
ในยุคที่โลกหมุนด้วย Data และ AI แต่ประชาชนจำนวนมากยังคงต้องเผชิญกับ “ความท้าทายทางดิจิทัล” เมื่อต้องเข้าถึงบริการพื้นฐานจากภาครัฐ การเดินทางฝ่ารถติด การเตรียมเอกสารฉบับจริงหลายชุด และกระบวนการที่ซับซ้อน ยังคงเป็นภาพที่คุ้นตา ความยุ่งยากนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของความสะดวกสบาย แต่คือปัญหาที่ยังคงรอวันแก้ไขให้สอดคล้องไปกับเทคโนโลยีในยุคดิจิตอลนี้
คำถามคือ เราจะร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร?
กลุ่มบริษัทซีดีจี (CDG) เชื่อว่าคำตอบนั้นอยู่ในพลังของคนรุ่นใหม่ จึงได้ลงมือสร้างสรรค์พื้นที่ภายใต้วิสัยทัศน์ “Technology for a Better Society” ในฐานะ “The Most Trusted Technology Solutions and Services Provider” มองความท้าทายนี้เป็นโอกาสในการร่วมสร้างสรรค์สังคม โดยเชื่อว่าพลังของคนรุ่นใหม่ คือเสียงของประชาชน ที่พร้อมจะเป็นทั้งผู้กำหนดทิศทาง และผู้ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ตัวเองร่วมออกแบบ
นี่คือที่มาของ CDG Hackathon 2025 เวทีที่ออกแบบมาเพื่อเป็นมากกว่าการแข่งขัน แต่เป็นจุดเริ่มต้นของ Tech Talent Journey ที่จะเปลี่ยนนักศึกษาผู้มีความไอเดียสร้างสรรค์ ให้กลายเป็นผู้สร้างผลกระทบเชิงบวก (Impact Creator) ตัวจริง

Why This Mission? ทำไมต้องเป็น “Trust in Tech” กับบริการภาครัฐ
การเลือกโจทย์ “Trust in Tech: AI - Power and KYC for Smart Public Services” ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มาจากการวิเคราะห์ Pain Point ของประชาชนอย่างลึกซึ้ง ซึ่งมีหัวใจสำคัญคือ
- การแก้ปัญหาที่รอการแก้ไข (The Unmet Need)
ความเชื่อมั่น (Trust) คือหัวใจของบริการดิจิทัลภาครัฐ การยืนยันตัวตนที่ยังมีช่องโหว่ นำมาซึ่งความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ในขณะที่กระบวนการที่เข้มงวดเกินไปก็สร้างอุปสรรคในการเข้าถึง ด้วยเหตุนี้ เทคโนโลยีอย่าง AI และ e-KYC จึงเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่จะเข้ามาสร้างสมดุลระหว่าง ความปลอดภัย (Security) และ ความสะดวก (Convenience) ให้แก่ประชาชนทั่วไป - การลงทุนที่สร้างอนาคต (Investing in the Future)
CDG เชื่อมั่นว่า “การลงทุนในคน คือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด” แทนที่จะสร้างโซลูชันทั้งหมดจากภายในองค์กร การเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วม คือการสร้างบุคลากรคุณภาพ (Talent Pipeline) ที่เข้าใจปัญหาของประเทศอย่างแท้จริง และพร้อมจะเติบโตไปเป็นกำลังสำคัญใน Tech Ecosystem ของไทย - พันธมิตรที่ใช่ (The Right Partnership)
การร่วมมือกับ 3 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (KMUTNB) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL) และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (KMUTT) ซึ่งเป็นขุมพลังด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีของประเทศ จึงเป็นเหมือนการเชื่อมองค์ความรู้จากภาควิชาการเข้ากับโจทย์จริงจากภาคอุตสาหกรรม และสร้างเวทีที่สมบูรณ์แบบในการบ่มเพาะนวัตกร
เวที Hackathon นี้จึงถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิด “Can Think, Can Code, Can Create Impact” ซึ่งเป็นมากกว่าแนวคิด แต่คือกระบวนการที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ในทุกมิติ
- Can Think: ไม่ใช่แค่คิดตามโจทย์ แต่ต้องวิเคราะห์ลึกถึงรากของปัญหา (Pain Point) ได้อย่างเฉียบคม
- Can Code: สามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้งานได้จริง มีความซับซ้อนทางเทคนิค และตอบโจทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Can Create Impact: โซลูชันที่คิดค้นต้องสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในวงกว้าง ไม่ใช่แค่แอปพลิเคชันที่สวยงาม แต่ต้องเป็นระบบที่เปลี่ยนแปลงและยกระดีบชีวิตผู้คนให้ดีขึ้นได้จริง
The Winning Solution: “ACS-Agent” เมื่อ AI และ ECG ผสานพลังทลายกำแพงดิจิทัล

