Deloitte เผย วิกฤตโควิด-19 เร่งการเปลี่่ยนแปลงในธุุรกิจเอกชน ผู้บริหารส่วนใหญ่มอง Resilience มีความสำคัญต่อกลยุทธ์ของบริษัท | Techsauce

Deloitte เผย วิกฤตโควิด-19 เร่งการเปลี่่ยนแปลงในธุุรกิจเอกชน ผู้บริหารส่วนใหญ่มอง Resilience มีความสำคัญต่อกลยุทธ์ของบริษัท

ดีลอยท์ (Deloitte) ได้เผยแพร่ รายงานกลุ่มตลาดบริษัทเอกชนทั่วโลก เรื่อง Crisis as catalyst: Accelerating transformation โดยเปิดเผยว่า แม้ว่าจะมีความท้าทายในกลุ่มตลาดในปีที่แล้ว ธุรกิจเอกชนมากมายเชื่อว่าธุรกิจของตนสามารถตอบสนองและฟื้นตัว (Resilience) ได้ดีขึ้นหลังจากวิกฤติโควิด-19  มากกว่าสองในสามของผู้นำธุรกิจเอกชนที่ตอบแบบสำรวจเชื่อมั่นว่าองค์กรของตนจะประสบความสำเร็จในระยะเวลาอีก 12 เดือนข้างหน้า 

Deloitte

ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เร่งการดำเนินธุรกิจและกิจกรรมบางประเภทขององค์กร ข้อมูลจากรายงานแสดงให้เห็นว่า 

  • 69 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทเอกชนที่ตอบแบบสำรวจ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นส่วนสำคัญที่เร่งการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิตัล โดยไม่ได้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น แต่เป็นตัวจุดระเบิดเร่งการนำระบบดิจิตัลมาใช้ในองค์กร
  • 63 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทเอกชน คาดว่าจะสร้างพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ 
  • 67 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสำรวจ เชื่อว่าห่วงโซ่อุปทานมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอันเป็นผลกระทบโดยตรงจากการระบาดใหญ่ 

ในการสำรวจผู้บริหารบริษัทเอกชน 2,750 คน ใน 33 ประเทศทั่วโลก ระหว่างวันที่ 21 มกราคม – 9 มีนาคม 2564 ดีลอยท์พบว่า องค์กรส่วนใหญ่อยู่ในระหว่างการสร้างรากฐานในการตอบสนองและฟื้นตัวด้วยองค์ประกอบทั้ง 7 ประการ ได้แก่ กลยุทธ์ การเติบโต การดำเนินการ เทคโนโลยี แรงงาน เงินทุน และสังคม ผู้ที่ตอบแบบสำรวจให้คะแนนความสามารถในการตอบสนองและฟื้นตัวขององค์กรของตนเอง โดยการนำองค์ประกอบทั้งเจ็ดมาปรับใช้ภายในองค์กร โดยผลการสำรวจได้จัดประเภทองค์กรเป็น องค์กรที่มีระดับ Resilience สูง องค์กรที่มีระดับ Resilience กลาง และองค์กรที่มีระดับ Resilience ต่ำ

จากการสำรวจพบว่า บริษัทที่มีระดับ Resilience สูง มองศักยภาพการเติบโตในระยะยาวของตนในเชิงบวกมากกว่าองค์กรที่มีระดับ Resilience ต่ำ  โดย 52 เปอร์เซ็นต์ มีความเชื่อมั่นค่อนข้างสูงในแนวโน้มการเติบโตธุรกิจของตนในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า เมื่อเทียบกับองค์กรที่มีระดับ Resilience ต่ำกว่า ที่มีความเชื่อมั่นเพียง 15 เปอร์เซ็นต์ ในระดับภูมิภาค ผู้นำองค์กรในสหรัฐอเมริกามีความเห็นเชิงบวกมากที่สุดเกี่ยวกับรายได้ กำไร และผลผลิตในปีถัดไปเมื่อเทียบกับผู้นำองค์กรเอกชนอื่นๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ ผู้บริหารเชื่อว่าทั้งการเติบโตและเทคโนโลยี รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิตัล เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดสำหรับองค์การที่มีความสามารถในการตอบสนองและฟื้นตัวได้ 

“การยึดมั่นพันธสัญญาตามเป้าหมายของบริษัทเอกชนตลอดปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้นำเร่งปรับตัวในการตอบสนองต่อความไม่แน่นอนอันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19” มร. เจสัน ดาวน์นิ่ง รองประทาน Deloitte LLP, and ผู้นำ Deloitte Private ประจำประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าว “รายงานเราแสดงให้เห็นว่าองค์กรเอกชนมีการขับเคลื่อนไปข้างหน้าในหลากหลายด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิตัล การปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทาน และอนาคตการทำงาน การวิจัยยังเน้นย้ำระดับคะแนนที่แตกต่างกันระหว่างองค์กรที่มีระดับ Resilience ต่ำและสูง โดยองค์กรที่มีระดับ Resilience สูงมีแนวโน้มที่จะลงทุนเพื่อการเติบโตและประเมินเป้าหมายขององค์กรในสังคมวงกว้างมากขึ้น”

“การวิจัยครั้งนี้สอดคล้องกับลูกค้าดีลอยท์จำนวนมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ที่การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กรธุรกิจ เพื่อให้สามารถรับมือกับความท้าทายที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและไม่แน่นอน แม้ว่าจะเห็นได้ชัดว่ามีความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลง แต่เส้นทางการเปลี่ยนแปลงยังเป็นสิ่งที่ท้าทาย Digital Solutions มีความสำคัญต่อบริษัทต่างๆ มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากซีอีโอพยายามปรับการดำเนินงานปัจจุบันให้เหมาะสมในขณะที่สร้างแพลตฟอร์มสำหรับนวัตกรรมในอนาคตและความได้เปรียบในการแข่งขัน” มร. ริชาร์ด ลอย ผู้นำ Deloitte Private ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศสิงคโปร์ กล่าว

ประเด็นสำคัญอื่นๆ จากรายงานการสำรวจฉบับนี้ ได้แก่

การคาดการณ์การเติบโตและวางแผนอัตรากำลังพล

ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่เชื่อว่าบริษัทของตนจะฟื้นตัวจากวิกฤติภายในอีก 12 เดือนข้างหน้า แต่ยังเชื่อว่าผลกระทบในวงกว้างจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะยังคงส่งผลอย่างต่อเนื่องในอีกหลายปีถัดมา บริษัทเอกชนดูเหมือนได้วางรากฐานสำหรับการเปลี่ยนแปลงกำลังคน โดยจัดการให้มีความยืดหยุ่นในการทำงานและปรับรูปแบบองค์กรให้มีความคล่องตัว และมุ่งความสำเร็จของงานมากขึ้นด้วยโครงสร้างทีมงานขนาดเล็กลง มีความอิสระ จากผลสำรวจ พบว่า

  • องค์กรที่มีระดับ Resilience สูง จำนวน 19 เปอร์เซ็นต์ กล่าวว่า พวกเขาได้เปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานในองค์กรอย่างเต็มรูปแบบเรียบร้อยแล้ว และ 38 เปอร์เซ็นต์กล่าวว่าองค์กรของพวกได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงมาได้แล้วครึ่งทาง
  • องค์กรที่มีระดับ Resilience สูง จำนวน 66 เปอร์เซ็นต์ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มกำลังคนของตนในปีถัดไปมากกว่าองค์กรที่มีระดับ Resilience ต่ำ คิดเป็นจำนวน 48 เปอร์เซ็นต์

การให้ความสำคัญกับประโยชน์ของการนำเทคโนโลยีดิจิตัลมาใช้

ผู้บริหารมีความคาดหวังเกี่ยวกับประโยชน์ที่จะได้รับจากการลงทุนในเทคโนโลยีขององค์กรเอกชนในหลากหลายด้าน และพวกเขาวางแผนจะเพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง จากผลสำรวจ พบว่า 

  • องค์กรที่มีระดับ Resilience สูง จำนวนมากกว่า 2 เท่าตัว เมื่อเทียบกับองค์กรที่มีระดับ Resilience ต่ำ (โดยคิดเป็น 80% และ 43% ตามลำดับ) กล่าวว่าการนำเทคโนโลยีดิจิตัลมาใช้ในองค์กรเริ่มขึ้นก่อนการระบาดหรืออยู่ระหว่างการดำเนินการ 
  • ความแตกต่างในการให้ความสำคัญของการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการเติบโตขององค์กรระหว่างองค์กรที่มีระดับ Resilience สูง และองค์กรที่มีระดับ Resilience ต่ำอยู่ที่ 18% 

บริษัทยังขยายขอบเขตการลงทุนในเทคโนโลยีให้กว้างขึ้น ภายในอีก 12 เดือนข้างหน้า 39% ของผู้ตอบแบบสำรวจคาดว่าเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยด้านข้อมูลสารสนเทศจะได้รับความนิยมในการลงทุนมากที่สุด และเทคโนโลยีเกี่ยวกับบริการ cloud computing (38%) และการวิเคราะห์ข้อมูล (37%) จะได้รับความนิยมการลงทุนในสัดส่วนที่ลดหลั่นลงมา

ให้ความสำคัญกับจุดมุ่งหมายหลักขององค์กรมากขึ้น

Jason Downing

จุดมุ่งหมายและความไว้วางใจเป็นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแยกกันขาดจากวัฒนธรรมองค์กรเอกชน แต่ได้รับความสำคัญมากยิ่งขึ้นในปี 2020 จากผลสำรวจ พบว่า 

  • เกือบ 70% ของผู้ตอบแบบสำรวจ กล่าวว่า วิกฤติโควิด-19 ส่งผลให้จุดมุ่งหมายหลักมีความสำคัญต่อบริษัทของตนมากยิ่งขึ้น
  • องค์กรที่มีระดับ Resilience สููง อยู่ในระดับแนวหน้าในประเด็นนี้ โดย 84 เปอร์เซ็นต์ ของผู้บริหารของบริษัทดังกล่าวระบุว่าพวกเขาได้ให้ความสำคัญต่อจุดมุ่งหมายหลักมากขึ้น 

“จากการแพร่ระบาดครั้งนี้ เราได้เรียนรู้ว่าวิธีที่บริษัทคิด ดำเนินการ และลงทุน เป็นลักษณะเด่นของการตอบสนองและฟื้นตัวและการเร่งการเปลี่ยนแปลง และมีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นประเด็นสำคัญสำหรับองค์กรและการคงไว้ซึ่งอำนาจขององค์กรต่อไป” มร. เจสัน ดาวน์นิ่ง กล่าวเสริม

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงาน Deloitte Private, “Crisis as catalyst: Accelerating transformation” สามารถเข้าชมผ่านทางเว็บไซต์ www.deloitte.com/insights/deloitte-private-global-survey-2021


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ไทยพบเอสโตเนีย แลกเปลี่ยนมุมมองรัฐบาลดิจิทัล ศึกษาต้นแบบ e-Government

ไทยเปิดใจเรียนรู้จากเอสโตเนีย ระบบ e-Government ที่ประชาชนไว้วางใจ...

Responsive image

ม.มหิดล ชูความสำเร็จผลงานนวัตกรรมวัคซีนไข้เลือดออกเดงกี ชนิดเข็มเดียว เตรียมผลักดันออกสู่ตลาดโลก

โรคไข้เลือด เป็นหนึ่งในโรคประจำถิ่นในทุกประเทศเขตร้อนของโลกรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี มียุงลายหรือยุงรำคาญเป็นพาหะนำโรคมาสู่คน และในปัจจุบันมีประชากรประม...

Responsive image

ททท. ประกาศผู้ชนะ TAT Travel Tech Startup 2024 ทีม HAUP คว้าชัย ร่วมผลักดัน ท่องเที่ยวไทยกับ 11 ทีม Travel Tech

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศผลผู้ชนะโครงการ TAT Travel Tech Startup 2024 กิจกรรมบ่มเพาะและโจทย์ด้านการท่องเที่ยวสุดท้าทาย ร่วมกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้แนวคิด WORLD...