ปัจจุบัน ยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงหลากหลายอย่างเกิดขึ้นแบบก้าวกระโดด หลายองค์กรต้องเผชิญความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องมีการปรับตัวเพื่อให้ทัน และพร้อมรับมืออยู่ตลอด ฉะนั้นในยุคที่เศรษฐกิจดิจิทัลมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลานี้ ความคาดหวังของลูกค้าก็มักเพิ่มสูงขึ้นตามอย่างต่อเนื่อง Digital Transformation จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเอาตัวรอดจากความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไปได้

Montivory ผู้นำด้านการปรับเปลี่ยนองค์กร Digital Transformation ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงให้ธุรกิจหรือองค์กรมีความพร้อมในโลกดิจิทัลมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่เรียกว่าเป็น Digital Transformation ได้อย่างสมบูรณ์แบบก็คือ นอกจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้แล้ว การวางยุทธศาสตร์ แนวคิดการมีส่วนร่วมของบุคลากรในองค์กร รวมถึงวิสัยทัศน์ของผู้นำที่พร้อมจะรับสิ่งที่เปลี่ยนแปลง การมีและใช้นวัตกรรมให้เกิดประโยชน์ และการเก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์ การนำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มาใช้ครบถ้วน จึงจะนับได้ว่าเป็น Digital Transformation อย่างแท้จริง

แต่อย่างไรก็ตาม มีหลายองค์กรคิดว่าต้องรีบเข้าไปทำ Digital Transformation หรือ แค่มองหาเทคโนโลยี หรือเครื่องมือล้ำๆ เข้ามาใช้ โดยที่ยังตอบคำถามเกี่ยวกับธุรกิจได้ไม่ชัดเจนถึงทิศทาง กลยุทธ์ และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ ไปจนถึงวิธีการที่จะนำมาปรับใช้ให้เข้ากับธุรกิจของตนเอง  การ Transform ไม่ได้อยู่ที่ว่าเทคโนโลยีนั้นล้ำสมัยมากแค่ไหน เพราะทั้งหมดขึ้นอยู่กับความต้องการของธุรกิจและกระบวนการทำงาน ว่าจะเข้ามาช่วยเหลือการทำงานนั้น ๆ ได้มากน้อยเพียงใด 

โดยที่เทคโนโลยีเองก็มีความหลากหลาย พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และมีความสามารถที่จะนำมาพัฒนาหรือช่วยองค์กรให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การทำงานแบบ Cloud หรือแม้กระทั่งเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อน (Disruptive Technology) เช่น  Machine Learning หรือ AI และ IoT เหล่านี้ คือ ตัวช่วยให้การทำงานขององค์กรง่ายและสะดวกรวดเร็วมากขึ้น พนักงานสามารถนำเวลาไปใช้กับกระบวนการทำงานอื่นที่สร้างมูลค่าให้ตัวเองและองค์กรได้มากกว่าการต้องทำงานซ้ำๆ เดิมๆ เช่น การทำ Marketing Campaign เพิ่มยอดขายจากข้อมูลที่ AI suggest มาให้ เป็นต้น

“First things first” การให้ความสำคัญกับการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งของธุรกิจด้วยข้อมูล องค์กรจะต้องมีความเข้าใจถึงกระบวนการในการบริหารจัดการข้อมูลที่ถูกต้องของตัวเองก่อน  ถึงจะสามารถปรับใช้และต่อยอดการทำการตลาดในรูปแบบดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นจึงเลือกเครื่องมือในการจัดการข้อมูลเหล่านั้นผ่านคำแนะนำจากผู้ชำนาญการจาก Montivory 

โดยจะมี Service ที่ปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กรให้มี Solutions เฉพาะตัวแตกต่างกันไป ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพ และ คล่องตัวสูงมากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณสุปรีย์ระบุว่า จากประสบการณ์ของ Montivory ก็พบว่าเราไม่สามารถนำ ซอฟต์แวร์เพียงตัวเดียวมาใช้แล้วจะประสบความสำเร็จได้ แต่จะต้องพิจารณาให้เหมาะสมเป็นรายกรณีไป

ทั้งนี้การมีพาร์ตเนอร์ที่ดี ย่อมเสริมความมั่นใจนอกเหนือจาก เครื่องมือหรือ Solutions ที่ดีและเหมาะสมแล้ว ยังสามารถมั่นใจถึงคุณภาพมาตรฐานในระดับโลกได้อีกด้วย ในปัจจุบัน Montivory เป็นพาร์ตเนอร์ร่วมกับบริษัทที่เป็น Tech Enterprise ระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Adobe, Commerce tools, Emplify, Digimind, Braze และอื่นๆอีกมากมาย โดยพื้นฐานของ Montivory คือการเป็น Neutral Consulting มีหน้าที่เป็นตัวกลางในการจัดหาเครื่องมือที่ดีและเหมาะสมที่สุด ให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า จากการทำ Data Analysis ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงกลุ่มเป้าหมาย และเกิดผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ตั้งแต่ต้นด้วย

สำหรับจุดที่ Montivory แตกต่างจากธุรกิจอื่นในแวดวงเดียวกันในตลาดก็คือ “บุคลากร” ทั้งหมดภายใต้แนวคิด Technology-Driven by People ซึ่งคุณสุรีย์ ระบุว่า เครื่องมือหรือ Tools ต่างๆ นั้นสามารถซื้อเข้ามาได้ แต่ก่อนอื่นต้องดูทรัพยากรของตนเองว่ามีศักยภาพเพียงพอหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นบุคลากร เครื่องมือในการทำงาน กระบวนการทำงาน หรือมุมมองของผู้บริหารเองเป็นคนที่มี Digital Mindset ด้วยหรือไม่  สิ่งสำคัญที่จะนำพาองค์กรให้ไปถึงฝั่งฝันคือการปลูกฝังตั้งแต่ฐานรากและวัฒนธรรมขององค์กร ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี การปรับจุดยืนและวิสัยทัศน์ขององค์กรคือสิ่งสำคัญ

Adobe’s Certificate กว่า 59 ใบ คือจำนวน ที่พนักงานของ Montivory มี ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับ Certificate มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้ว่า Montivory จะสามารถให้บริการด้วยความเชี่ยวชาญได้จริงๆ ทีมงาน Montivory สามารถเข้าไปเป็นส่วนช่วยเหลือระบบการทำงานตั้งแต่เริ่ม เช่น การให้คำปรึกษาทางธุรกิจหรือ Business Consulting ที่จะให้คำแนะนำในเรื่องของทิศทาง การเปลี่ยนผ่าน 

รวมถึงกลยุทธ์ที่จะใช้ ตามมาด้วยการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลอย่างถูกต้องหรือ Data Privacy Advisory ที่การขออนุญาตเก็บข้อมูล การเก็บข้อมูล และการนำข้อมูลไปใช้ต่างๆนั้นจะต้องไม่ละเมิดกฎหมายการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลหรือ PDPA เพื่อป้องกันปัญหาทางด้านกฎหมายที่อาจจะเกิดในอนาคต การให้คำแนะนำในเรื่องของการใช้เครื่องมือต่างๆได้ก็มีทีม Technology Consulting ช่วยเหลือได้ มีทีมออกแบบ User Interface เว็บไซต์ ทีม Data Management บริหารจัดการข้อมูล จนถึงทีม Operation Service ที่จะมาช่วยเหลือด้านการใช้งานเครื่องมือทั้งหมด ให้ถูกต้อง เหมาะสม มีการทำงานที่สอดคล้อง ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้

ในวันนี้ Montivory ประสบความสำเร็จอย่างมาก มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจผู้ให้บริการทางโทรคมนาคม, กลุ่มธุรกิจการดูแลสุขภาพ, กลุ่มลูกค้าที่เป็นสินค้าประเภท FMCG แบรนด์ดังระดับโลก และอื่น ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังเงินในการซื้อโฆษณาสูงที่สุด, รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็น Insurance, Automotive, Motorbike, Energy Company, และสถานีวิทยุ

แม้ว่า กลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่ยังคงมี Ranking ของการใช้เทคโนโลยีที่อยู่ในช่วงอันดับ 40 ถึง 50 ของทั้งโลก แต่อันดับความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีนั้น มีเพียง สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทยนั้นที่อยู่ใน 3 อันดับแรก นี่จึงเป็นโอกาสของ Montivory พร้อมให้บริการ พัฒนา และส่งเสริมองค์กรและธุรกิจทุกภาคส่วนมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่มากยิ่งขึ้น ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง

Montivory ประสบความสำเร็จตลอดมาโดยตลอด ด้วยประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ ข้อมูลความรู้และเครื่องมือ ในวันนี้ที่เข้าสู่ปีที่ 4 เป็นปีที่พร้อมจะก้าวไปอีกขั้นกับการขยายตลาดสู่ระดับภูมิภาค ที่จะช่วยยกระดับธุรกิจในภูมิภาคให้ก้าวไปสู่การเป็น Digital Transformation อย่างแท้จริง เราไม่ต้องการก้าวไปข้างหน้าเพียงผู้เดียว แต่เราพร้อมที่จะก้าวและเติบโตไปด้วยกันกับลูกค้าทุกท่าน เพื่อยกระดับชั้นของธุรกิจให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้นและมีความพร้อมไปสู่ระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่องกับ Montivory Go Regional