Klook แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้านการเดินทางท่องเที่ยวชั้นนำ เผยถึงแม้การแพร่ระบาดของโรคจะยังคงอยู่ แต่ Klook พบว่าผู้คนก็ยังคงให้ความสนใจในเรื่องการเดินทางเป็นอย่างมาก โดยได้มีการค้นหากิจกรรมการท่องเที่ยวผ่าน Klook เพิ่มขึ้นมากกว่า 140% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแค่บริษัทมียอดการจองสูงขึ้นถึง 4 เท่าแต่เพียงเท่านั้น ข้อมูลภายในยังชี้ให้เห็นว่า จุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่าง สิงคโปร์ เกาหลี ออสเตรเลีย และมาเลเซียมีการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยวอย่างแข็งแรงโดยมียอดการจองกิจกรรมในจุดหมายปลายทางดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อตลาดสำคัญอย่างญี่ปุ่น ฮ่องกง และไต้หวัน ได้ส่งสัญญาณในการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศ ยอดการค้นหากิจกรรมและยอดการจองกิจกรรมในประเทศดังกล่าวก็เพิ่มสูงขึ้นทันที แสดงให้เห็นถึงความต้องการในการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่มีความตื่นเต้นและพร้อมออกเดินทางอีกครั้ง 

หลังจากที่หลายประเทศผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศ ส่งผลให้มียอดการเดินทางท่องเที่ยวข้ามพรมแดนเติบโตอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 3 เป็นไตรมาสที่การเติบโตแข็งแกร่งที่สุด โดยมียอดการจองเติบโตสูงกว่า 300% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 8 ปี Klook พร้อมพัฒนาฟีเจอร์การเดินทางใหม่ๆ บนแพลตฟอร์ม พร้อมดีลสุดฮอตเพื่อนำเสนอต่อลูกค้า เพื่อตอบรับมาตรการผ่อนคลายการเดินทางของหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยตั้งเป้าที่จะขับเคลื่อนเทรนด์การท่องเที่ยวและช่วยให้ผู้บริโภคค้นพบความสุขในการเดินทางอีกครั้ง 

“ในฐานะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้านการเดินทางท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชีย เราไม่หยุดยั้งในการผลักดันและทดลองสิ่งใหม่ๆ เพื่อพัฒนาการให้บริการให้ออกมาดีที่สุด เราต้องการเป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวให้กลับคืนมา ซึ่งการที่ Klook มีรายได้ที่เติบโตขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และเนื่องในโอกาสครบรอบ 8 ปี เรามีความภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า Klook เติบโตขึ้นไปอีกขั้น จากสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า เราได้เพิ่มขีดความสามารถในการยืดหยุ่นและปรับตัวได้ดีในช่วงสองปีที่ผ่านมา และแน่นอนว่า สิ่งดีๆ อีกมากมายกำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้”  อีธาน หลิน ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารบริษัท Klook กล่าว 

นอกจากนี้ Klook ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐผู้สนับสนุนการท่องเที่ยวของประเทศต่างๆ เพื่อร่วมกันสร้างความมั่นใจในการเดินทางให้กลับมาอีกครั้ง และเร่งสร้างการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวให้กลับคืนมา โดยความร่วมมือดังกล่าวนั้นรวมถึงการช่วยสร้างเนื้อหาด้านการท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าสนใจเพื่อจุดประกายการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยว ตลอดจนการพัฒนาประสบการณ์และกิจกรรมการท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใครเพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง และการสร้างแคมเปญการตลาดระดับภูมิภาคอย่างสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมและดึงดูดความต้องการของผู้บริโภคให้เดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง โดยความร่วมมือล่าสุด Klook ได้จับมือกับการท่องเที่ยวประเทศสิงคโปร์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย องค์การการท่องเที่ยวเกาหลี และการท่องเที่ยวประเทศออสเตรเลีย

เมื่อการท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัวกลับคืนมา นักท่องเที่ยวต่างมีความตื่นเต้นและมองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เชื่อถือได้และมีคุณภาพเพื่อนำมาแบ่งปันกัน ซึ่ง Klook ได้เตรียมพร้อมและพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างประสบการณ์การจองและค้นหากิจกรรมท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก ง่ายดาย และคุ้มค่า 

โดยคุณลักษณะโดดเด่นที่ Klook ได้ทำการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นคือ การปรับโฉมฟีดการค้นหาจุดหมายปลายทางที่ขับเคลื่อนโดยเนื้อหาที่ผู้ใช้จริงสร้างขึ้นเองจากการรีวิวกิจกรรม Klook โดยรีวิวดังกล่าวได้ผ่านการตรวจสอบแล้วและมีมากกว่า 7 ล้านรายการ ด้วยข้อมูลที่หลากหลายทั้งเก่าและใหม่ ครอบคลุมกิจกรรมท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศจะสามารถทำให้ลูกค้าได้รับคำแนะนำจากผู้ใช้งานจริงในพื้นที่นั้นๆ นอกจากนี้ Klook ยังเปิดตัวฟีเจอร์สำหรับการเดินทางใหม่ ซึ่งให้ผู้ใช้สร้างแผนการเดินทางส่วนบุคคลได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งสามารถใช้แบ่งปันกับเพื่อนและครอบครัวได้อย่างง่ายดาย