CMMU เผยวิจัยตลาดมัดใจลูกค้าชี้ Happy Marketing มาแรงคอนเทนต์บันเทิงคนเสพย์สูง | Techsauce

CMMU เผยวิจัยตลาดมัดใจลูกค้าชี้ Happy Marketing มาแรงคอนเทนต์บันเทิงคนเสพย์สูง

วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ ซีเอ็มเอ็มยู (CMMU) เผยข้อมูลงานวิจัย “How to Hook” เทคนิคมัดใจลูกค้ายุคดิจิทัล ชี้ “Happy Marketing” มีแนวโน้มได้รับความนิยมนักการตลาดต้องหันมาใช้ เอนเตอร์เทนเมนต์แพลตฟอร์มมัดใจผู้บริโภค จากพฤติกรรมการเสพคอนเทนต์ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 จากกลุ่มผู้บริโภคจำนวน 1,035 คน

พบว่าผู้บริโภคยังมีแนวโน้มเสพเนื้อหาความบันเทิงผ่าน แอปพลิเคชั่นยอดนิยม อาทิ Netflix, TikTok, Youtube, Joox และ Spotify โดยมีซีรี่ส์ที่ได้รับความนิยมได้แก่ Crash Landing on You , Kingdom และ Game of thrones รวมถึงเล่นเกม ROV, HAYDAY และ LINE GAME นอกจากนี้ ยังพบว่าเนื้อหาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจในแบรนด์มากที่สุด 3 อันดับแรก ประกอบด้วย 1) รูปภาพ คิดเป็น 58% เนื่องจากสะดุดตา ดูง่าย และไม่เสียเวลา 2) วิดีโอ คิดเป็น 29% โดยวิดีโอที่มีเนื้อหาตลกและสนุกสนานได้รับความนิยมมากที่สุด   และ 3) ข้อความ คิดเป็น 13% ซึ่งต้องกระชับ โดนใจ และสะดุดตา พร้อมแนะกลยุทธ์ 4E ยกกำลัง 2 ได้แก่ 1. Easy 2. Engagement 3. Exclusive และ 4.Experience ที่นักการตลาดหรือผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้ในการทำการตลาดบนแฟลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจและมีความภักดีต่อแบรนด์ต่อไป

ทั้งนี้ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ได้จัดสัมมนาการตลาดออนไลน์ “How to Hook เทคนิคมัดใจลูกค้ายุคดิจิทัล” ขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผ่านช่องทาง www.facebook.com/mkcmmu

ดร.บุญยิ่ง คงอาชาภัทร หัวหน้าสาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID - 19 และนโนบาย Social Distancing ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่พบว่าหันมาใช้สื่อออนไลน์ในการใช้ชีวิตประจำวันในด้านต่าง ๆ กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเพื่อติดตามข่าวสาร ใช้เพื่อการสื่อสาร หรือรับชมความบันเทิงต่าง ๆ ตลอดจนช้อปปิ้งสินค้า ฯลฯ เป็นต้น จากข้อมูลการวิจัยการตลาดของกลุ่มผู้บริโภค จำนวน 1,035 คน โดยครอบคลุมกลุ่มเจนวาย (Gen Y) กลุ่มเจนเอ็กซ์ (Gen X) กลุ่มเบบี้ บูมเมอร์ (Baby Boomer) และกลุ่มเจนซี (Gen Z) 

พบว่า 3 กิจกรรมบนแฟลตฟอร์มออนไลน์ที่กลุ่มผู้บริโภคเหล่านี้นิยมทำบ่อยที่สุด ได้แก่ ติดตามข่าวสาร คิดเป็น 36% ตามมาด้วยติดต่อสื่อสาร คิดเป็น 20% และดูภาพยนตร์ คิดเป็น 16% ตามลำดับ โดยมีแฟลตฟอร์มออนไลน์ เฟซบุ๊ก (Facebook) เป็นช่องทางที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ติดตามข่าวสารมากที่สุด เนื่องจากมีความหลากหลายของข้อมูล มีความสะดวก รวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ ตามมาด้วย ทวิตเตอร์ (Twitter) และไลน์ (Line) 

นอกจากนี้ยังพบว่าการทำการตลาดแบบ “Happy Marketing” ผ่านแพลตฟอร์มความบันเทิงต่างๆ หรือที่เรียกว่า เอ็นเตอร์เทนเม้นท์แพลตฟอร์ม กำลังเป็นที่นิยม ไม่ว่าจะเป็น TikTok, Netflix, Youtube, Joox และ Spotify โดยมีซีรีย์ที่ได้รับความนิยมได้แก่ Crash Landing on You , Kingdom และ Game of thrones รวมถึงเล่นเกม ROV, HAYDAY และ LINE GAME เป็นต้น ซึ่งข้อมูลผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นว่า โฆษณาที่จะสามารถมัดใจผู้บริโภคให้รับชมจนจบได้ต้องมีเนื้อหาสนุกสนานขำขันสูงถึง 83% ตามมาด้วยเนื้อหาตื่นเต้นชวนติดตาม 78% และการมีนักแสดงที่ชื่นชอบ 25% ตามลำดับ นอกจากนี้รูปแบบเนื้อหา 3 อันดับแรกที่สามารถดึงดูดผู้บริโภคได้มากที่สุด ได้แก่  รูปภาพ - คิดเป็น 58% 