หลังจาก Pitching Day และ Hack Day ณ CDG House ซึ่งเต็มไปด้วยพลังงานของคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะโชว์นวัตกรรม โซลูชันที่โดดเด่นและคว้ารางวัลชนะเลิศไปครองนั่นคือ “ACS-Agent – Smart Public Agent” ซึ่งได้สร้างนิยามใหม่ให้กับการยืนยันตัวตนในบริการภาครัฐ ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีที่โดดเด่นอย่างรอบด้าน และยังมีความเข้าอกเข้าใจ (Empathy) ในปัญหาอย่างแท้จริง โดยทีมผู้พัฒนาเล่าว่าไอเดียนี้เกิดจากการได้เห็นความยากลำบากของคนในครอบครัวที่เป็นผู้สูงอายุในการติดต่อราชการ
เจาะลึกเทคโนโลยีเบื้องหลัง “ACS-Agent”
- Biometric Multi-Factor Authentication ที่เหนือกว่า เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามยุคใหม่อย่าง AI Deepfake ทีมไม่ได้หยุดแค่การรักษาความปลอดภัยด้วยการจดจำใบหน้าเพียงอย่างเดียว แต่ได้ยกระดับความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้นด้วยการใช้สัญญาณคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram - ECG) เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการยืนยันตัวตน ซึ่งเป็นข้อมูลชีวภาพที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงและปลอมแปลงได้ยาก
- Tool Calling via MCP Server อัจฉริยะเบื้องหลังการทำงานที่ราบรื่นคือสถาปัตยกรรมที่แข็งแกร่ง โซลูชันนี้สามารถเชื่อมต่อและเรียกใช้บริการต่างๆ ของภาครัฐได้โดยอัตโนมัติ เช่น การตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร์ หรือการดึงเอกสารสำคัญ ทำให้ลดขั้นตอนที่ผู้ใช้ต้องทำเองลงอย่างมหาศาล
- Natural Language Understanding ที่เข้าใจคนไทยระบบถูกออกแบบโดยยึดผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง (Human-Centered Design) รองรับคำสั่งทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ทำให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้สูงอายุ สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบาย เสมือนมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา
สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าการแข่งขัน คือการได้ร่วมกันช่วยยกระดับบริการสังคม

ความสำเร็จของ CDG Hackathon 2025 ไม่ได้สิ้นสุดลงเมื่อประกาศรางวัล แต่เป็นการได้ยกระดับบริการสังคมที่จะส่งผลต่อไปในระยะยาว
- สำหรับ Tech Talent นี่คือประตูสู่โลกการทำงานจริง พวกเขาได้รับประสบการณ์ที่เงินหาซื้อไม่ได้ ตั้งแต่การทำงานภายใต้ความกดดัน การรับ Feedback ตรงจาก Mentor ระดับผู้บริหารของ CDG ไปจนถึงการสร้างเครือข่ายกับเพื่อนต่างสถาบันและผู้เชี่ยวชาญในวงการ เวทีนี้ได้เปลี่ยน “นักศึกษา” ให้เป็น “ว่าที่มืออาชีพ” ที่มี Portfolio ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าพวกเขาสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกได้จริง
- สำหรับสังคมและบริการสาธารณะ ไอเดียและต้นแบบ (Prototype) ที่เกิดขึ้นจากเวทีนี้ เปรียบเสมือน “สารตั้งต้น” ที่จุดประกายให้เกิดโครงการริเริ่มใหม่ๆ ในการยกระดับประเทศ เป็นเสียงสะท้อนจากคนรุ่นใหม่ว่าพวกเขาต้องการบริการภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเท่าเทียม
- สำหรับ CDG และ Tech Ecosystem กิจกรรม Hackathon นี้ตอกย้ำภาพลักษณ์ของ CDG ในฐานะ Employer of Choice ที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วย เพราะที่นี่ไม่ใช่แค่บริษัทเทคโนโลยี แต่เป็นองค์กรที่เปิดกว้าง รับฟัง และเชื่อมั่นในศักยภาพของพวกเขาอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันก็เป็นการสร้าง Thought Leadership แสดงให้เห็นถึงบทบาทของ CDG ในฐานะผู้ร่วมขับเคลื่อนการแก้ปัญหาของประเทศผ่านเทคโนโลยีและเยาวชน
CDG Hackathon 2025 ในครั้งนี้จึงเป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า “เพราะ CDG เชื่อว่าการลงทุนในคนรุ่นใหม่คือการลงทุนที่สร้างอนาคต Hackathon นี้จึงไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่คือพื้นที่จริงที่เปิดให้คนรุ่นใหม่ใช้เทคโนโลยีสร้างทางออกให้ประเทศ พร้อมพิสูจน์ว่าพวกเขาคือพลังที่เปลี่ยนโจทย์ยากให้เป็นโซลูชันเพื่อสังคมที่ดีกว่าได้จริง” และทั้งหมดนี้คือการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ CDG ที่จะขับเคลื่อนวิสัยทัศน์หลักขององค์กรให้เป็นจริง นั่นคือ Technology for a Better Society หรือ เทคโนโลยีเพื่อคุณภาพสังคมที่ดีขึ้น