วงการคอนเทนต์ของไทยเรียกได้ว่ามีการแข่งขันที่สูงขึ้น จากทุกคนทุกอาชีพที่ต่างก็สามารถสร้างคอนเทนต์ของตัวเองได้ หากมองในระยะยาวจะมีเฉพาะตัวจริงในวงการเท่านั้นที่จะยืนหยัดอยู่ในระยะยาวได้ดี

คุณขจร เจียรนัยพานิชย์ ผู้บริหารบริษัท เดอะซีโร่ พับลิชชิ่ง จำกัด เจ้าของเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Mango Zero, Parents One, Thumbsup in Thailand, GG2 และ RAiNMaker ได้เผยในงานว่า ยุคนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด สำหรับครีเอเตอร์ในไทย ทั้งโอกาสและแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ช่วยให้มีโอกาสเติบโตมากขึ้น

นอกจากนี้ ทางทีม RAiNMaker Research ยังได้เผยผลวิจัยเกี่ยวกับการทำคอนเทนต์ในลักษณะโฆษณาของไทยด้วยว่า มีแนวโน้มในการทำคลิปวิดีโอที่มากขึ้น รวมถึงผู้ชมก็มีส่วนร่วมกับวิดีโอมากกว่าเดิม ส่งผลให้แบรนด์และสื่อต่างๆ มีแนวโน้มปรับตัวมาทำคอนเทนต์วิดีโอมากขึ้นในอนาคต

“อย่างไรก็ดี อุปสรรคของการเป็นครีเอเตอร์ในไทยมีอยู่ 3 อย่าง นั่นคือการที่วงการนี้ ไม่ได้มีการรวมกลุ่มที่ชัดเจนมากนัก ทำให้ขาดการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน รวมไปถึงการที่แพลตฟอร์มต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วทำให้การหาข้อมูลหรือคลังความรู้เป็นเรื่องยากขึ้น สุดท้ายคือการที่สถาบันการศึกษาต่างๆ ยังไม่สามารถผลิตคนทำสื่อออนไลน์ได้ตรงตามที่ตลาดต้องการ จึงยังขาดแคลนคนในวงการคอนเทนต์ออนไลน์อีกจำนวนมาก”

ซึ่งงาน iCreator Conference 2019 ถูกจัดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทั้ง 3 ข้อนี้ คือ ให้เจ้าของแพลตฟอร์มต่างๆ ได้มาเผยเคล็ดลับการสร้างคอนเทนต์ และเครื่องมือต่างๆ ที่จะช่วยเสริมคุณภาพในการทำคอนเทนต์ได้ดีขึ้น ภายในงานครั้งนี้ จะมีแพลตฟอร์มชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, YouTube, Twitter และ LINE Thailand ที่จะมาเข้าร่วมเพื่อให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนความรู้ที่ทุกคนควรรู้

นอกจากนี้ ยังมีโซนพิเศษสำหรับคนที่ต้องการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับครีเอเตอร์มือฉมัง ที่เรียกว่า โซนครีเอเตอร์คลินิค (Creator Clinic) เพื่อให้คำปรึกษาในการสร้างคอนเทนต์ต่างๆ กับเหล่าคนดังที่เราสนใจแบบ 1 ต่อ 1 ซึ่งจะเป็นอีกสีสันหนึ่งที่น่าสนใจภายในงานครั้งนี้และสุดท้ายคึอการได้รวมกลุ่มครีเอเตอร์ชั้นนำที่มีชื่อเสียงในวงการ

ภายหลังจากงานสัมนา iCreator Conference 2019 ในครั้งนี้ ทางผู้จัดงานยังเผยอีกว่า จะมีการจัดสัมมนาย่อยเป็นประจำทุกเดือนในชื่อ iCreator Meetup พร้อมทั้งมีการจัดเทรนนิ่งที่ชื่อว่า iCreator Workshop เพื่อตอบโจทย์การให้ความรู้กับคนในวงการคอนเทนต์ให้อัพเดทความรู้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังให้ RAiNMaker กลายเป็นศูนย์กลางแห่งคลังความรู้ รวมทั้งเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเทคนิคใหม่ๆ ให้แก่คนทำคอนเทนต์ต่อไปในอนาคต