65 ปี ความสำเร็จ ‘ไอบีเอ็ม ประเทศไทย’ พร้อมก้าวสู่มิติใหม่นำนวัตกรรมขับเคลื่อนประเทศ | Techsauce

65 ปี ความสำเร็จ ‘ไอบีเอ็ม ประเทศไทย’ พร้อมก้าวสู่มิติใหม่นำนวัตกรรมขับเคลื่อนประเทศ

ไอบีเอ็มฉลองครบรอบ 65 ปีการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ตอกย้ำความสำเร็จการนำเทคโนโลยีเข้าสนับสนุนภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคธุรกิจไทย ตลอดระยะเวลากว่าหกทศวรรษที่ผ่านมา ประกาศความพร้อมนำเทคโนโลยีค็อกนิทิฟและแพลตฟอร์มคลาวด์พาองค์กรไทยเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่สู่ยุคใหม่ของเทคโนโลยีและธุรกิจ พร้อมจับมือหน่วยงานภาครัฐ การเงิน ปิโตรเคมี โทรคมนาคม และการแพทย์ ปักธงสร้างนวัตกรรม สนับสนุนงานวิจัยพัฒนา ก้าวสู่มิติใหม่ ขานรับนโยบายประเทศไทย 4.0

65 ปี ความสำเร็จ ‘ไอบีเอ็ม ประเทศไทย’

ไอบีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น เริ่มจัดตั้งสำนักงานตัวแทนในประเทศไทยในปี พ.ศ.​ 2491 เพื่อให้บริการสำมะโนการเกษตรและประชากรเป็นครั้งแรกของไทย และต่อมาได้ก่อตั้งบริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ในปี พ.ศ. 2495 โดยตลอดก้าวย่างกว่า 6 ทศวรรษที่ผ่านมา ไอบีเอ็มได้มีส่วนสำคัญในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้าเสริมศักยภาพหน่วยงานภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคธุรกิจในประเทศไทย อาทิ

พ.ศ. 2495-2505

  • นำเครื่องบันทึกข้อมูลไฟฟ้า (Punched Card Machine) เข้ามาใช้ในประเทศไทยเป็นครั้งแรกเพื่อประมวลผลการสำรวจสำมะโนประชากรและการเกษตร ก่อนที่เครื่องดังกล่าวจะถูกนำไปใช้แพร่หลายในการทำสถิติ บัญชี และใบแจ้งหนี้
  • มอบคอมพิวเตอร์เครื่องแรกให้กับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พ.ศ. 2506-2515

  • เปิดตัว System/36 ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ชุดแรกที่มาแทนระบบหน่วยบันทึกข้อมูล
  • เปิดตัวเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้าภาษาไทยและภาษาอังกฤษเครื่องแรก

พ.ศ. 2516-2525

  • เปิดตัว System 370 ที่สามารถรองรับการก้าวสู่ระบบออนไลน์ของธุรกิจต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • พัฒนาระบบ online reservation ให้กับการบินไทย
  • ติดตั้งระบบ online banking บนเครื่องเมนเฟรมไอบีเอ็มเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ธนาคารกรุงเทพ จากนั้นได้เริ่มพัฒนาระบบ online ให้กับธนาคารเกือบทุกแห่ง
  • เปิดตัวคอมพิวเตอร์ พีซี เครื่องแรก

พ.ศ. 2526-2535

  • ติดตั้งเอทีเอ็มเครื่องแรกของไทยที่ธนาคารไทยพาณิชย์
  • เปิดตัว AS/400 รุ่นแรก
  • เปิดตัวเครื่องตระกูล IBM S/390 IBM RISC System/6000 และ Personal System 1 สำหรับลูกค้าบุคคลและองค์กร
  • พัฒนาระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) บนระบบ UNIX สำหรับกรมสรรพากร
  • เป็นบริษัทไอทีต่างชาติบริษัทแรกที่ได้รับพระราชทานสัญลักษณ์ตราครุฑในฐานะองค์กรที่ทำประโยชน์แก่สังคมไทย

พ.ศ. 2536-2545

  • ก่อตั้งบริษัท ไอบีเอ็ม โซลูชั่น ดิลิเวอรี่ จำกัด เพื่อให้บริการด้านไอทีเอาท์ซอร์สซิง
  • ติดตั้งนวัตกรรม IBM Content Manager OnDemand สำหรับการจัดเก็บเอกสารในรูปแบบไฟล์ดิจิทัลเป็นครั้งแรก ให้กับบริษัท ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน)

พ.ศ. 2546-2555

  • ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (SIPA) นำ Service-Oriented Architecture (SOA) สนับสนุนการจัดทำศูนย์บริการครบวงจร (One Stop Service) ภายใต้โครงการ E-Government
  • สนับสนุนซอฟต์แวร์การเรียนรู้ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Learning) แก่โครงการการศึกษาทางไกลของโรงเรียนวังไกลกังวล
  • ลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือด้านเทคโนโลยีกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครอบคลุมด้านต่างๆ อาทิ นาโนเทคโนโลยี เทคโนโลยีชีวภาพ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีกริดคอมพิวติ้ง (Grid Computing) ในงานวิจัยใน RFID ความปลอดภัยด้านอาหารและการตรวจสอบแบบย้อนกลับ เป็นต้น
  • เปิดตัวโครงการ Academic Initiative ในไทยอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มต้นโครงการแรกที่คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
  • เปิดโครงการ Service, Science, Management and Engineering (SSME) เป็นครั้งแรก เพื่อผลิตและพัฒนาบุคลากรเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์การบริการไอทีอย่างเร่งด่วน
  • นำเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบครบวงจร (IBM Scale-out File Services หรือ SoFS) สนับสนุนภาพยนตร์ “ก้านกล้วย” ซึ่งเป็นทรีดีแอนนิเมชั่นเรื่องแรกของไทย โดยบริษัทกันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
  • จับมือ ที..ซี.ซี. เทคโนโลยี (TCCT) บุกเบิกดาต้าเซ็นเตอร์สีเขียวอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Data Center)
  • ติดตั้งเทคโนโลยี IBM Maximo Enterprise Asset Management ให้บริษัท รีเทลลิงค์ (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อบริหารจัดการอุปกรณ์และการซ่อมบำรุงแบบเรียลไทม์เป็นครั้งแรก รองรับร้านสะดวกซื้อและร้านที่มีเครือข่ายมากกว่า 7,000 รายทั่วประเทศ เช่น ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ร้านมินิมาร์ทในปั๊มน้ำมัน เป็นต้น
  • เปิดตัวโครงการ Smarter Cities Challenge ช่วยแก้ปัญหาท้าทายที่เมืองต่างๆ ทั่วโลกกำลังเผชิญ โดยเมืองที่ได้รับคัดเลือกในประเทศไทย ได้แก่ เชียงใหม่ ชลบุรี ขอนแก่น และภูเก็ต

พ.ศ. 2556-2560

  • จับมือมหาวิทยาลัย 9 แห่งเพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถด้านอนาไลติกส์ให้กับบุคลากรในอนาคตของไทย
  • เปิดตัวโครงการ Teacher Trysciences เพื่อสนับสนุนบทเรียนด้านวิทยาศาตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM) แก่คณะครูและนักเรียนในโรงเรียนกว่า 200 แห่งทั่วประเทศไทย
  • ติดตั้ง IBM ILOG Optimization เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการผลิต จัดการค่าใช้จ่าย และลดความสูญเสียจากกระบวนการผลิตในโรงงานทุกแห่งของบริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด หนึ่งในผู้ผลิตแผ่นวงจรพิมพ์รายใหญ่ของโลก
  • ติดตั้งเทคโนโลยี FlashSystem 900 ให้กับโซลูชั่น วัน เพื่อรองรับแคมเปญชิงโชคจากรหัสใต้ฝา ที่มีปริมาณการส่งรหัสรวม 600 ล้านฝาตลอดแคมเปญ
  • นำเทคโนโลยี IBM Watson for Oncology เข้าพัฒนาการรักษามะเร็งปอด ตับ ลำไส้ และเต้านม ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
  • จับมือธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงศรี นำเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ใช้รับรองเอกสารต้นฉบับและการทำธุรกรรมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกัน
  • ติดตั้ง IBM Cloud เป็นระบบโครงสร้างพื้นฐานหลักและแพลตฟอร์มนวัตกรรมสำหรับบริการด้าน MarTech ของแสนรู้ พร้อมรองรับการขยายธุรกิจทั่วโลก

ในการนี้ ไอบีเอ็ม ประเทศไทย ยังได้เปิดนิทรรศการออนไลน์ “วันนี้/วันพรุ่งนี้ ก้าวไปด้วยกันสู่ประเทศไทย 4.0” (www.ibmthailand65.com) ที่รวบรวมความสำเร็จและก้าวย่างสำคัญของไอบีเอ็มกับองค์กรไทยตลอด 65 ปีที่ผ่านมา รวมถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะช่วยเปิดมิติใหม่ในการเสริมสร้างศักยภาพให้ทุกภาคส่วนต่อไปในปัจจุบันและอนาคต

“ไอบีเอ็มมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้อยู่เคียงคู่ประเทศไทยมายาวนาน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จมากมายในโครงการสำคัญของภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคการศึกษา ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดียิ่งขึ้นต่อวิถีชีวิตของคนไทยจำนวนมาก การเป็นบริษัทไอทีต่างชาติแห่งแรกของประเทศไทยที่ได้รับพระราชทานสัญลักษณ์ตราครุฑในฐานะองค์กรที่ทำประโยชน์แก่สังคม นับเป็นเกียรติสูงสุดตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจ 65 ปีที่ผ่านมา” นางพรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าว

ก้าวสู่มิติใหม่แห่งการนำนวัตกรรมขับเคลื่อนภาครัฐ-ธุรกิจ-การศึกษาสู่ประเทศไทย 4.0

ตลอดระยะเวลา 65 ปี ไอบีเอ็มไม่เคยหยุดที่จะพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่ไอบีเอ็มได้ปรับองค์กรครั้งใหญ่ให้พร้อมพาธุรกิจก้าวสู่ยุคค็อกนิทิฟ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ไปสู่ยุคใหม่ของเทคโนโลยีและธุรกิจ ที่เทคโนโลยีอย่างค็อกนิทิฟ คอมพิวติ้ง คลาวด์ และซิเคียวริตี้ รวมถึงแนวทางการทำงานรูปแบบใหม่ จะทวีบทบาทสำคัญขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดของปริมาณข้อมูล โมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค

ในปี พ.ศ. 2560 ไอบีเอ็ม ประเทศไทย ประกาศวิสัยทัศน์ก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ให้บริการโซลูชั่นส์ด้านค็อกนิทิฟและแพลตฟอร์มคลาวด์เต็มตัว พร้อมได้นำศักยภาพดังกล่าวเข้าสนับสนุนหน่วยงานต่างๆ โดยมีความร่วมมือล่าสุดในการนำเทคโนโลยีค็อกนิทิฟและแพลตฟอร์มคลาวด์เข้าเสริมศักยภาพภาครัฐ การเงิน การผลิต โทรคมนาคม และการแพทย์ สอดคล้องนโยบายการขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 อันประกอบด้วย

ภาครัฐ: เทคโนโลยีคลาวด์สำหรับ Smart City Platform ของ CAT

ในฐานะผู้ให้บริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคมและคลาวด์คอมพิวติ้งชั้นนำในประเทศไทย บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT มุ่งมั่นในการนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านไอทีที่ครบครัน สร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมรองรับการเติบโตในอนาคตของลูกค้าทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชน

ไอบีเอ็มได้รับความไว้วางใจในการเป็นพันธมิตรรายแรก เพื่อเสริมศักยภาพการให้บริการด้านคลาวด์ Infrastructure as a Service ให้กับ CAT มายาวนาน และในวันนี้ได้พัฒนาความร่วมมือไปอีกขั้น ด้วยบริการ Cloud Managed Services ที่จะสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันให้ CAT ก้าวสู่ความเป็นผู้นำในการให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้ง ตลอดจนการขยายขีดความสามารถในการให้บริการ Smarter City Platform เพื่อช่วยเมืองมากมายในประเทศไทยยกระดับการบริหารจัดการเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมขับเคลื่อนประเทศสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยภูเก็ตได้รับเลือกให้เป็นจังหวัดแรกในการนำร่องโครงการนี้

ภาคการเงิน: แนวคิด ‘อไจล์’ และ ‘ดีไซน์ธิงค์กิง’ เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปธุรกิจเชิงดิจิทัลของธนาคารไทย

ธนาคารชั้นนำของไทยได้ร่วมกับไอบีเอ็ม โกลบอล บิสสิเนส ในการนำแนวคิด ‘อไจล์’ (agile) และ ‘ดีไซน์ธิงค์กิง’ (design thinking) มาใช้ในการกำหนดแนวทางการปฏิรูปธุรกิจเชิงดิจิทัล (digital transformation) เริ่มตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการและระบบบริหารจัดการเบื้องหลัง ไปจนถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้กับงานบริการลูกค้าเพื่อให้ตอบโจทย์และความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้าในยุคดิจิทัล โดยความร่วมมือที่ผ่านมาได้นำสู่การนำระบบโรโบติกส์ พรอเซส ออโตเมชั่น (Robotic Process Automation หรือRPA) มาใช้ เพื่อลดระยะเวลาของกระบวนการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเอกสารจำนวนมากและภาระงานที่ต้องทำซ้ำๆ โดยได้มีการนำร่องใช้ RPA กับ 30 กระบวนการทำงาน และคาดหวังที่จะขยายต่อไปเป็น 100 กระบวนการในเฟสต่อไป

ปิโตรเคมี: วัตสัน ไอโอที เสริมประสิทธิภาพระบบปฏิบัติการโรงแยกก๊าซ ปตท.

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตก๊าซและน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้นำเทคโนโลยีค็อกนิทิฟ ไอบีเอ็ม วัตสัน ไอโอที (IBM Watson IoT) มาใช้เป็นครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน เพื่อเพิ่มผลผลิตและเสริมศักยภาพระบบปฏิบัติการของโรงแยกก๊าซ รวมถึงลดค่าใช้จ่ายมหาศาลที่เกิดจากการรีเซ็ทการทำงานของชุดอุปกรณ์ Gas Turbine หากเกิดเหตุหยุดทำงาน

การใช้ระบบค็อกนิทิฟที่ผนวกความสามารถด้านแมชชีนเลิร์นนิ่งนี้ ช่วยให้ ปตท. สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกจากเซ็นเซอร์หลายร้อยตัวจากหลายระบบ ร่วมกับข้อมูลประวัติจากระบบวัดประสิทธิภาพการทำงานและการบำรุงรักษา ซึ่งทั้งหมดผนวกรวมอยู่ในดาต้าเลค (Data Lake) เดียว และสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมข้อมูลแบบไฮบริด ช่วยให้ผู้บริหารตลอดจนวิศวกรของปตท. สามารถมองเห็นรูปแบบของตัวชี้วัดและความเชื่อมโยงของข้อมูลต่างๆ ที่มีความเกี่ยวเนื่องกันไม่ว่าจะเป็นแรงสั่นสะเทือนผิดปกติ ความเร็วที่สูงขึ้นของ gas turbine หรือแรงดันการไหลของคอมเพรสเซอร์ เป็นต้น โดยระบบสามารถตรวจจับและคำนวณคาดการณ์ความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า พร้อมแจ้งเตือนผู้ที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะเกิดปัญหาความล้มเหลวของระบบขึ้น

ปัจจุบัน ปตท. ได้เริ่มใช้วัตสัน ไอโอที กับโรงแยกก๊าซระยอง และมีแผนขยายการใช้กับเครื่องจักรสำคัญทั้งหมดในโรงงานแยกก๊าซทั้ง 6 แห่งต่อไป

 โทรคมนาคม: ศูนย์ค็อกนิทิฟซิเคียวริตี้อัจฉริยะรับมือภัยคุกคามยุคบิ๊กดาต้า

บริษัทโทรคมนาคมชั้นนำแห่งหนึ่งของไทย ร่วมกับไอบีเอ็มในการนำโซลูชั่นค็อกนิทิฟ ซิเคียวริตี้ โอเปอเรชั่น เซ็นเตอร์ (Cognitive Security Operations Center หรือ SOC) เข้ารับมือกับภัยคุกคามที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ท่ามกลางการเกิดขึ้นของข้อมูลจำนวนมหาศาลในแต่ละวัน เทคโนโลยี SOC ไม่ได้จำกัดการปกป้องเฉพาะการเข้าถึงตัวข้อมูลเท่านั้น แต่ยังใช้ความสามารถในการเรียนรู้ของเทคโนโลยีค็อกนิทิฟ ไอบีเอ็ม วัตสัน ในการวิเคราะห์บทความและบล็อกจากผู้เชี่ยวชาญด้านซิเคียวริตี้ ที่ถูกเขียนขึ้นใหม่กว่า 60,000 เรื่องในทุกเดือน ร่วมกับข้อมูลภัยคุกคามมหาศาลทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร เพื่อนำมาประกอบการวิเคราะห์และตรวจจับแพทเทิร์นการเกิดขึ้นของภัยคุกคามต่างๆ ที่มาจากเน็ตเวิร์ค เอ็นด์พอยท์ ผู้ใช้ ระบบคลาวด์ ฯลฯ พร้อมทั้งนำเสนอแนวทางการแก้ไขหรือป้องกันให้แก่หน่วยงานดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่ความเสียหายจะเกิดขึ้น

การแพทย์: พลังซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพื่อการวิจัยและเก็บข้อมูลด้านจีโนมสำหรับการรักษามะเร็ง

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ริเริ่มโครงการวิจัยและเก็บข้อมูลด้านจีโนมเป็นที่แรกในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคมะเร็ง โรคสมองเสื่อม และโรคที่เป็นปัญหาสำคัญอื่นๆ ของประเทศไทย โดยคาดหวังที่จะนำผลที่ได้ไปพัฒนาการวินิจฉัยและการกำหนดแนวทางการรักษาโรคที่เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละคน อย่างไรก็ดี ด้วยปริมาณข้อมูลจีโนมของแต่ละบุคคลที่มีถึง 200 กิกะไบต์ การศึกษาวิจัยเรื่องดังกล่าวจึงจำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีการประมวลผลขั้นสูง อย่างเช่นซูเปอร์คอมพิวเตอร์

ในปี พ.ศ. 2560 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้เลือกเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง IBM POWER8 for High Performance Computing ของไอบีเอ็มเพื่อเป็นระบบที่รองรับการศึกษาวิจัยในเรื่องดังกล่าว โดย IBM POWER8 ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยศูนย์วิจัยไอบีเอ็ม จะช่วยให้นักวิจัยของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์สามารถจัดการกับข้อมูลปริมาณมหาศาลได้เร็วกว่าเดิม 100 เท่า ช่วยร่นระยะเวลาการวิจัยด้านจีโนม และช่วยให้นักวิจัยสามารถนำผลลัพธ์ที่ได้ไปต่อยอดเพื่อประโยชน์ด้านการรักษาโรคมะเร็ง โรคสมองเสื่อม และเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยต่อไป

 

“ในขณะที่โลกกำลังก้าวเข้าสู่บทใหม่ของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมอีกครั้ง โดยถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีทันสมัยที่เกิดขึ้นมาพร้อมๆ กันมากมาย การพัฒนาความเชี่ยวชาญและการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เน้นสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจอย่างต่อเนื่องของไอบีเอ็ม ทำให้เราพร้อมแล้วที่จะเดินเคียงข้างองค์กรไทยสู่โอกาสและความสำเร็จต่อไปในอนาคต” นางพรรณสิรีกล่าว

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ททท. ประกาศผู้ชนะ TAT Travel Tech Startup 2024 ทีม HAUP คว้าชัย ร่วมผลักดัน ท่องเที่ยวไทยกับ 11 ทีม Travel Tech

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศผลผู้ชนะโครงการ TAT Travel Tech Startup 2024 กิจกรรมบ่มเพาะและโจทย์ด้านการท่องเที่ยวสุดท้าทาย ร่วมกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้แนวคิด WORLD...

Responsive image

ทำความรู้จักกับซิม IoT จาก SoftBank และ 1NCE จ่ายครั้งเดียว ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 10 ปี

รู้จักซิมการ์ด IoT จาก 1NCE เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ทั่วโลกใน 173 ประเทศ ด้วยค่าใช้จ่ายครั้งเดียวใช้งานได้นาน 10 ปี เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันคุ้มค่าและจัดการง่าย...

Responsive image

AIS คว้ารางวัล Creative Equality Award ยกระดับชีวิต ส่งต่อพลังสร้างสรรค์เพื่อสังคม

AIS ตอกย้ำความเป็นเลิศทางความคิดสร้างสรรค์ คว้ารางวัล Creative Equality Award Creative ประเภท Social Impact Awards จากเวที Creative Excellence Awards 2024 ซึ่งเป็นผลจากความสำเร็จขอ...