เนื่องจากสะดุดตา ดูง่าย และไม่เสียเวลา โดยกลุ่มเจนวายและกลุ่มเจนซีจะหยุดดูรูปภาพที่สวยหรือสื่อความหมายสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ของตนเอง ส่วนกลุ่มเจนเอ็กซ์และกลุ่มเบบี้บูมเมอร์จะหยุดดูรูปภาพที่มีข้อความโดนใจ วิดีโอ - คิดเป็น 29% โดยวิดีโอที่มีเนื้อหาตลกและสนุกสนานได้รับความนิยมมากที่สุด ตามมาด้วยวิดีโอที่มีเนื้อหาสั้น ๆ กระชับ และ Cover Video ที่น่าสนใจ ตามลำดับ ข้อความ -  คิดเป็น 13% ซึ่งรูปแบบข้อความที่มัดผู้บริโภคได้อยู่มัดคือต้องมีความกระชับ โดนใจ และสะดุดตา โดยเนื้อหาที่ใช้ควรเป็นประเด็นเด่นหรือข้อมูลสำคัญ 

ด้าน นางสาวจีรวรรณ เอี่ยมสำอางค์  และนางสาวสุธาสินี รวดเร็ว นักศึกษาสาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หัวหน้าทีมข้อมูลงานวิจัยและหัวหน้าทีมเก็บข้อมูลงานวิจัย  “How to Hook” เทคนิคมัดใจลูกค้ายุคดิจิทัล กล่าวว่า ทีมวิจัยได้เสนอกลยุทธ์ 4E ยกกำลัง 2 ที่นักการตลาดหรือผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้ในการทำการตลาดบนแฟลตฟอร์มออนไลน์เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อแบรนด์ โดยกลยุทธ์ 4E กำลัง 2 ประกอบด้วย 

4E เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจ (Attention) ได้แก่ 

  • Easy คือการสร้างคอนเทนต์ให้เข้าใจง่ายและกระชับ 
  • Engagement ดึงดูดความสนใจด้วยการสร้างเนื้อหาที่มีรูปภาพหรือวิดีโอที่เป็นเชิงไลฟ์สไตล์ มีความสนุกสนานให้เข้าถึงความรู้สึกของคนได้ง่ายเพื่อให้เกิดการอยากมีส่วนร่วม 
  • Exclusive นำเสนอคอนเทนต์ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ เพื่อให้เป้าหมายรู้สึกได้ถึงความพิเศษเฉพาะ 
  • Experience สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่แตกต่าง เพื่อทำให้ผู้บริโภคมีประสบการณ์ที่ดีต่อแบรนด์ 

4E เพื่อสร้างความภักดี (Loyalty) ของผู้บริโภคให้มีต่อแบรนด์ ได้แก่ 

  • Easy แบรนด์ต้องทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย มีความสะดวกสบาย และสามารถเชื่อมต่อ

ทุกความต้องการในการใช้งาน 

  • Engagement สร้างความสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของลูกค้ากับแบรนด์ให้ได้มากที่สุด เช่น การทำกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ 
  • Exclusive ให้มากกว่าที่ลูกค้าคาดหวังด้วยการออกแบบสินค้าและบริการแบบเฉพาะบุคคล
  • Experience สร้างประสบการณ์ที่ดีที่แตกต่างและมีคุณค่าต่อลูกค้า เช่น ระบบสมาชิกสะสมคะแนน เป็นต้น

อย่างไรก็ตามตามผลวิจัยยังเผยให้เห็นว่าการเปลี่ยนแบรนด์เกิดขึ้นได้เสมอบนโลกออนไลน์ ดังนั้นนักการตลาดหรือผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญต่อการสร้างแบรนด์เพื่อป้องกันการเปลี่ยนใจของผู้บริโภคด้วยการหมั่นสร้างความแตกต่าง ผสานการแสดงจุดยืนของแบรนด์อย่างชัดเจนควบคู่ไปกับการสร้างคุณภาพของแบรนด์ในทุก ๆ ด้าน คุณจีรวรรณ กล่าวทิ้งท้าย

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ทีทีบี จับมือ databricks ผสานพลัง Data และ AI สร้างอนาคตการเงินที่ดีขึ้นให้คนไทย

ทีทีบี ตอกย้ำความมุ่งมั่นผลักดันดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับวงการธนาคารไทย จับมือพันธมิตร databricks พร้อมเดินหน้าสร้าง Data-driven Culture ปักธงก้าวสู่ธนาคารที...

Responsive image

LINE SCALE UP เปิดรับสตาร์ทอัพทั่วโลก ต่อยอดธุรกิจกับ LINE ก้าวสู่ระดับสากล

LINE SCALE UP เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน LINE Thailand Developer Conference 2024 ที่ผ่านมา เฟ้นหาสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ และพร้อมต่อยอดธุรกิจร่วมกับ LINE สู่เป้าหมายยกระดับธุรกิจสตา...

Responsive image

MarTech MarTalk 2024 EP.3 จากต้นกล้าสู่ความสำเร็จ ด้วยการพัฒนาคนและ MarTech

ChocoCRM จัดงานใหญ่ส่งท้ายปีกับงาน MarTech MarTalk 2024 EP.3 From Seeds to Success: Driving Business Growth with People and Marketing Technology ได้รับการตอบรับดีอย่างต่อเนื่องเป็น...