มูลค่าการส่งออกเดือนพฤษภาคม 2021 ขยายตัวถึง 41.6%YOY นับเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงสุด ในรอบเกือบ 11 ปี และหากหักทองคำการส่งออกจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 48.8%YOY ทำให้ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2021 มูลค่าการส่งออกขยายตัวที่ 10.8%YOY และหากไม่รวมทองคำ การส่งออกจะเติบโตถึง 18.6%YOY
ด้านการส่งออกรายสินค้า พบว่าการส่งออกสินค้าสำคัญทุกประเภทมีการขยายตัว โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัวสูง ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์
ด้านการส่งออกรายตลาด พบว่าการส่งออกขยายตัวทุกตลาดสำคัญ โดยเฉพาะอินเดีย สหภาพยุโรป และกลุ่มอาเซียน 5
การส่งออกเดือน พ.ค. 2021 มีการขยายตัวในทุกหมวดสินค้าสำคัญและทุกตลาดสำคัญ
สินค้าส่งออกหลักที่เป็นปัจจัยบวกต่อการขยายตัวของการส่งออก ได้แก่ รถยนต์ น้ำมันสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ยาง และเม็ดพลาสติก ขณะที่การส่งออกทองที่หดตัวเป็นปัจจัยฉุดสำคัญ
ด้านมูลค่านำเข้าในเดือนพฤษภาคม 2021 ขยายตัวในอัตราเร่งที่ 63.5%YOY ต่อเนื่องจากการขยายตัวที่ 29.8%YOY ในเดือนก่อนหน้า โดยเป็นการขยายตัวในทุกหมวดนำเข้าสำคัญ ได้แก่ สินค้าเชื้อเพลิง (203.3%YOY), สินค้าทุน (35.9%YOY), สินค้าอุปโภคบริโภค (33.9%YOY) และยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง (71.7%YOY)
ขณะที่การนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปขยายตัวเช่นกันที่ 61.7%YOY แต่หากหักทองคำจะเหลือขยายตัวที่ 61.1%YOY แต่ก็ยังนับเป็นการขยายตัวที่สูงมาก ซึ่งส่วนหนึ่งของการนำเข้าวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นอาจนำไปผลิตสินค้าส่งออก จึงเป็นสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นตัวของภาคส่งออกในระยะต่อไป ทั้งนี้ช่วง 5 เดือนแรกของปี 2021 การนำเข้าขยายตัวที่ 21.5%YOY ขณะที่ดุลการค้าช่วง 5 เดือนแรกเกินดุลที่ 1,494.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การส่งออกเดือนพฤษภาคม 2021 ขยายตัวสูงจากปัจจัยฐานต่ำ สอดคล้องกับตัวเลขส่งออกของหลายประเทศทั่วโลก โดยจากรูปที่ 3 จะเห็นได้ว่ามูลค่าส่งออกของหลายประเทศส่งออกสำคัญของโลกล้วนมีอัตราเติบโตสูงมากในช่วงหลัง เนื่องจากปัจจัยฐานต่ำปีที่แล้วที่ทั้งโลกมีมาตรการปิดเมืองเข้มข้น จนส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานการผลิตเพื่อส่งออก (supply chain disruption) ทั้งนี้หากพิจารณามูลค่าการส่งออกของไทยแบบปรับฤดูกาล จะพบว่าการส่งออกไทยปรับลดความร้อนแรงลงมาระดับหนึ่งหลังจากฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในช่วงก่อนหน้า สะท้อนจากการหดตัวเมื่อเทียบกับเดือนเมษายนในปีนี้แบบปรับฤดูกาลที่ -3.5%mom_sa แต่ในภาพรวมยังถือได้ว่ามูลค่าการส่งออกที่ชะลอลงสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ส่งออกทั้งปี 2021 ของ EIC ที่ 15.0%YOY โดยคาดว่า เดือนมิถุนายนจะเป็นอีกเดือนที่มูลค่าการส่งออกจะขยายตัวในระดับสูงจากปัจจัยฐานต่ำ ก่อนอัตราเติบโตจะทยอยปรับลดลงในช่วงที่เหลือของปี
การส่งออกเดือน พ.ค. 2021 ขยายตัวสูงจากปัจจัยฐานต่ำ สอดคล้องกับตัวเลขส่งออกของหลายประเทศทั่วโลก แต่หากพิจารณามูลค่าการส่งออกของไทยแบบปรับฤดูกาล พบว่าปรับลดความร้อนแรงลงมาบ้าง สะท้อนจากตัวเลข %mom_sa ที่หดตัว
การส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี ต้องติดตามความเสี่ยงของการระบาดรอบใหม่ในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศในอาเซียน ในช่วงที่เหลือของปี เศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามความคืบหน้าในการฉีดวัคซีน ซึ่งจะส่งผลทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เป็นผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในหลายประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและจีน ที่คาดว่าจะมีพัฒนาการด้านการฉีดวัคซีนที่มากกว่ากลุ่มประเทศด้อยและกำลังพัฒนา อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถานการณ์ล่าสุดของจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกจะปรับลดลงจากยอดสูงสุดในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ในช่วงหลังหลายประเทศเริ่มมีการระบาดมากขึ้นจากไวรัสสายพันธุ์อินเดีย สะท้อนจากจำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ยรายวันช่วงล่าสุด (เฉลี่ยวันที่ 1 – 19 มิ.ย.) ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงเดือนก่อน (พ.ค.) โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งเป็นคู่ค้าหลักของไทย ทั้งนี้ต้องติดตามต่อไปว่าการระบาดที่เกิดขึ้นจะลุกลามจนกลายเป็นการระบาดระลอกใหม่ และจะกระทบต่อภาคการส่งออกของโลกและของไทยหรือไม่
แม้ว่าการระบาดทั้งโลกจะปรับดีขึ้นในช่วงหลัง แต่มีบางประเทศที่พบการระบาดมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียนซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต้องติดตามต่อไป
นอกจากนี้ การส่งออกของไทยยังมีปัจจัยกดดันต่อเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) และตู้คอนเทนเนอร์ โดยการขาดแคลนชิปในช่วงปัจจุบันเกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่ การหยุดการผลิตในช่วงก่อนหน้าที่มีการระบาดของ COVID-19 ในปีก่อน ประกอบกับความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มมากขึ้นตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ปัญหาภัยแล้งในไต้หวันซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก รวมถึงการแย่งชิงสต็อกชิปเนื่องจากการแบ่งขั้วเทคโนโลยีระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งการขาดแคลนชิปได้ส่งผลกระทบต่อหลายอุตสาหกรรม เช่น โทรศัพท์มือถือ เครื่องเกมส์ และอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น โดยปัญหาดังกล่าวจะยังเป็นปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยกดดันต่อเนื่องต่อภาคการส่งออกของไทยและโลกในช่วงที่เหลือของปี
ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ล่าสุดได้ปรับตัวแย่ลงอีกครั้งจากการระบาดระลอกใหม่ทางตอนใต้ของจีน โดยในช่วงก่อนหน้า การฟื้นตัวของภาวะการค้าโลกที่เริ่มปรับสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 ขณะที่หลายท่าเรือของทางฝั่งอเมริกาและยุโรปยังไม่สามารถดำเนินการได้จากการระบาดของ COVID-19 จึงทำให้การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เป็นปัญหาเรื่อยมา ต่อมาเกิดวิกฤตการณ์เรือขวางคลองสุเอซในเดือนมีนาคม 2021 จึงยิ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยซ้ำเติมให้สถานการณ์แย่ลง และล่าสุดปัญหาการแพร่ระบาด COVID-19 รอบใหม่ในมณฑลกวางตุ้งของจีน ได้ทำให้เกิดความล้าช้าในการบริหารจัดการสินค้าของท่าเรือเหยียนเทียนและท่าเรือกว่างโจว ซึ่งเป็นท่าเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เป็นลำดับ 3 และ 5 ของโลก จึงทำให้สถานการณ์ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ตึงเครียดเพิ่มเติม สะท้อนจากราคาระวางเรือ (Freight) ที่กลับมาปรับเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงหลัง
การระบาดของ COVID-19 รอบล่าสุดทางตอนใต้ของจีน ได้ซ้ำเติมปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ และทำให้ค่าระวาง (Freight) ปรับเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง
บทวิเคราะห์จาก https://www.scbeic.com/th/detail/product/7648ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด