‘Banpu Next’ บริษัทลูกของบริษัท บ้านปู จำกัด ลุยขยายพอร์ต Solar ในนิคมอุตสาหกรรมของไทย โชว์ความสำเร็จโครงการโซลาร์ลอยน้ำนิคมฯ หลักชัยเมืองยาง เตรียมเปิดจ่ายไฟกลางปี 2565 คาดช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้ากว่า 15 ล้านบาทต่อปี เสริมภาพลักษณ์นิคมฯ ต้นแบบความยั่งยืน
ล่าสุด Banpu Next ได้โอกาสทำโปรเจกต์ใหญ่โครงการโซลาร์ลอยน้ำ นิคมฯ Apex Green Industrial Estate กำลังผลิตรวมสูงถึง 32 เมกะวัตต์ นำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีพลังงานมาออกแบบระบบโซลาร์ได้ทุกรูปแบบ รวมถึงโซลาร์ลอยน้ำที่ตอบโจทย์และเหมาะสมกับธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม มีดิจิทัลแพลตฟอร์ม และแอปพลิเคชันมอนิเตอร์ระบบแบบเรียลไทม์ ช่วยธุรกิจสร้างความคุ้มค่าระยะยาว ลดต้นทุนค่าไฟฟ้า เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และยกระดับสู่อุตสาหกรรมสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
คุณชนิต สุวรรณพรินทร์ ผู้อํานวยการอาวุโส – บริหารการตลาดและการขาย บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จํากัด กล่าวว่า “Banpu Next ดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ Greener & Smarter ของกลุ่มบ้านปู มุ่งมั่นนำเสนอ Solution พลังงานฉลาดเพื่อความยั่งยืน ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง”
“ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ เดินหน้าขยายบริการ Solution ฉลาดผลิต (Smart Energy Generation) หรือระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับลูกค้าในไทยอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้โครงการโซลาร์ลอยน้ำขนาดใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง จ.ระยอง ของบริษัทไทร เบคก้า เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด กำลังการผลิตรวม 16 เมกะวัตต์ ที่ติดตั้งคืบหน้าแล้วเสร็จกว่า 95% คาดว่าจะเปิดจ่ายไฟฟ้าได้ในกลางปีนี้”
“พร้อมทั้งติดตั้งดิจิทัลแพลตฟอร์มและแดชบอร์ดที่ช่วยให้นิคมฯ มอนิเตอร์คุณภาพและระดับน้ำ รวมถึงการทำงานของระบบโซลาร์ได้แบบเรียลไทม์ เพื่อการผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของบ่อน้ำ ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้า ลดการปล่อย CO2 ได้ถึง 11,000 ตันต่อปี ทั้งยังเสริมภาพลักษณ์ต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่มุ่งพัฒนานิคม ชุมชน และพนักงานตามหลักความอย่างยั่งยืนอีกด้วย”
สำหรับปี 2565 Banpu Next วางแผนรุกติดตั้งโซลาร์ทุกรูปแบบในไทยให้กับอุตสาหกรรมทุกประเภท โดยเฉพาะกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
โครงการโซลาร์ลอยน้ำ ในนิคมฯ เอเพ็กซ์กรีน อินดัสเตรียล เอสเตท ถือเป็นโครงการโซลาร์ลอยน้ำภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของไทย ติดตั้งบนพื้นที่บ่อน้ำขนาด 200 ไร่ กำลังผลิตรวม 32 เมกะวัตต์ คาดว่าหากติดตั้งแล้วเสร็จ และเริ่มจ่ายไฟเข้าระบบจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ปีละกว่า 36 ล้านบาท และช่วยส่งเสริมระบบนิเวศบริเวณนิคมฯ สิ่งแวดล้อมและชุมชนรอบข้างให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
“ปัจจุบัน Banpu Next ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าหลากหลายธุรกิจ ทั้งนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โรงงาน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงเรียน โรงแรม ตลาด สถานีบริการน้ำมัน ฯลฯ เนื่องจากเชื่อมั่นในจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญในการติดตั้งโซลาร์ทุกประเภท ทั้งโซลาร์รูฟท็อป โซลาร์คาร์พอร์ต โซลาร์ลอยน้ำ และโซลาร์ฟาร์ม”
“การดำเนินงานที่ยึดหลักความต้องการของลูกค้าเป็นความสำคัญ (Customer centric) เริ่มจากการใช้ Solution ฉลาดวิเคราะห์มาวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้พลังงานของลูกค้าแต่ละราย และนำ Data มาออกแบบระบบโซลาร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการและปัญหา (Pain point) เหมาะสมกับการใช้พลังงาน”
“ที่สำคัญมีดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ลูกค้าตรวจสอบการผลิต การใช้ไฟฟ้าทั้งจากระบบโซลาร์ และแหล่งไฟฟ้าอื่น รวมถึงดูผลประหยัดค่าไฟ และลด CO2 ได้แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านแอปพลิเคชัน ทั้งยังสามารถแจ้งเตือนเมื่อมีเหตุขัดข้องได้ทันทีในแอปเดียว นอกจากนี้ Banpu Next ยังมี Solution พลังงานฉลาดอื่นๆ ที่จะเข้าไปช่วยสร้างความคุ้มค่าในธุรกิจมากขึ้น และลดต้นทุนค่าพลังงานในทุกๆ มิติอีกด้วย” คุณชนิต กล่าวสรุป
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด