กรุงศรี และ Grab ให้สินเชื่อเพื่อร้านอาหารใน Grab วงเงิน 500,000 บ. ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน | Techsauce

กรุงศรี และ Grab ให้สินเชื่อเพื่อร้านอาหารใน Grab วงเงิน 500,000 บ. ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) และ แกร็บ ประเทศไทย ต่อยอดความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่เกี่ยวข้องในระบบวงจรธุรกิจของแกร็บ 

ล่าสุดเปิดตัว “สินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อร้านอาหารพาร์ทเนอร์ GRAB” วงเงินสูงสุด 500,000 บาท ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ หรือผู้ค้ำประกัน ผ่อนสบายๆ 12 เดือน  ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 14.99% ต่อปี สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารที่เป็นพาร์ทเนอร์แกร็บที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนและสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจต่อไปโดยไม่สะดุด 

คุณพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและเครือข่ายการขาย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “การร่วมลงทุนและเป็นพันธมิตรกับแกร็บนับเป็นการผสานพลังพันธมิตรที่แข็งแกร่งในประเทศไทย ความร่วมมือนี้ทำให้กรุงศรีสามารถใช้ความเชี่ยวชาญด้านการเงินและศักยภาพความเป็นผู้นำตลาดด้านสินเชื่อบุคคลส่งมอบนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินให้แก่ลูกค้า ร้านค้า และผู้ขับขี่ของแกร็บ ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนรวมถึงผู้ประกอบการร้านอาหารจำนวนมากที่เป็นพาร์ทเนอร์แกร็บ ทำให้ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ส่งผลให้ยอดขายโดยรวมลดลงในขณะที่ยังต้องแบกรับต้นทุนคงที่จำนวนหนึ่ง 

ดังนั้น กรุงศรีจึงได้ออกผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อร้านอาหารพาร์ทเนอร์ GRAB” เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการเสริมสภาพคล่องกิจการ หรือนำไปใช้เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงสู่ New Normal ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีอยู่ในตลาด”

“กรุงศรีและแกร็บได้ร่วมกันพัฒนาระบบการอนุมัติสินเชื่อใหม่ (Credit Scoring) รวมถึงการใช้ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าในกระบวนการพิจารณาสินเชื่อเพื่อสร้างประสบการณ์ทางการเงินเหนือระดับผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลสู่กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งธนาคารคาดว่าจะมีร้านอาหารพาร์ทเนอร์ของแกร็บให้ความสนใจสินเชื่อส่วนบุคคลนี้จำนวนมาก” นายพงษ์อนันต์กล่าวเพิ่มเติม

คุณวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า“แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ปได้เดินหน้าพัฒนาฟินเทคโซลูชันครบวงจร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ผ่านการสนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงินของคนในประเทศ ซึ่งท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน แกร็บเล็งเห็นว่า บริการด้านสินเชื่อที่มีรูปแบบการผ่อนชำระที่สอดคล้องกับความสามารถในการชำระคืนของผู้ประกอบการจะเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ เราจึงร่วมมือกับกรุงศรีในการนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อระยะสั้นแก่พาร์ทเนอร์ร้านอาหาร พร้อมแผนการผ่อนชำระแบบรายวัน ซึ่งจะช่วยให้ร้านค้าสามารถบริหารจัดการด้านการเงินได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มจากกลุ่มพาร์ทเนอร์ร้านอาหารขนาดกลาง ซึ่งมีสาขาไม่มาก แต่มียอดขายดี ก่อนจะขยายสู่กลุ่มร้านอาหารรายย่อยต่อไปในอนาคต แกร็บเชื่อมั่นว่าความร่วมมือกับกรุงศรีในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) ของคนไทย”

ร้านอาหารที่อยู่บนแพลตฟอร์มแกร็บสามารถสมัคร “สินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อร้านอาหารพาร์ทเนอร์ GRAB” ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ www.krungsri.com หรือ https://bit.ly/2zBlZJ4 โดยไม่มีค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้ สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิ.ย. 2563

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

แอดวานซ์เทค ติดท็อป 5 ‘Best Taiwan Global Brands’ 7 ปีซ้อน ขับเคลื่อน Edge AI ด้วยมูลค่า 2.8 หมื่นล้าน

แอดวานซ์เทค (Advantech Co., Ltd.) ผู้นำด้านอุตสาหกรรม IoT ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 5 แบรนด์ชั้นนำระดับโลกของ "2024 Best Taiwan Global Brands" ด้วยมูลค่าแบรนด์ 851 ล้านดอลลาร์...

Responsive image

PLEX MES ก้าวสู่อนาคต ยกระดับอุตสาหกรรมการผลิต ด้วย Smart Manufacturing Solutions

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา วงการอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการแนะนำ PLEX MES โซลูชันที่เปรียบเสมือน "สมองดิจิทัล" สำหรับโรงงานยุคใหม่ ระบบนี้ถูกออกแบบ...

Responsive image

ทีทีบี คว้ารางวัลธนาคารที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าธุรกิจ Thailand Best Bank for Corporates

ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) คว้ารางวัล Thailand Best Bank for Corporates จาก Euromoney Awards 2024 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนธุรกิจไทยด้วยโซลูชันดิจิทัลและความยั่งยืนผ่านกรอบ B+ESG พร...