคารได้หมดไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2018 แต่หากเปรียบเทียบผลการดำเนินงานก่อนภาษี ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรก่อนภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 918 ล้านบาท หรือ 10.58% การดำเนินธุรกิจของธนาคารยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งการขยายตัวของสินเชื่อซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อที่เติบโต 4.45% จากสิ้นปี และ 12.38% จากครึ่งปีแรกของปี 2018 รวมถึงการรักษาคุณภาพสินทรัพย์ให้ NPL Ratio อยู่ในระดับต่ำ และการมีอัตราส่วนเงินกองทุนในระดับสูง
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด