EVAT จับมือ สอวช. และกระทรวงอุตสาหกรรม พัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์ไฟฟ้า และส่งเสริมการใช้ยานยนต์พลังงานสะอาดในไทย

สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) เเถลงความร่วมมือ 3 ฝ่าย ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ลงนามบันทึกความร่วมมือในการผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมส่งเสริมการใช้ยานยนต์พลังงานสะอาดในไทย

EVAT จับมือ สอวช. และกระทรวงอุตสาหกรรม พัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์ไฟฟ้า และส่งเสริมการใช้ยานยนต์พลังงานสะอาดในไทย

โดยในกรอบความร่วมมือด้านการผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์ไฟฟ้าและส่งเสริมการใช้ยานยนต์พลังงานสะอาดในประเทศไทยดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในประเทศไทยมีการใช้พลังงานสะอาดเพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยลดปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ปัญหาการกระจายของฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ (PM 2.5) ปัญหาโลกร้อนจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อากาศ

ผลักดันการใช้ยานยนต์พลังงานสะอาดในไทย

อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนการใช้งานและการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและส่งเสริมการเรียนรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่ด้านยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการจัดการศึกษาที่เน้นพัฒนาทักษะอาชีพของผู้เรียน อันจะนำไปสู่การสร้างอาชีพและรายได้ที่เหมาะสมต่อไป ร่วมกันส่งเสริมการผลิต และพัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์ไฟฟ้า ผ่านการดำเนินการจัดกิจกรรม ประกวด/แข่งขัน การฝึกอบรม การสัมมนาทางวิชาการ ตลอดจนการส่งเสริมการสร้างทักษะด้านยานยนต์ไฟฟ้าของบุคลากรผ่านการปฏิบัติงานในเครือข่ายอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ

ซึ่งหน้าที่ของ ทั้ง 3 ฝ่าย จะประกอบไปด้วย กระทรวงอุตสาหกรรม ทำหน้าที่ สนับสนุนการต่อยอดและนำความรู้ที่เกิดจากโครงการความร่วมมือไปเป็นข้อมูลเพื่อรองรับการผลิตและพัฒนากำลังคน 

สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ทำหน้าที่ ร่วมดำเนินการหรือสนับสนุนการศึกษาวิจัยและออกแบบนโยบายและมาตรการด้านการสร้างและพัฒนาบุคลากร และถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม การสร้างระบบนิเวศและปัจจัยเอื้อในการพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรม ในส่วนของ  สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย จะทำหน้าที่กำหนดกรอบแนวทางในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า กระตุ้นและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจในยานยนต์ไฟฟ้าทุกรูปแบบ 

ทั้งด้านการฝึกอบรมและการจัดกิจกรรมเสริมต่างๆ เช่น ดำเนินการจัดโครงการแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคต (EVAT x EGAT Electric Motorcycle Conversion Contest for Business Opportunity) ทั้งในภาคประชาชนและสถาบันการศึกษาโดยความร่วมมือจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา การไฟฟ้านครหลวง บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย และบริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด รวมไปถึงการสนับสนุนการจัดอบรมทางวิชาการ (International Electric Vehicle Technology Conference and Exhibition – iEVTech) ที่สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยเป็นเจ้าภาพการจัดงานทุกปี โดยการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ไฟฟ้าจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกมานำเสนอข้อมูลและองค์ความรู้

นายทาวัน ทวีถาวรสวัสดิ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า “กระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมทำการสนับสนุน ต่อยอดและนำความรู้ที่เกิดจากโครงการความร่วมมือนี้ ไปเป็นข้อมูลเพื่อรองรับการผลิตและพัฒนากำลังคน และแรงงานในภาคอุตสาหกรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”

ด้าน ดร.กาญจนา วานิชกร รองผู้อำนวยการ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กล่าวว่า สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) พร้อมร่วมดำเนินการ ส่งเสริมด้านการศึกษาวิจัยและออกแบบนโยบาย และมาตรการด้านการสร้างและพัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์สมัยใหม่ ให้สามารถสร้างและถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ดังกล่าว รวมถึงการพัฒนาระบบนิเวศและปัจจัยเอื้อเพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการพัฒนายานยนต์สมัยใหม่ในระดับอุตสาหกรรม

พัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์ไฟฟ้า

ด้านนายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย  กล่าวว่า สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการช่วยผลักดันและพัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์ไฟฟ้า ร่วมกับอีก 2 องค์กรชั้นนำ ได้เเก่ กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) 

ซึ่งกรอบความร่วมมือนี้ ทางสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย เชื่อมั่นว่า จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านบุคลากรในประเทศ ให้มีองค์ความรู้ด้านยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น เพื่อต่อยอดให้ประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางในการผลิตและการจัดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค  อีกทั้งเมื่อมีบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจด้านยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเเล้ว จะช่วยทำให้ประชาชนหันมาสนใจใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หรือยานยนต์ที่มาจากพลังงานสะอาดมากขึ้น และจะช่วยลดปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ในอนาคตต่อไป

โดยระยะเวลากรอบความร่วมมือเพื่อผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์ไฟฟ้าและส่งเสริมการใช้ยานยนต์พลังงานสะอาดในประเทศไทยนี้ มีระยะเวลา 5  ปี นับตั้งเเต่วันที่ลงนามร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ERT จับมือ Ingram Micro Thailand เสริมศักยภาพองค์กรไทยด้วย Google Cloud

ERT ร่วมกับ Ingram Micro Thailand นำ Google Cloud ช่วยยกระดับธุรกิจไทยสู่ยุคดิจิทัล เสริมศักยภาพองค์กรทุกขนาดให้เติบโตอย่างยั่งยืน...

Responsive image

เตรียมพบกับ BITKUB SUMMIT 2025 ในวันที่ 25-26 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์ฯ สิริกิติ์

บิทคับ กรุ๊ป เตรียมจัดงาน BITKUB SUMMIT 2025 มหกรรมการลงทุน สุขภาพ และเทคโนโลยีแห่งอนาคต 25-26 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์ฯ สิริกิติ์ กรุงเทพฯ...

Responsive image

Grey Thailand X Hogarth Thailand พลิกเกมคอนเทนต์ไทย ด้วยพลัง Creative + AI

Grey Thailand และ Hogarth Thailand ผนึกกำลังพลิกเกมการตลาดไทย ด้วยการผสาน Creativity ของมนุษย์เข้ากับ AI และ Martech เพื่อสร้างแคมเปญที่ทั้งโดดเด่น วัดผลได้จริง และตอบโจทย์ทุก Touc...