Microsoft เผย 1 ใน 3 ของคอมพิวเตอร์ที่ SME ใช้ในปัจจุบันมีอายุมากกว่า 4 ปี และมีระบบล้าสมัย

1 ใน 3 ของคอมพิวเตอร์ที่ SME ใช้ในปัจจุบันมีอายุมากกว่า 4 ปี และ/หรือ มีระบบปฏิบัติการณ์ที่ล้าสมัย

สาเหตุที่ SME ไม่เปลี่ยนอุปกรณ์ไอทีให้ทันสมัยเพราะกลัวว่าอุปกรณ์ใหม่จะไม่รองรับกับระบบที่ใช้อยู่ อีกทั้งไม่เห็นถึงความจำเป็นในการเปลี่ยน และในบางรายระบุว่าไม่มีงบประมาณ

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการแข่งขันทางธุรกิจ SME ควรเปลี่ยนระบบปฏิบัติการณ์ Windows 7 ก่อนการสนับสนุนจะสิ้นสุดลงในเดือนมกราคม 2020

แม้เทคโนโลยีจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรและขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางหรือ SMB ในประเทศไทยยังคงใช้ระบบคอมพิวเตอร์ที่เก่า อีกทั้งขาดการวางแผนประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่สำคัญอย่าง คลาวด์ และ โมบิลิตี้

จากผลสำรวจพบว่า 1 ใน 3 หรือราว 34% ของ SMB ในประเทศไทยยังคงใช้คอมพิวเตอร์ที่มีอายุมากกว่า 4 ปี และใช้ระบบปฏิบัติการณ์คอมพิวเตอร์รุ่นเก่า ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน แต่ยังสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างมหาศาลให้แก่ธุรกิจ โดยจากผลสำรวจ มากกว่า 63% ของ SMB ในประเทศไทยยอมรับว่า พวกเขาเคยประสบปัญหาเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ในปีที่ผ่านมากับตัวเอง และเมื่อกล่าวถึงนโยบายด้านโมบิลิตี้ ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่ามีเพียง 1 ใน 4 ของ SMB เท่านั้นที่มีการวางแผนการใช้งานโมบิลิตี้ในธุรกิจ

ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขั้นโดยไมโครซอฟท์เอเชีย1 ซึ่งได้ร่วมมือกับบริษัทสำรวจและจัดเก็บข้อมูลสำหรับธุรกิจ SMB ระดับโลกอย่าง TechAisle ซึ่งทำการสำรวจธุรกิจประเภท SMB ในประเทศไทยกว่า 330 ราย

คุณสมศักดิ์ มุกดาวรรณกร, ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจองค์กร ขนาดกลาง ขนาดย่อม และบริหารพันธมิตร, ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เทคโนโลยีคือตัวสร้างโอกาสที่แท้จริงให้กับธุรกิจทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ผู้ประกอบการ SMB ในประเทศควรให้ความสำคัญกับการลงทุนทางเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาธุรกิจทั้งในปัจจุบันและเพื่ออนาคต ประเทศไทยมีธุรกิจขนาดเล็กและกลางอยู่มากถึงราว 3 ล้านราย2และแรงงานในประเทศส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุไม่เกิน 35 ปี2ซึ่งเป็นช่วงอายุที่คุ้นเคยและให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีเพื่อการทำงานที่สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไมโครซอฟท์มุ่งมั่นที่จะช่วย SMB ในประเทศไทยเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว เพื่อธุรกิจจะสามารถพัฒนาไปได้อย่างต่อเนื่องในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจมีอยู่มาก”

เทคโนโลยีที่สำคัญที่ SMB สามารถใช้เพื่อเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีได้แก่ การใช้งานอุปกรณ์ผ่านระบบคลาวด์ โดย 54% ของ SMB ในประเทศไทยที่ถูกสำรวจกล่าวว่า พวกเขารู้จักบริการ PC-as-a-Service หรือการเช่าใช้คอมพิวเตอร์ และ 38% มีการวางแผนที่จะใช้บริการดังกล่าวใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งสาเหตุที่ธุรกิจต้องการเปลี่ยนมาใช้บริการดังกล่าวเป็นเพราะ ต้องการอุปกรณ์ที่สามารถทำงานได้เร็วขึ้น(72%) และช่วยลดงานด้านไอทีซัพพอร์ทสำหรับธุรกิจ (62%)

นอกจากนี้  Windows-as-a-Service หรือการเช่าใช้ระบบปฏิบัติการณ์ Windows  ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ SMB สามารถใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความปลอดภัยของข้อมูล เนื่องจากระบบปฏิบัติการณ์ใหม่มีการอัปเดตระบบให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง ช่วยปิดช่องโหว่ที่อาจส่งผลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่ธุรกิจ   ระบบปฏิบัติการณ์ Windows 10 นั้นรองรับแอปพลิเคชั่นที่หลากหลายได้มากกว่าระบบปฏิบัติการณ์รุ่นเดิม มาพร้อม app telemetry, รองรับ ISV partnerships สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและสร้าง feedback loops  และในอนาคตอันใกล้ที่การสนับสนุน Windows 7 จะสิ้นสุดลง ส่งผลให้คอมพิวเตอร์ที่ยังใช้ระบบปฏิบัติการณ์ Windows 7 ไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านเทคนิคและการอัปเดตซอฟต์แวร์จาก Windows Update อีกต่อไป   ผู้ประกอบการณ์ SMB ควรเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงด้วยการเปลี่ยนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการณ์รุ่นใหม่     เพื่อรองรับการอัปเดตด้านความปลอดภัย, non-security hotfixes, บริการความช่วยเหลือทั้งแบบฟรีและมีค่าใช้จ่าย และการอัปเดตเนื้อหาทางด้านเทคนิคออนไลน์

ลดช่องว่างในการปรับตัว

จากผลสำรวจพบว่า สาเหตุที่ทำให้ SMB ในประเทศไทยมีการปรับตัวทางเทคโนโลยีช้าเนื่องจาก SMB มีความกังวลว่า ระบบความพิวเตอร์และเทคโนโลยีใหม่จะไม่รองรับกับระบบและอุปกรณ์ที่มีอยู่เดิม ทำให้ต้องลงทุนเพิ่มมากขึ้นนอกเหนือจากการอัปเกรดอุปกรณ์ (53%) นอกจากนี้ มากกว่าครึ่งหรือราว 56% ของ SMB ที่ถูกสำรวจกล่าวว่า บริษัทไม่ได้ทำตามนโยบายในการอัปเกรดอุปกรณ์ไอที อีกทั้งบางบริษัทที่ตอบแบบสอบถามไม่มีนโยบายเกี่ยวกับการอัปเกรดอุปกรณ์ไอที

การที่ผู้ประกอบการธุรกิจ SMB ไม่มีนโยบายอย่างเป็นรูปธรรมในการเปลี่ยนหรืออัปเกรดอุปกรณ์ไอทีนั้นอาจส่งผลเสียระยะยาวให้แก่ธุรกิจ รายงานจากไมโครซอฟท์ระบุว่า อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มีอายุมากกว่า 4 ปีนั้นมีโอกาสเสียมากกว่าอุปกรณ์ใหม่ถึง 3.3 เท่า ซึ่งเทียบเป็นเงินราว 1,631 USD ต่อเครื่อง (หรือราว 50,561 บาท) และเสียเวลาในการทำงานมากถึง 208 ชั่วโมงต่อปี

เทคโนโลยีที่สำคัญที่ SMB สามารถใช้เพื่อเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีได้แก่ การใช้งานอุปกรณ์ผ่านระบบคลาวด์ โดย 54% ของ SMB ในประเทศไทยที่ถูกสำรวจกล่าวว่า พวกเขารู้จักบริการ PC-as-a-Service หรือการเช่าใช้คอมพิวเตอร์ และ 38% มีการวางแผนที่จะใช้บริการดังกล่าวใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งสาเหตุที่ธุรกิจต้องการเปลี่ยนมาใช้บริการดังกล่าวเป็นเพราะ ต้องการอุปกรณ์ที่สามารถทำงานได้เร็วขึ้น(72%) และช่วยลดงานด้านไอทีซัพพอร์ทสำหรับธุรกิจ (62%)

นอกจากนี้  Windows-as-a-Service หรือการเช่าใช้ระบบปฏิบัติการณ์ Windows  ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ SMB สามารถใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความปลอดภัยของข้อมูล เนื่องจากระบบปฏิบัติการณ์ใหม่มีการอัปเดตระบบให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง ช่วยปิดช่องโหว่ที่อาจส่งผลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่ธุรกิจ   ระบบปฏิบัติการณ์ Windows 10 นั้นรองรับแอปพลิเคชั่นที่หลากหลายได้มากกว่าระบบปฏิบัติการณ์รุ่นเดิม มาพร้อม app telemetry, รองรับ ISV partnerships สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและสร้าง feedback loops  และในอนาคตอันใกล้ที่การสนับสนุน Windows 7 จะสิ้นสุดลง ส่งผลให้คอมพิวเตอร์ที่ยังใช้ระบบปฏิบัติการณ์ Windows 7 ไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านเทคนิคและการอัปเดตซอฟต์แวร์จาก Windows Update อีกต่อไป   ผู้ประกอบการณ์ SMB ควรเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงด้วยการเปลี่ยนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการณ์รุ่นใหม่     เพื่อรองรับการอัปเดตด้านความปลอดภัย, non-security hotfixes, บริการความช่วยเหลือทั้งแบบฟรีและมีค่าใช้จ่าย และการอัปเดตเนื้อหาทางด้านเทคนิคออนไลน์


 

 

 


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

วัน แบงค็อก ต้อนรับ “อโกด้า” หนึ่งในผู้เช่าสำนักงานรายใหญ่ พร้อมเป็นศูนย์กลางของความคิดสร้างสรรค์และการเชื่อมต่อ

Agoda ประกาศย้ายสำนักงานใหญ่เข้า One Bangkok Tower 5 ดีลเช่าพื้นที่ยักษ์ 26,000 ตร.ม. สร้าง Campus Office แห่งอนาคต รองรับพนักงาน 4,000 คน พร้อมย้าย เม.ย. 2026...

Responsive image

BDI เผยวิสัยทัศน์สถาบันข้อมูลและ AI หนุนรัฐ-เอกชนด้วยเทคโนโลยี ขับเคลื่อนนวัตกรรมอนาคตไทย

สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เผย ทิศทางการขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ เดินหน้าแผนงานปี 2569 ผ่านแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลระดับชาติ (D2) และโครงการปัญ...

Responsive image

ปี 2026 รถยนต์ไฟฟ้าจะล้นโลก? Gartner คาดแตะ 116 ล้านคัน จีนครองตลาดเบ็ดเสร็จ 61% และ PHEV โตพุ่ง 32% แซงหน้าตลาดรวม

artner คาดปี 2026 รถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกทะลุ 116 ล้านคัน PHEV มาแรงโต 32% รับเทรนด์ผู้บริโภคที่ต้องการความอุ่นใจ จีนครองตลาด 61% แม้ไร้เงินอุดหนุนแต่วงการ EV ยังพุ่งไม่หยุด...