บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จัดพิธีเปิดตัวโซลูชันสมาร์ตฟาร์ม (Smart Farm Solution) ฟาร์มอัจฉริยะแห่งแรกของ Delta สำหรับวิสาหกิจชุมชนในประเทศไทย โดยเดลต้าสมาร์ตฟาร์มเป็นส่วนหนึ่งในโครงการของบีโอไอภายใต้ชื่อ มาตรการส่งเสริมการลงทุนเศรษฐกิจฐานราก (Investment Promotion Measures for Grassroots Economy) 

ซึ่งเป็นโครงการร่วมระหว่างบีโอไอ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และเทศบาลตำบลแพรกษา มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจระดับฐานรากของประเทศไทย

โซลูชันเดลต้าสมาร์ตฟาร์มที่ขับเคลื่อนด้วย IoT นี้ได้รับการออกแบบอย่างเฉพาะและเหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของวิสาหกิจชุมชนในท้องถิ่นของประเทศไทย โดยควบคุมด้วยซอฟต์แวร์ระดับโลก VTScada พร้อมอุปกรณ์ระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติของเดลต้าดังนี้:

• ตัวควบคุมลอจิกแบบตั้งโปรแกรมได้ (PLC)
• อุปกรณ์ควบคุมความเร็วรอบมอเตอร์ (VFD)
• หน้าจอระบบสัมผัสควบคุมระบบ Human Machine Interface (HMI)
• เราท์เตอร์อุตสาหกรรมไร้สาย 4G

โซลูชันนี้ใช้ประโยชน์จากระบบอัตโนมัติในการปรับปรุงประสิทธิภาพ ลดแรงงานคน และประหยัดน้ำ มีระบบโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ขนาด 5.4 kWp ที่ถูกนำมาใช้ 100% สำหรับการดำเนินงานของสมาร์ตฟาร์ม มีระบบบำบัดน้ำเสียแบบรีเวอร์สออสโมซิส (Reverse Osmosis) ช่วยให้สามารถนำน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่อีกครั้งเพื่อลดการใช้น้ำ 

โดยระบบนำน้ำกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ มีปริมาณการใช้น้ำเพียง 10% ถึง 20% เมื่อเทียบกับความต้องการปกติ นอกจากการติดตั้งและใช้งาน วิศวกรผู้เชี่ยวชาญของเดลต้า ประเทศไทย จะให้การสนับสนุนธุรกิจในท้องถิ่นผ่านการฝึกอบรมและการบริการลูกค้าอย่างครบวงจร

เดลต้าทำงานร่วมกับเทศบาลแพรกษาเพื่อคัดเลือกวิสาหกิจชุมชนเงาะป่าพาราไดซ์เป็นวิสาหกิจชุมชนนำร่อง 3 ปี สำหรับโซลูชันแรกในประเทศไทยนี้ โครงการนี้คาดว่าจะเติบโตไปสู่รูปแบบธุรกิจที่เป็นไปได้ ในขณะเดียวกันยังช่วยพัฒนาคุณภาพและกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรเพื่อก้าวสู่ตลาดในอนาคต

คุณแจ็คกี้ จาง ประธานบริหารบริษัท เดลต้า ประเทศไทย กล่าวที่งานว่า "บริษัทรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เปิดตัวฟาร์มอัจฉริยะแห่งแรกของเดลต้าในประเทศไทย และเริ่มบทใหม่ของนวัตกรรมและความร่วมมือเพื่อสังคมที่ยั่งยืน บริษัทหวังว่าโครงการนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการทำฟาร์มอัจฉริยะรูปแบบใหม่ที่จะปฏิวัติภาคการเกษตรของประเทศไทยและสร้างประโยชน์ต่อชุมชนทั่วประเทศ บริษัทมุ่งหวังที่จะได้ร่วมงานกับบีโอไอ และกนอ. รวมถึงพันธมิตรภาครัฐและเอกชน เพื่อนำโซลูชันระดับโลกอื่น ๆ มาปรับใช้ภายในประเทศต่อไป”

เดลต้ามีประสบการณ์มาอย่างยาวนานในด้านการพัฒนาโซลูชันสมาร์ตฟาร์มในประเทศสิงคโปร์เพื่อตอบสนองความต้องการในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอาหาร และพัฒนาความมั่นคงด้านอาหารให้ดียิ่งขึ้น ในปี 2564 เดลต้าได้เปิดตัวโรงงานอัจฉริยะแบบตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 12 เมตรที่ย่านดิจิทัลพังกอล (Punggol Digital District : PDD) ในประเทศสิงคโปร์ ภายในตู้คอนเทนเนอร์แสดง

โซลูชันอัจฉริยะต่าง ๆ จากเดลต้า ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีระบบควบคุมอัตโนมัติ โซลูชันพัดลมและการจัดการความร้อน และหลอดไฟ LED เมื่อเทียบกับการทำฟาร์มแบบดั้งเดิม ระบบฟาร์มอัจฉริยะใช้น้ำน้อยลงถึง 5% ทั้งยังลดระยะเวลาในการปลูกจาก 40-45 วัน เหลือเพียง 35 วัน โดยผลผลิตมีน้ำหนักและคุณภาพที่สม่ำเสมอมากขึ้น

เดลต้ามุ่งมั่นใช้ประโยชน์จากระบบอัตโนมัติและโซลูชันพลังงานหมุนเวียนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจชุมชน พร้อมสร้างประโยชน์ต่อสังคม การเปิดตัวโซลูชันฟาร์มอัจฉริยะของเดลต้าในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามคำมั่นสัญญาของแบรนด์: Smarter. Greener. Together.